ทว่าล่าสุด รายงานจาก China Central Television หรือ CCTV เผยว่า จีนเริ่มดำเนินโครงการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลใต้น้ำ ตามรอยโครงการ Project Natick แล้ว
CCTV รายงานว่า โครงการนี้ ตั้งอยู่นอกชายฝั่งเมืองซานย่า ทางตอนใต้ของมณฑลไหหลำ เป็นโครงการศูนย์ข้อมูลเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ ที่จะมีขนาดกว้างถึง 68,000 ตารางเมตรใต้ทะเล ซึ่งจะช่วยประหยัดพื้นที่บนบก และสามารถนำพื้นที่ขนาดดังกล่าวไปใช้ทำพื้นที่อยู่อาศัย หรือสร้างโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้
โครงการนี้ ได้รับความร่วมมือจากเทศบาลเมืองซานย่า และคณะกรรมการกำกับดูแลทรัพย์สินมณฑลไหหลำ ร่วมกับบริษัทเอกชนต่าง ๆ เช่น Beijing Sinnet, Offshore Oil Engineering Company, Beijing Highlander Digital Technology, และ Shenzhen HiCloud เป็นต้น โดยเริ่มต้นตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ การสร้าง ไปจนถึงการปล่อยลงทะเล
CCTV ระบุอีกว่า หน่วยจัดเก็บข้อมูลที่ถูกปล่อยลงทะเล 1 เครื่อง สามารถประมวลผลภาพความละเอียดสูงมากกว่า 4 ล้านภาพใน 30 วินาที เทียบได้กับการทำงานของคอมพิวเตอร์ประมาณ 60,000 เครื่องพร้อมกัน โดยมีแผนติดตั้งให้ได้ 100 เครื่อง ภายในระยะเวลา 5 ปี โดยแต่ละเครื่องจะมีน้ำหนักราว 1,300 ตัน และจะต้องส่งลงไปยังใต้ทะเลที่ความลึก 35 เมตร จึงใช้เวลาค่อนข้างมาก
อย่างไรก็ตาม ศูนย์ข้อมูลแต่ละเครื่องมีอายุการใช้งานยาวนานถึง 25 ปี จึงมั่นใจได้ว่าการลงทุนในครั้งนี้ สามารถสร้างผลตอบแทนระยะยาวได้ และไม่จำเป็นต้องซ่อมแซมหรือเปลี่ยนเครื่องใหม่บ่อยนัก
นอกจากนี้ ยังสามารถประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้ถึง 122 ล้านกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง ประหยัดการติดตั้งระบบระบายความร้อน เนื่องจากตั้งอยู่ใต้ทะเลที่มีความเย็น เป็นการระบายความร้อนแบบธรรมชาติ หากสรุปโดยภาพรวมแล้ว โครงการนี้สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่า 40 – 60 เปอร์เซ็นต์ หากเทียบกับโครงการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลภาคพื้นดิน
CCTV เสริมว่า โครงการนี้ มีกำหนดการแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3 ปี 2025 คาดว่ามีการใช้งบประมาณทั้งหมดกว่า 879 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 3 หมื่นล้านบาท) และเผยว่าจะเตรียมสร้างศูนย์ข้อมูลใต้น้ำเพิ่มอีก 2-3 แห่ง เช่น บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี และบริเวณแม่น้ำจู มณฑลกวางตุ้ง
เรียบเรียงจาก Tom’s Hardware
——————————————————————————————————————————————————-
ที่มา : PPTV / วันที่เผยแพร่ 28 พ.ย.66
Link : https://www.pptvhd36.com/news/ไอที/211381