นอกจากการสู้รบที่หนักหน่วงและวิกฤตในฉนวนกาซา ตอนนี้อีกหนึ่งประเด็นที่ทั่วโลกกำลังกังวลและติดตามอย่างใกล้ชิด คือ การโจมตีเรือขนส่งสินค้าของกลุ่มกบฏฮูตีในทะเลแดง ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือสำคัญไปยังทวีปต่าง ๆ
ตอนนี้ บริษัทขนส่งและบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่ง ตัดสินใจระงับการเดินเรือผ่านน่านน้ำทะเลแดงเป็นการชั่วคราว ล่าสุดมีรายงานว่า เรือพาณิชย์บางลำที่จำเป็นต้องเดินเรือผ่านทะเลแดง ต้องใช้การ์ดประจำเรือเพื่อรักษาความปลอดภัย
แผนที่ติดตามการเดินเรือผ่านน่านน้ำในทะเลแดงของ London Stock Exchange Group หรือ LSEG ที่ชี้ให้เห็นว่า เรือพาณิชย์บางลำแล่นผ่านทะเลแดงและอ่าวเอเดนเมื่อวานนี้ แสดงข้อมูลว่า “armed guards on board” หรือ มีเจ้าหน้าที่ติดอาวุธประจำการอยู่บนเรือ และไม่มีการระบุตำแหน่งท่าเรือปลายทาง
บริษัทขนส่งยักษ์ใหญ่หลายแห่ง ตัดสินใจระงับการเดินเรือผ่านน่านน้ำทะเลแดงเป็นการชั่วคราว หลักถูกโจมตีจากกลุ่มกบฏฮูตี
การเปลี่ยนแปลงสถานะการเดินเรือ เกิดขึ้นหลังจากในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนได้ใช้ขีปนาวุธต่อต้านเรือและโดรนโจมตีเรือพาณิชย์ ที่แล่นผ่านน่านน้ำทะเลแดงและช่องแคบบับ อัล-มันเดบ
ผลจากการโจมตีอย่างหนัก ทำให้บริษัทขนส่งชั้นนำหลายแห่งของโลก เช่น เมอส์ก MSC CMA หรือ CGM ตัดสินใจประกาศระงับการเดินเรือผ่านน่านน้ำทะเลแดง ตั้งแต่เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
ล่าสุดบริษัทบีพี บริษัทผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลกได้ออกประกาศว่า เรือทุกลำของบริษัท จะพักการเดินเรือบริเวณทะเลแดงและภูมิภาคดังกล่าวเป็นการชั่วคราว
ขณะเดียวกัน บริษัทที่ขนส่งผลิตภัณฑ์ด้วยเรือขนาดใหญ่ เช่น บริษัทของเล่นและอิเล็กทรอนิกส์จากเอเชีย ก็ได้ออกมาประกาศว่า จะยุติการเดินเรือเข้าไปยังพื้นที่ดังกล่าวเช่นกัน เนื่องจากกังวลด้านความปลอดภัย
ด้านจอห์น เคอร์บี ผู้ประสานงานเพื่อการสื่อสารเชิงยุทธศาสตร์ของสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุว่า กลุ่มกบฏฮูตีจะต้องหยุดโจมตีเรือที่แล่นผ่านน่านน้ำทะเลแดงทันที และสหรัฐฯ กับพันธมิตรจะทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องเรือพาณิชย์
การออกมาเตือนของจอห์น เคอร์บี มีขึ้นหลังจากเมื่อวานนี้ ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้ออกมาประกาศ ตั้งพันธมิตรร่วมกับอีก 30 ประเทศ ทำภารกิจ Operation Prosperity Guardian เพื่อปกป้องเรือพาณิชย์จากการโจมตีในทะเลแดง
หลังการตั้งพันธมิตรเพื่อปกป้องเรือพาณิชย์ เดวิด คาเมรอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักร ได้ออกมาแสดงความยินดีกับภารกิจเช่นกัน พร้อมกับระบุว่า สหราชอาณาจักรจะให้ยืมเรือสำหรับทำภารกิจนี้ และนี่คือการส่งสารถึงกบฏฮูตีว่าทุกชาติจะไม่ยอมให้การโจมตีเกิดขึ้นและจะปกป้องตนเองจากการโจมตีของฮูตี
นอกจากชาติตะวันตกแล้ว ล่าสุดสหรัฐฯ ได้ออกมาส่งสัญญาณเชิญชวนจีนเข้าร่วมภารกิจปกป้องเรือพาณิชย์ในทะเลแดงด้วย
โดยเมื่อวานนี้ 19 ธ.ค. แมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ออกมาแถลงว่า สหรัฐฯ มีความยินดีหากทางการจีนจะเข้ามีบทบาทเชิงสร้างสรรค์ ในการพยายามป้องกันการโจมตีเรือเดินสมุทรโดยกลุ่มกบฏฮูตี ที่ได้รับการสนับสนุนโดยอิหร่านในเยเมน
ท่าทีต่าง ๆ ที่ออกมาจากสหรัฐฯ และบรรดาพันธมิตรสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของทะเลแดงในฐานะเส้นทางเศรษฐกิจที่สำคัญของโลก ทะเลแดงอยู่ที่ใดและมีความสำคัญอย่างไรต่อการเดินเรือขนส่งสินค้าทั่วโลก
ทะเลแดงคือ หนึ่งในเส้นทางการค้าหลักที่เชื่อมระหว่างยุโรปกับเอเชีย โดยพื้นที่ทางตอนเหนือของทะเลแดงคือ คลองสุเอซ ส่วนด้านใต้คือ ช่องแคบบับ อัล-มันเดบ ซึ่งเป็นจุดออกไปสู่อ่าวเอเดน ทะเลอาหรับ และมหาสมุทรอินเดีย
ทะเลแดงเป็นน่านน้ำที่คับคั่งไปด้วยเรือพาณิชย์ ที่ลัดเลาะผ่านคลองสุเอซเพื่อขนส่งสินค้าระหว่างทวีปเอเชียและยุโรป ในแต่ละวันจะมีเรือราวๆ 50 ลำแล่นผ่านคลองสุเอซ เพื่อข้ามมายังน่านน้ำทะเลแดงและออกไปยังอ่าวเอเดนและมหาสมุทรอินเดีย ผ่านช่องแคบบับ อัล-มันเดบ ใกล้กับเยเมน โดยเรือแต่ละลำ ขนส่งสินค้ามูลค่ารวมๆ กว่า 3,000-9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 100,000-315,000 ล้านบาท
คลองสุเอซ คือ คลองที่มนุษย์ขุดขึ้นในช่วงปี 1859-1869 มีความยาวทั้งสิ้น 193.3 กิโลเมตร กว้าง 300-350 เมตร เพื่อร่นระยะเวลาการเดินเรือ นี่ทำให้เรือพาณิชย์ที่ขนส่งสินค้าประเภทต่างๆ ทั้งน้ำมันดิบและสินค้าอุปโภคบริโภค ไม่ต้องแล่นเรือไปอ้อมแหลมกู๊ด โฮปในนทวีปแอฟริกา เพื่อไปยังช่องแคบมะละกาในทวีปเอเชีย คลองสุเอซลดระยะทางการเดินเรือจาก 20,900 กิโลเมตร เหลือ เพียง 12,000 กิโลเมตรเท่านั้น และใช้เวลาเพียง 26 วัน จากเดิมที่ต้องใช้เวลาถึง 36 วัน
นี่ทำให้คลองสุเอซเป็น 1 ใน 7 จุดที่เรียกว่า geographic choke points หรือจุดที่ถ้าถูกปิดจะส่งผลกระทบต่อโลก ร่วมกับช่องแคบยิบรอลตาร์ บริเวณสเปนและโมร็อคโค ช่องแคบบอสฟอรัสและช่องแคบดาดะแนลส์ บริเวณตุรกี ช่องแคบบับ อัล-มันเดบ บริเวณเยเมน แหลมกู๊ดโฮป บริเวณแอฟริกาใต้ ช่องแคบฮอร์มูซ บริเวณอิหร่านและอ่าวโอมาน และช่องแคบมะละกา บริเวณคาบสมุทรมลายูระหว่างอินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย
การโจมตีเรือพาณิชย์ของกลุ่มกบฏฮูตี ทำให้บริษัทต่างๆ ตัดสินใจเลี่ยงใช้คลองสุเอซ และแล่นเรือลงไปยังแหลมกู๊ดโฮปของแอฟริกา ทำให้ต้องใช้พลังงานและเวลามากกว่าปกติ เพิ่มต้นทุนการขนส่งให้สูงขึ้นกว่าเดิม
นอกจากนี้ การโจมตีของกลุ่มฮูตีทำให้ค่าประกันเรือ ซึ่งเป็นหนึ่งในต้นทุนการเดินเรือ ปรับตัวสูงขึ้น
เดวิส ออสเลอร์ เจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันภัยลิสต์ อินเทลลิเจนส์ (List Intelligence) ได้วิเคราะห์ภาพรวมอุตสาหกรรมทางทะเลทั่วโลกว่า
ต้นทุนประกันภัยของเรือพาณิชย์ในทะเลแดง ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า ซึ่งจะไปเพิ่มต้นทุนในการเดินเรือมากถึงหลักแสนดอลลาร์ หรือราวๆ 3,500,000 บาทต่อเที่ยว หากเป็นเรือของอิสราเอลค่าประกันเรืออาจพุ่งไปเกินร้อยละ 250 จากราคาเดิม ขณะที่บริษัทประกันบางแห่งเลือกที่จะปฏิเสธการคุ้มครองแล้ว
คาร์สเตน เบรซกี หัวหน้าทีมเศรษฐศาสตร์ประจำ ING ธนาคารของเยอรมนี ให้ความเห็นว่า การปิดกั้นคลองสุเอซและการเดินเรือในทะเลแดง จะส่งผลกระทบต่อระบบการขนส่งระดับโลกและทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ
และผลกระทบทางเศรษฐกิจจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ความขัดแย้งดำเนินไป ถ้าความขัดแย้งยุติลงเร็ว ผู้บริโภคอาจไม่ได้รับผลจากการที่ราคาพลังงานสูงขึ้น
แต่ถ้าความขัดแย้งยังคงอยู่ต่อไป ราคาของสินค้าต่างๆ จะปรับตัวสูงขึ้นและทำให้อัตราเงินเฟ้อในไตรมาสแรกของปี 2024 สูงกว่าที่หลายฝ่ายเคยประเมินไว้ก่อนหน้านี้
ขณะเดียวกัน แจน ฮอฟฟ์มันน์ หัวหน้าสาขาโลจิสติกส์การค้าขององค์การการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา หรือ อังค์ถัด (UNCTAD) ระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในทะเลแดงและคลองสุเอซ จะส่งผลทำให้ผู้บริโภคต้องแบกรับราคาสินค้าที่สูงขึ้น
ล่าสุดเมื่อวานนี้ ( 19 ธ.ค.)ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวขึ้นมากกว่าร้อยละ 1 นับตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยราคาน้ำมันดิบของเบรนท์ปรับตัวขึ้น 1.28 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 45 บาทต่อบาร์เรล ไปแตะที่ 79.23 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 2,773 บาทต่อบาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ส่วนสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส อินเตอร์เมดิเอทของสหรัฐฯ สำหรับการส่งมอบล็อตเดือนมกราคม ซึ่งสิ้นสุดการชำระเงินไปเมื่อวานนี้ ราคาเพิ่มขึ้น 97 เซนต์ หรือร้อยละ 1.3 ปิดที่ 73.44 หรือ 2,570 บาทต่อบาร์เรล สูงสุดในรอบสองสัปดาห์
อย่างไรก็ดี กลุ่มกบฏฮูตีเคยออกมาระบุว่า จะหยุดโจมตีเรือต่างๆ ที่แล่นผ่านน่านน้ำทะเลแดงภายใต้เงื่อนไขเดียว คือ อิสราเอลต้องหยุดการโจมตีและสังหารประชาชนในพื้นที่ฉนวนกาซาสำหรับประเด็นนี้ ล่าสุด เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทางการอิสราเอลเริ่มออกมาส่งสัญญาณว่า พร้อมเจรจาเพื่อทำข้อตกลงหยุดโจมตีชั่วคราว
ขณะที่ ไอแซค เฮอร์ซอค ประธานาธิบดีอิสราเอล ได้ระบุว่า พร้อมที่จะทำข้อตกลงหยุดโจมตีชั่วคราวเพื่อมนุษยธรรมอีกครั้ง และเปิดให้มีการส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเพิ่มเติมแก่ฉนวนกาซา เพื่อแลกกับการปล่อยตัวประกันทั้งหมด
อย่างไรก็ดี บาเซม นาเอม เจ้าหน้าที่อาวุโสของกลุ่มฮามาส ได้ออกมาแถลงในเวลาใกล้เคียงกัน โดยระบุว่า กลุ่มฮามาสจะไม่เจรจากับอิสราเอลเพื่อปล่อยตัวประกันเด็ดขาด หากการรุกรานในฉนวนกาซายังคงดำเนินต่อไป
แต่กลุ่มฮามาสยินดีที่จะเจรจากับฝ่ายใดก็ตามที่สามารถทำให้การรุกรานครั้งนี้ยุติลงและเปิดให้ความช่วยเหลือเข้าถึงผู้คนในฉนวนกาซาได้
ขณะเดียวกัน คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ได้จัดประชุมเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการประชุมก่อนการออกข้อมติให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาวิกฤตด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา ผ่านการให้ความช่วยเหลือจากทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ
บรรยากาศการอภิปรายเป็นไปอย่างเข้มข้น เนื่องจากชาติอาหรับและรัสเซียได้อภิปรายถึงวิกฤตที่เกิดขึ้นอย่างตรงไปตรงมาว่า สงครามและการโจมตีของอิสราเอล ทำให้เกิดวิกฤตมนุษยธรรมร้ายแรงในฉนวนกาซา
ขณะที่ผู้แทนของสหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และแอลเบเนีย ยืนยันว่าต้องการให้สงครามครั้งนี้ยุติเช่นกัน แต่ก็ต้องคำนึงถึงความมั่นคงของอิสราเอลด้วย ตลอดจนต้องคำนึงและร่วมกันทำให้แนวทางสองรัฐ ซึ่งเป็นแนวทางแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืน เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
ขณะเดียวกัน แมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ออกแถลงข่าวยืนยันว่า สหรัฐฯ จะสนับสนุนร่างมติของ UNSC ในการบรรเทาปัญหาวิกฤตด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซาที่รุนแรงและสังเกตเห็นได้ชัด
โดยตอนนี้ สหรัฐฯ กำลังทำงานร่วมกับชาติพันธมิตรอื่น ๆ ใน UNSC เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมคาดว่าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ จะเปิดการหารืออีกครั้ง ก่อนจะลงมติร่วมกันในวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น หรือประมาณช่วงเช้ามืดของวันพรุ่งนี้ตามเวลาบ้านเรา
———————————————————————————————————————————————————————————
ที่มา : PPTV Online / วันที่เผยแพร่ 20 ธ.ค.66
Link : https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/212970