สำนักงานพัฒนาอวกาศแห่งสหรัฐอเมริกา อนุมัติให้บริษัท L3Harris ผลิตดาวเทียมติดตามขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง 16 ดวง คาดพร้อมใช้ในปี 2025
สำนักงานพัฒนาอวกาศแห่งสหรัฐอเมริกา (United States Space Development Agency หรือ SDA) อนุมัติสัญญามูลค่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 24,300 ล้านบาท ให้บริษัทเทคโนโลยีด้านการสื่อสารและอวกาศสัญชาติอเมริกันอย่างแอลทรีแฮร์ริส (L3Harris) เพื่อผลิตดาวเทียมติดตามขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง 16 ดวง
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจ็กต์ Proliferated Warfighter Space Architecture (PWSA) ของ SDA ซึ่งเป็นเครือข่ายดาวเทียมทหารที่มีความยืดหยุ่นในวงโคจรโลกต่ำ ซึ่งในเครือข่ายนี้จะประกอบด้วยชั้นการขนส่ง (Transport Layer) ซึ่งมีชุดดาวเทียมสื่อสารที่เชื่อมต่อถึงกัน และชั้นการติดตาม (Tracking Layer) ซึ่งมีดาวเทียมเซ็นเซอร์ที่รวบรวมและส่งข้อมูล
ชั้นการติดตามที่ชื่อ แทรนช์-1 (Tranche 1) ของ แอลทรีแฮร์ริส จะใช้เซ็นเซอร์อินฟราเรดและอัลกอริธึมขั้นสูงเพื่อตรวจจับ ติดตาม และรวมข้อมูลภัยคุกคามต่าง ๆ แบบเรียลไทม์ จากนั้นจะส่งข้อมูลไปยังวอร์ไฟท์เตอร์ (warfighter ผู้ที่มีส่วนร่วมโดยตรงหรือสนับสนุนทางการทหาร โดยเฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องกับการสู้รบ) เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินยังสามารถสั่งให้ดาวเทียมรวบรวมข้อมูลเส้นทางต่าง ๆ เพื่อเก็บข้อมูลในเส้นทางที่ต้องการได้
แอลทรีแฮร์ริสให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า “ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงถือเป็นอาวุธที่สร้างความไม่มั่นคงให้เรา เนื่องจากมีรูปแบบการบินที่ตรวจจับได้ยาก จุดปล่อยตัวหลากหลาย และมีความคล่องตัวสูง ดังนั้นเพื่อป้องกันและเอาชนะ สหรัฐฯ จำเป็นต้องมีเซ็นเซอร์ที่ยืดหยุ่นเพื่อให้ตรวจจับเส้นทางการบินเหล่านั้นได้”
แอลทรีแฮร์ริสชนะประมูลตั้งแต่ปี 2022 แต่เพิ่งได้รับไฟเขียวให้เริ่มผลิตได้ คาดพร้อมใช้ในปี 2025 การอนุมัติครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากมีการทบทวนเรื่องการออกแบบ (critical design review : CDR) และการทบทวนความพร้อมด้านการผลิต (production readiness review : PRR) เมื่อสร้างเสร็จแล้ว ดาวเทียมใหม่จะตรวจจับ ติดตาม และติดตามขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงที่มุ่งเป้าไปที่สหรัฐ ฯ และประเทศพันธมิตร
ที่มาข้อมูล InterestingEngineering
ที่มารูปภาพ L3harris
————————————————————————————————————————————-
ที่มา : TNN ONLINE / วันที่เผยแพร่ 23 ธันวาคม 2566
Link : https://www.tnnthailand.com/news/tech/159607/