Facebook, Instagram จะนำข้อมูลการใช้งานของเราจากแหล่งต่าง ๆ ไปฝึก AI ถ้าไม่ให้ทำต้องกรอกฟอร์ม

Loading

  ข่าวดีสำหรับผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์ในเครือ Meta เช่น Facebook, Instagram และ Threads คือบริษัทหลักจะนำข้อมูลการใช้งานของเราไปเทรน AI โดย Meta จะนำข้อมูลการใช้งานของเราจากแหล่งต่าง ๆ ไปฝึก AI ด้วย   โดยปกติ การใช้ผลิตภัณฑ์ในเครือ Meta อย่าง Facebook หรือ Instagram นั้น ข้อมูลการใช้งานของเราก็ตกเป็นของ Meta อยู่แล้ว ซึ่ง Meta สามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปฝึก AI ของตัวเองได้ แต่สำหรับเคสนี้ไม่ได้อยู่แค่ใน Meta เท่านั้น   ปัจจุบัน Meta มีการใช้ข้อมูลของเราจาก Third Party หรือหน่วยงานอื่น ๆ ทั่วโลก และนำข้อมูลเหล่านั้นมาสอน Generative AI โดยไม่แจ้งเราก่อน ซึ่งการใช้ข้อมูลในลักษณะนี้เรียกว่า opt-in by default คือถ้าไม่เข้าไปกรอกแบบฟอร์มไม่ยินยอมจะถือว่าเป็นการอนุญาตให้พี่มาร์กนำข้อมูลจากแหล่งอื่นเพื่อไปใช้เทรน…

Meta ประกาศลบบัญชี IO จีน ออกจากเฟซบุ๊ก 7,700 บัญชี พบกระจายตัวกว่า 50 แพลตฟอร์ม

Loading

  บริษัทแม่ของเฟซบุ๊กจัดการปฏิบัติการ IO ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยพบมา มีพฤติกรรมอวยจีน-ด่าตะวันตก พบเชื่อมโยงกับผู้บังคับใช้กฎหมายในจีน   รายงานด้านความปลอดภัยประจำไตรมาสที่ 2 ของ Meta เจ้าของเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม เผยว่า ได้มีการตรวจพบปฏิบัติการข่าวสาร หรือ ไอโอ (IO) ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยพบมา และได้ทำการลบบัญชีปลอมบนเฟซบุ๊กไปราว 7,700 บัญชี และบัญชีปลอมบนอินสตาแกรมอีก 15 บัญชี   สำหรับพฤติกรรมของบัญชีเหล่านี้ จะมีเนื้อหาเชิงบวกต่อจีนและเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ มีการวิพากษ์วิจารณ์การนโยบายด้านการต่างประเทศของสหรัฐฯ และชาติตะวันตก อีกทั้งยังโจมตีผู้วิจารณ์รัฐบาลจีน รวมไปถึงสื่อมวลชนและนักวิชาการ   ปฏิบัติการโฆษณาชวนเชื่อของจีนในลักษณะนี้ ได้รับการตั้งชื่อว่า สแปมมูฟลาจ (Spamouflage) ที่บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่หลายแห่งพยายามจัดการมาตั้งแต่ปี 2019 โดยเครือข่ายนี้มีการเล็งเป้าไปยังหลายพื้นที่ เช่น ไต้หวัน สหรัฐฯ ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น และประชากรที่ใช้ภาษาจีนทั่วโลก   Meta ยังพบว่าปฏิบัติการดังกล่าวกระจายตัวไปกว่า 50 แพลตฟอร์ม ทั้งแพลตฟอร์มหลักอย่าง Facebook, Instagram, TikTok,…

แรนซัมแวร์บุกโจมตี Microsoft OneDrive

Loading

  บรรดาแฮ็กเกอร์ได้เลือก OneDrive เป็นเป้าหมายในการเปิดการโจมตีครั้งใหม่   OneDrive ถือเป็นอีกหนึ่งโปรแกรมแชร์ไฟล์ที่ในปัจจุบันมีผู้ใช้งานอย่างแพร่หลาย ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากความสะดวกสบายในการใช้งาน เพราะผู้ใช้งานสามารถเรียกดูไฟล์และทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา   อีกทั้ง Microsoft เป็นเจ้าของ OneDrive ทำให้ดูมีความน่าเชื่อถือ ขณะที่ Endpoint Detection and Response Program (EDR) ซึ่งเป็นโซลูชันรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ยังสามารถตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามได้   อย่างไรก็ตาม เหล่าบรรดาแฮ็กเกอร์ได้เลือก OneDrive เป็นเป้าหมายในการเปิดการโจมตีครั้งใหม่ โดยโปรแกรม OneDrive ถูกใช้เป็นแรนซัมแวร์เพื่อเข้ารหัสไฟล์ต่าง ๆ บนเครื่องเป้าหมาย โดยไม่สามารถกู้คืนข้อมูลได้   Microsoft จึงได้เริ่มการแพตช์ OneDrive เพื่อหยุดการทำงานในเวอร์ชัน 23.061.0319.0003, 23.101.0514.0001 และเวอร์ชันที่ใหม่กว่านั้น โดยมีการรวบรวมกระบวนการในการโจมตี OneDrive ไว้ในเครื่องมืออัตโนมัติที่เรียกว่า DoubleDrive   การเข้าครอบครอง(Take over) บัญชี OneDrive จะเริ่มจากกระบวนการบุกโจมตีเครื่องเป้าหมายผ่านการเข้าสู่บัญชี OneDrive และจัดการกำจัด Access…

อนาคตแห่งอินเทอร์เน็ตดาวเทียม การส่งข้อมูลผ่านเลเซอร์

Loading

  อินเทอร์เน็ตดาวเทียม หนึ่งในระบบที่ได้รับความสนใจมากขึ้นจากการมาถึงของ Starlink แต่ด้วยขีดจำกัดทางเทคโนโลยีทำให้ความเร็วยังต่ำกว่าและสร้างปัญหาในเชิงดาราศาสตร์ ล่าสุดจึงเริ่มมีแนวคิดพัฒนา การส่งข้อมูลผ่านเลเซอร์ ที่อาจเป็นกุญแจสู่ระบบอินเทอร์เน็ตในอนาคต   อินเทอร์เน็ตดาวเทียม อีกหนึ่งระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่ได้รับการพูดถึงมากขึ้น ด้วยจุดเด่นที่รองรับการใช้งานแทบทุกพื้นที่ทั่วโลก ไม่ต้องพึ่งพาสัญญาณจากท้องถิ่นหรือโครงสร้างพื้นฐานแบบเคเบิลใยแก้ว อาศัยเพียงอุปกรณ์เชื่อมต่อรองรับสัญญาณก็เพียงพอ นี่จึงเป็นเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทางเลือกที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง   เราทราบดีว่าระบบอินเทอร์เน็ตดาวเทียมปัจจุบันยังมีข้อจำกัดหลายด้าน ทั้งปัญหาในแง่ความเสถียรหรือความเร็วในการให้บริการ นำไปสู่ความพยายามในการปรับปรุงแก้ไข อย่าง Starlink ของบริษัท SpaceX ที่เลือกจะเพิ่มจำนวนดาวเทียมในวงโคจร ขยายขีดความสามารถในการกระจายสัญญาณเพื่อประสิทธิภาพในการส่งข้อมูล   ฟังดูเป็นเรื่องดีแต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเพิ่มจำนวนดาวเทียมอินเทอร์เน็ตก็กำลังสร้างผลกระทบใหญ่หลวงเช่นกัน   พิษภัยที่คาดไม่ถึงของระบบอินเทอร์เน็ตดาวเทียม   เมื่อพูดถึงประเด็นในการเพิ่มจำนวนดาวเทียมในวงโคจร สิ่งแรกที่ทุกคนคิดถึงย่อมเป็นจำนวนขยะอวกาศเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณที่ปัจจุบันเรายังไม่มีวิธีจัดการเป็นรูปธรรม แต่อีกหนึ่งปัญหาที่ถูกค้นพบและเริ่มได้รับการพูดถึงคือ สัญญาณรบกวนที่เกิดขึ้นจากระบบอินเทอร์เน็ตดาวเทียม   โดยพื้นฐานระบบอินเทอร์เน็ตดาวเทียมจะทำการส่งข้อมูลผ่านคลื่นวิทยุ แม้แต่ Starlink เองก็ใช้การส่งข้อมูลรูปแบบนี้ แต่อาศัยประโยชน์จากการส่งสัญญาณผ่านดาวเทียมวงโคจรต่ำและมีจำนวนมาก ช่วยให้การส่งข้อมูลทำได้รวดเร็ว ลดปัญหาความหน่วงและล่าช้า ยกระดับขีดความสามารถอินเทอร์เน็ตดาวเทียมขึ้นอีกขั้น   แต่จากการศึกษาล่าสุดพบว่า คลื่นวิทยุจากดาวเทียมเครือข่าย Starlink มีจำนวนและอัตราการปล่อยคลื่นวิทยุมากเกินไป กลายเป็นสิ่งกีดขวางการทำงานของกล้องโทรทรรศน์วิทยุ ซึ่งอาศัยการตรวจจับเทหวัตถุบนท้องฟ้าด้วยคลื่นวิทยุเช่นกัน ส่งผลให้การทำงานของดาวเทียมในเครือข่าย Starlink กลายเป็นการรบกวนการศึกษาดาราศาสตร์   จากการทดลองของนักดาราศาสตร์ที่ใช้กล้องโทรทรรศน์ความถี่ต่ำพบว่า…

โจรไซเบอร์ ใช้เครื่องหมายติ๊กถูกบน X บัญชีปลอม-ลวงเหยื่อ

Loading

  อาชญากรไซเบอร์ ใช้เครื่องหมายติ๊กถูกบน X สร้างความน่าเชื่อถือ-หลอกลวงเหยื่อ   ก่อนหน้านี้ ทาง X ออกมาเปลี่ยนนโยบายของบัญชีที่มี “X Premium” (Twitter Blue ในชื่อเดิม) หรือเครื่องหมายติ๊กถูกสีฟ้า จากแต่เดิมคือ ต้องเป็นบุคคลสาธารณะหรือบัญชีทางการของบริษัทหรือองค์กรต่าง ๆ เท่านั้นถึงจะสามารถมีเครื่องหมายดังกล่าวได้ เปลี่ยนมาเป็นทุกบัญชีสามารถมีเครื่องหมายติ๊กถูกสีฟ้าได้ เพียงจ่าย 11 ปอนด์ต่อเดือนเท่านั้น (ราว 488 บาท)     ทำให้ ลิซ่า เวบบ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายขององค์กร Which? องค์กรรณรงค์การคุ้มครองผู้บริโภคกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดของบัญชีที่มี X Premium ทำให้มีโอกาสการเกิดอาชญากรรมไซเบอร์บนแพลตฟอร์ม X เพิ่มขึ้น เนื่องจากทุกบัญชีที่จ่ายค่า X Premium สามารถสร้างความน่าเชื่อถือให้ตนเองได้ทุกบัญชี   เดอะการ์เดียน สื่อดังจากอังกฤษ รายงานกรณีตัวอย่างว่า พบผู้เสียหายรายหนึ่งที่ถูกอาชญากรไซเบอร์เล็งโจรกรรมข้อมูลผ่านบัญชี X (ทวิตเตอร์ในชื่อเดิม) ที่อาศัยเครื่องหมายติ๊กถูกสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นเครื่องหมายที่ยืนยันบัญชีของบุคคลหรือบริษัทอย่างเป็นทางการ แอบอ้างเป็นบริษัทจองโรงแรมและเที่ยวบินอย่าง…

DISCORD.IO ข้อมูลรั่วไหลกว่า 760,000 ไอดี ใครเล่น DISCORD เช็กด่วนก่อนถูกแฮ็ก

Loading

อ้างอิง bleepingcomputer     DISCORD.IO ข้อมูลรั่วไหลกว่า 760,000 ไอดี ใครใช้บริการดังกล่าวรีบตรวจสอบบัญชี DISCORD ของคุณด่วน   ทั้งนี้ DISCORD.IO ไม่ใช่ไซต์ Discord อย่างเป็นทางการ แต่เป็นบริการ Third Party ที่ช่วยให้เจ้าของเซิร์ฟเวอร์สามารถสร้างคำเชิญกำหนดชื่อช่อง DISCORD ให้ง่ายขึ้นได้   ล่าสุดเว็บไซต์ DISCORD.IO ประกาศปิดให้บริการ โดยแสดงข้อความว่า “เรากำลังหยุดการดำเนินการทั้งหมดในอนาคตอันใกล้”   และนี่คือสิ่งที่ข้อมูลกว่า 760,000 ID ใน DISCORD.IO ถูกขายใน Dark Web โดยแฮ็กเกอร์     ผู้ใช้ DISCORD ควรทำอย่างไร   •   หากคุณใช้ DISCORD แต่ไม่ใด้ใช้ DISCORD.IO โชคดีคุณยังปลอดภัย แต่ดีสุดก็เปลี่ยนรหัสด้วยจะดีมาก   •   หากคุณใช้…