นักวิจัยด้านคอมพิวเตอร์ค้นพบความเสี่ยงในสมาร์ตโฟน Android จากมัลแวร์ EarSpy

Loading

ภาพ : Getty Images   เมื่อ 28 ส.ค.66 เว็บไซต์ TEXAS A&M Today ของมหาวิทยาลัย Texas A&M สหรัฐฯ รายงานบทความ ระบุว่า ทีมนักวิจัยด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์และวิศวกรรมศาสตร์จาก Texas A&M และสถาบันอื่น ๆ อีกสี่แห่ง ได้สร้างซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายหรือมัลแวร์ ที่เรียกว่า EarSpy เพื่อค้นหาความเสี่ยงด้านความปลอดภัยบน สมาร์ตโฟน Android โดยพบว่าสามารถระบุตัวตนของผู้ใช้งานได้   EarSpy ใช้อัลกอริทึมวิเคราะห์ข้อมูลจากการสั่นสะเทือนของลำโพงที่บันทึกโดยเซนเซอร์ตรวจจับของสมาร์ตโฟน สามารถระบุเพศของผู้พูดด้วยความแม่นยำร้อยละ 98.6 ผู้พูดเป็นผู้โทรซ้ำด้วยความแม่นยำร้อยละ 91.6 ตรวจจับคำพูดด้วยความแม่นยำร้อยละ 45-90 มัลแวร์ยังจดจำตัวเลขที่พูด โดยเฉพาะตัวเลขตั้งแต่ 0 ถึง 9 โดยมีความแม่นยำร้อยละ 56 ซึ่งสูงกว่าการคาดเดาแบบสุ่มถึงห้าเท่า   การวิจัยมุ่งเน้นไปที่สมาร์ตโฟน Android เนื่องจากสามารถดึงข้อมูลเซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวได้โดยไม่ต้องได้รับอนุญาตอย่างชัดแจ้งจากผู้ใช้ รวมถึงสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ซึ่งผู้ผลิตบางรายกำลังปรับเปลี่ยนลำโพงที่มีขนาดเล็กให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับวิดีโอและการสตรีม ทำให้อัลกอริทึมสามารถตรวจจับข้อมูลได้ดีขึ้น จากผลลัพธ์นี้…

ลงโทษสถานหนัก! อิรักแขวนคอ 3 ผู้ก่อการร้าย เอี่ยวคาร์บอมบ์ครั้งใหญ่ในแบกแดด

Loading

  นักโทษ 3 คน ซึ่งต้องสงสัยเป็นสมาชิกกลุ่มไอเอส รับโทษประหารชีวิตด้วยการแขวนคอ ฐานอยู่เบื้องหลังเหตุคาร์บอมบ์ สังหารประชาชนมากกว่า 300 ราย เมื่อ 7 ปีที่แล้ว   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงแบกแดด ประเทศอิรัก เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ว่า สำนักนายกรัฐมนตรีอิรักออกแถลงการณ์ เรื่องการประหารชีวิตชาย 3 คน ด้วยวิธีการแขวนคอ ระหว่างวันอาทิตย์ถึงวันจันทร์ที่ผ่านมา จากความผิดฐานมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุคาร์บอมบ์ ในย่านคาร์ราดาของกรุงแบกแดด เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2559 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 323 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกหลายร้อยคน   เหตุก่อการร้ายดังกล่าวถือว่ารุนแรงที่สุด นับตั้งแต่กองทัพสหรัฐเข้ามาทำสงครามในอิรัก เมื่อปี 2546 และเป็นเหตุวินาศกรรมซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในคราวเดียว นับตั้งแต่เหตุ 9/11 ของสหรัฐ     ทั้งนี้ รัฐบาลอิรักปฏิเสธเปิดเผยข้อมูลของนักโทษประหารทั้งสามคน อย่างไรก็ตาม สื่อท้องถิ่นและสื่อต่างประเทศหลายแห่งรายงานโดยอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าว ว่าหนึ่งในผู้ที่ถูกแขวนคอ คือนายกัซวาน อัล-ซอว์เบ หนึ่งในแกนนำไอเอสของอิรัก…

ลอบเป็นสายลับ! รัสเซียจับอดีตลูกจ้างสถานกงสุลสหรัฐ เชือดลงโทษหนัก

Loading

  รัฐบาลมอสโกดำเนินคดีกับพลเมืองรัสเซีย ซึ่งเคยทำงานให้กับสถานกงสุลสหรัฐ “ฐานร่วมมือด้านข่าวกรอง”   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ว่าสำนักงานความมั่นคงแห่งรัฐ ( เอฟเอสบี ) ออกแถลงการณ์ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ดำเนินคดีกับนายโรเบิร์ต โชนอฟ สัญชาติรัสเซีย ซึ่งเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ประจำสถานกงสุลใหญ่สหรัฐ ณ เมืองวลาดิวอสตอค ในข้อหา “สมคบคิดและร่วมมือด้านข้อมูลลับกับรัฐต่างชาติ” ซึ่งเกี่ยวกับยูเครน   ทั้งนี้ โชนอฟทำงานให้กับสถานกงสุลใหญ่สหรัฐ ณ เมืองวลาดิวอสตอค เป็นเวลานานกว่า 25 ปี ก่อนต้องพ้นจากตำแหน่ง เมื่อปี 2564 ซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาลมอสโกประกาศจำกัดจำนวนบุคลากรการทูตของสหรัฐ และหากศาลพิพากษาว่า มีความผิดจริง โชนอฟอาจต้องรับโทษจำคุกเป็นเวลานานถึง 8 ปี     อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐให้ข้อมูลเพิ่มเติม ว่าหลังจากนั้นยังคงมีการจ้างโชนอฟในฐานะพนักงานสัญญาจ้าง มีหน้าที่รวบรวมข้อมูลข่าวสารจากสำนักข่าวของรัสเซีย โดยเน้นว่า การว่าจ้างและการทำงานของโชนอฟ “เป็นไปตามข้อบังคับและกฎหมายของรัสเซียทุกประการ”   ขณะที่นายแมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ วิจารณ์การดำเนินคดีต่อโชนอฟ…

เปิด 2 ชนวนเหตุบึ้ม-ยิงตำรวจ-อส.ยะรัง

Loading

  กลุ่มคนร้ายลอบวางระเบิดและซุ่มโจมตีชุดลาดตระเวนร่วม ตำรวจ – อส.ยะรัง จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่พลีชีพ 3 นาย บาดเจ็บ 5 นาย ทั้งยังวางระเบิดเสาไฟฟ้าเสียหายอีก 3 จุด ฝ่ายความมั่นคงคาดเป็นการสร้างสถานการณ์ในวันก่อตั้งเบอร์ซาตู – วันชาติมาเลย์ ทั้งตอบโต้สมาชิกถูกวิสามัญฯ   กรณีเหตุระเบิดและซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ ในพื้นที่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เกิดขึ้นเมื่อเวลา 22.50 น. วันที่ 28 ส.ค.66 พ.ต.อ.สมปราช กรรณกานนท์ ผกก.สภ.ยะรัง รับแจ้งเหตุว่า ขณะที่กำลังชุดปฏิบัติการร่วมระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร้อยเวร 20 สภ.ยะรัง กับเจ้าหน้าที่ อส.อ.ยะรัง จำนวน 1 ชป. ประกอบด้วย ตำรวจ สภ.ยะรัง 6 นาย และ อส.อำเภอยะรัง 2 นาย ออกปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนด้วยรถยนต์สายตรวจของ สภ.ยะรัง 1…

เผยประชาชนกังวลหนัก ความไม่ปลอดภัยทางไซเบอร์ จี้ผู้มีอำนาจเร่งดูแลแก้ไข

Loading

  ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ผู้ก่อตั้งสำนักวิจัยซูเปอร์โพล เผยผลสำรวจเรื่อง ความไม่ปลอดภัยทางไซเบอร์ต่อความมั่นคงของชาติและประชาชน ระบุความมั่นคงของชาติและประชาชนกำลังเสี่ยงวิกฤตหนัก จี้ผู้มีอำนาจเร่งป้องกันและแก้ไข   เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ผู้ก่อตั้งสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจ เรื่อง ความไม่ปลอดภัยทางไซเบอร์ต่อความมั่นคงของชาติและประชาชน กรณีศึกษาตัวอย่างเจ้าหน้าที่รัฐในหน่วยงานเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยทางไซเบอร์ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) รวมเจ้าหน้าที่รัฐด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์จำนวนทั้งสิ้น 223 ราย ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 1 – 26 สิงหาคม พ.ศ.2566 ที่ผ่านมา   พบประเด็นที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งคือ เจ้าหน้าที่รัฐด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์เกินครึ่งหรือร้อยละ 51.2 เคยตกเป็นเหยื่อ ได้แก่ คลิกลิงก์ล่อเหยื่อ (Phishing) เข้าใช้งานบริการออนไลน์ไม่ได้ (DDos) ถูกหลอกดูดเงิน ถูกขโมยชื่อผู้ใช้งานและรหัส เป็นต้น ในขณะที่ร้อยละ 48.8 ไม่เคย   ที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งเช่นกัน…

สู่ยุคใหม่แห่งการรักษาความปลอดภัย กล้องวงจรปิดอัจฉริยะจาก AI

Loading

  ปัญญาประดิษฐ์ถือเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามามีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเริ่มมีการพูดถึงระบบตรวจจับด้วยกล้องวงจรปิดอัจฉริยะจาก AI แม้นี่ไม่ใช่ของใหม่แกะกล่อง แต่หลายประเทศก็เริ่มตั้งคำถามในการนำมาใช้งานเช่นกัน   กล้องวงจรปิด หนึ่งในอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลาย ถูกใช้งานในฐานะอุปกรณ์บันทึกภาพเพื่อยืนยันสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงตรวจสอบข้อเท็จจริงต่าง ๆ สามารถพบเห็นได้ตามท้องถนน อาคารบ้านเรือน หรือแม้แต่รถยนต์ส่วนบุคคล เรียกว่าเป็นหนึ่งในระบบรักษาความปลอดภัยที่ขาดไม่ได้ในปัจจุบัน   สำหรับภาครัฐนี่ก็ถือเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยระบุตัวตนในพื้นที่สาธารณะเป็นอย่างดี ช่วยให้สามารถตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบเรียลไทม์ ใช้งานในการดูแลรักษาความสงบภายในประเทศ นำไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยีนี้ให้สามารถตรวจสอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ   ล่าสุดจึงเริ่มมีการนำเอาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาปรับใช้ นำไปสู่การพัฒนา กล้องวงจรปิดอัจฉริยะ ในที่สุด     ขั้นกว่าในการรักษาความปลอดภัย กล้องวงจรปิดอัจฉริยะจาก AI   ความก้าวหน้าของ เอไอ หรือ ปัญญาประดิษฐ์ได้รับการพูดถึงอย่างกว้างขวาง การพัฒนาก้าวกระโดดสร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ทางสังคม หลายภาคส่วนจึงเริ่มมองเห็นแนวทางการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้ สู่การคิดค้นกล้องวงจรปิดอัจฉริยะ ที่เริ่มมีการใช้งานแพร่หลายทั่วทุกมุมโลก   ในสหราชอาณาจักรเริ่มมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดอัจฉริยะ สามารถตรวจสอบการทิ้งขยะของคนขับและผู้โดยสารที่อยู่ภายในรถ จากนั้นจะทำการระบุป้ายทะเบียนและส่งข้อมูลนี้ไปถึงเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบโดยอัตโนมัติ นำไปสู่การออกใบสั่งเสียค่าปรับซึ่งมีมูลค่าสูงสุดถึง 100 ปอนด์(ราว 4,400 บาท) เลยทีเดียว   ทางด้านสหรัฐฯได้มีการนำระบบ AI มาใช้ร่วมกับ ระบบอ่านป้ายทะเบียนอัตโนมัติ…