สหภาพยุโรปก้าวขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งแซงหน้าสหรัฐอเมริกาและจีน หลังจากการประชุมใหญ่ที่ยาวนานกว่า 37 ชั่วโมงระหว่างรัฐสภายุโรปและประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป เพื่อบรรลุข้อตกลงในการออกกฎหมายควบคุม AI ฉบับแรกของโลก ที่เรียกว่า AI Act
AI Act กฎหมายปัญญาประดิษฐ์ฉบับแรกของโลก
ย้อนไปเมื่อปี 2021 คณะกรรมาธิการยุโรปได้เสนอร่างกฎหมาย AI ฉบับแรกของโลก ไว้แล้ว ว่าด้วยเรื่องการควบคุมกลุ่มเทคโนโลยี AI ที่มีความเสี่ยงสูง (high-risk AI applications) และป้องกันการนำเทคโนโลยี AI ไปใช้ในการละเมิดค่านิยมของสหภาพยุโรปหรือละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งได้มีการเจรจาเพื่อปรับปรุงกฎระเบียบต่าง ๆ ตลอดทั้งปี
ในปี 2022 สภายุโรปเห็นชอบร่างกฎหมาย AI Act ดังกล่าว นำไปสู่การเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงระหว่างสมาชิก และในการประชุมที่บรัสเซลส์เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2023 ที่ผ่านมา สหภาพยุโรปได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับกฎหมายกำกับดูแล AI ฉบับแรกของโลก และคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ปลายปี 2025
AI Act จะควบคุมด้านไหนบ้าง ?
เป้าหมายของ AI Act คือ การควบคุมการใช้ AI ในยุโรปให้อยู่ภายใต้กรอบความปลอดภัย เคารพสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้คน สนับสนุนประชาธิปไตย ในขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้ธุรกิจสามารถพัฒนา เติบโต และขยายตัวภายใต้การควบคุมได้เช่นเดียวกัน
ดังนั้น AI ACT จึงไม่ใช่แค่กฎหมายที่ร่างขึ้นมาเพื่อกำกับดูแลการใช้งานอย่างถูกต้องและมีจริยธรรมเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ และทำให้ยุโรปเป็นผู้นำทางด้านนี้อีกด้วย
AI Act มีมาตราการในการควบคุมอย่างไร ?
คณะเจรจาจากรัฐสภายุโรปและประเทศสมาชิกระบุเอาไว้ว่า “กฎหมายดังกล่าว กำหนดพันธกรณีสำหรับ AI โดยจะพิจารณาจากความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและระดับของผลกระทบ” ซึ่งหมายความว่า ข้อกำหนดของ AI Act จะพิจารณาจากความเสี่ยงและอิทธิพลของปัญญาประดิษฐ์ชนิดนั้น ๆ ว่าจะมีอันตรายหรือสามารถส่งผลกระทบได้มากน้อยเพียงใด ข้อกำหนดและข้อปฏิบัติจึงจะมีความเข้มงวดแตกต่างกันไปตามระดับความสามารถของ AI แต่ละชนิด
มาตรการไหนที่ส่งเสริมธุรกิจในการพัฒนา AI
สมาชิกของรัฐสภายุโรป (MEP) เปิดเผยว่า กฎหมายดังกล่าวต้องการให้ธุรกิจขนาดเล็ก โดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) สามารถสร้างและใช้ AI ได้ โดยลดแรงกดดันจากบริษัทขนาดใหญ่ที่ควบคุมการผลิตและพัฒนาเทคโนโลยีนี้ จึงได้จัดตั้ง ‘Regulatory Sandboxes’ และ ‘Real-World-Testing’ ขึ้น เพื่อพัฒนาและฝึกอบรม AI เชิงนวัตกรรม ก่อนที่จะวางตลาด
ธุรกิจขนาดเล็กจึงสามารถพัฒนาและทดลองใช้เทคโนโลยี AI ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ก่อนที่จะออกสู่ตลาดอย่างเป็นทางการ คล้ายกับพื้นที่ปลอดภัยสำหรับบริษัทขนาดเล็กที่ต้องการสำรวจและใช้ AI โดยไม่ต้องเผชิญกับแรงกดดันมากเกินไปจากบริษัทขนาดใหญ่
AI Act ห้ามอะไรบ้าง ?
มี AI บางประเภทที่ทางสหภาพยุโรปลงความเห็นว่าอาจเป็นภัยต่อสิทธิของพลเมืองและประชาธิปไตย สมาชิกสภานิติบัญญัติร่วมจึงตกลงที่จะสั่งห้าม 6 สิ่งนี้
1. Biometric Categorisation Systems หรือระบบที่จัดหมวดหมู่บุคคลตามคุณลักษณะทางชีวมิติ (ทางกายภาพหรือพฤติกรรม) เช่น ลายนิ้วมือหรือลักษณะใบหน้า และการใช้ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น มุมมองทางการเมือง ความเชื่อทางศาสนา ความเชื่อทางปรัชญา รสนิยมทางเพศ หรือเชื้อชาติ
2. Untargeted Scraping of Facial Images หรือการคัดลอกภาพใบหน้าจากอินเทอร์เน็ตหรือภาพวงจรปิด โดยเฉพาะเจาะจงที่ใคร และนำภาพเหล่านั้นมาสร้างฐานข้อมูลสำหรับเทคโนโลยีการจดจำใบหน้า (Facial Recognition)
3. Emotion recognition หรือระบบการจดจำอารมณ์ความรู้สึก เช่น การใช้กล้องหรือเซ็นเซอร์อื่นๆ เพื่อตรวจจับการแสดงออกทางสีหน้า ภาษากาย หรือสัญญาณอื่นๆ ที่บ่งบอกว่าใครบางคนรู้สึกอย่างไร
4. Social Scoring หรือการใช้ AI ในการให้คะแนนบุคคลจากพฤติกรรมทางสังคมหรือลักษณะส่วนบุคคล
5. ระบบ AI ที่บิดเบือนพฤติกรรมของมนุษย์เพื่อหลีกเลี่ยงเจตจำนงเสรี คือ ระบบ AI ที่ถูกนำมาใช้ชี้นำหรือควบคุมพฤติกรรมของมนุษย์เพื่อจำกัดเสรีภาพในการตัดสินใจ
6. AI ใช้เพื่อแสวงหาประโยชน์จากความเปราะบางของผู้คน เช่น อายุ ความพิการ สถานการณ์ทางสังคม หรือเศรษฐกิจ (ข้อกังวลด้านจริยธรรมในการใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบและยุติธรรม)
กรณีใดบ้างที่มีข้อยกเว้นในการบังคับใช้กฎหมาย AI ?
การใช้ระบบระบุตัวตนด้วยไบโอเมตริกซ์ (RBI) ในที่สาธารณะโดยหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย คือหนึ่งในกรณีที่ได้รับการยกเว้น ซึ่งก่อนที่จะใช้เทคโนโลยีนี้ จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากศาล และสามารถใช้ได้เฉพาะกับอาชญากรรมบางประเภทตามที่กำหนดไว้ในรายการเท่านั้น
โดยกฎหมายได้กำหนดวัตถุประสงค์ในการใช้งานระบบระบุตัวตนด้วยไบโอเมตริกซ์ ไว้ดังนี้
- ใช้เพื่อค้นหาบุคคลที่ตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรม เช่น การลักพาตัว การค้ามนุษย์ หรือการแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศ
- ใช้เพื่อป้องกันภัยคุกคามจากการก่อการร้าย (เหตุการณ์อันตรายที่ใกล้จะเกิดขึ้นและสามารถระบุได้อย่างชัดเจน)
- ใช้เพื่อค้นหาหรือระบุบุคคลที่ต้องสงสัยว่าก่ออาชญากรรมร้ายแรงบางอย่าง เช่น การก่อการร้าย การค้ามนุษย์ การแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศ การฆาตกรรม หรือการลักพาตัว
นอกจากนี้ ประชาชนจะมีสิทธิยื่นเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับระบบ AI เพื่อขอคำอธิบายหากสงสัยว่า AI มีความเสี่ยงสูง และอาจส่งผลกระทบต่อสิทธิของตนเอง
สำหรับ AI Act ฉบับนี้ จำเป็นต้องได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากทั้งรัฐสภาและสภาจึงจะกลายเป็นกฎหมายของสหภาพยุโรป ซึ่งในขั้นตอนต่อไปจะมีการจัดประชุมขึ้นเพื่อให้รัฐสภาลงคะแนนเสียงในกฏหมายฉบับนี้
อ้างอิง: theguardian, europarl.europa, europetouch
——————————————————————————————————————————————
ที่มา : Techsauce / วันที่เผยแพร่ 13 ธ.ค.66
Link : https://techsauce.co/news/world-first-laws-to-regulate-ai-in-eu-called-ai-act