ไทยพร้อมมั้ย?… รับมือ AI ครองโลก!

Loading

  ปัจจุบัน เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ Artificial Intelligence (AI) หรือ เอไอ ได้เข้ามามีบทบาทสําคัญต่อการเปลี่ยนแปลงโลก!!   เนื่องจากเป็นซอฟต์แวร์ ที่ถูก “เทรน” ให้มีความสามารถเลียนแบบความสามารถของมนุษย์ที่ซับซ้อนได้ เช่น จดจํา แยกแยะ ให้เหตุผล ตัดสินใจ คาดการณ์ สื่อสารกับมนุษย์ ฯลฯ โดยเฉพาะการมาของ แชทจีพีที (Chat GPT)  ที่สร้างความฮือฮา ไปทั่วโลก!!   ซึ่งได้มีการนำเอไอมาประยุกต์ใช้แล้วในองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน แต่การนําเอไอมาใช้โดยไม่มีการเตรียมความพร้อมและควบคุมที่เหมาะสม อาจส่งผลกระทบต่อโครงสร้างทางเศรษฐกิจ การดําเนินชีวิต และสังคมส่วนรวมอย่างมาก!?!   จึงเป็นเรื่องจำเป็นต้องสร้างความมั่นใจว่า การนำเอไอมาใช้นั้นถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ละเมิดสิทธิตามกฎหมายของประเทศ และไม่ทําให้ผู้ใดได้รับความเสียหายต่อร่างกายและทรัพย์สิน!?!     อย่างไรก็ตาม แม้ประเทศไทยได้เตรียมพร้อม มีการจัดทําแผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติเพื่อการพัฒนาประเทศไทยระยะ 6 ปี (พ.ศ. 2565 – 2570) แต่จากผลการศึกษาและจัดอันดับความพร้อมด้านเอไอของรัฐบาลทั่วโลก (Government…

‘ปอท.’ เตือน!! โพสต์ – แชร์ข้อมูล เชิงคุกคามในโลกโซเชียล เรียกทัวร์ลงผู้อื่น ข่มขู่ให้หวาดกลัว ระวังโดนคดีทั้งแพ่ง-อาญา

Loading

    (22 ก.ค. 66) พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (รอง ผบก.ปอท.) ในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวว่าในปัจจุบัน การใช้สื่อสังคมออนไลน์แทบจะถือได้ว่าเป็นวิถีชีวิตประจำวันอย่างหนึ่งของคนไทย ซึ่งมักจะใช้สื่อสังคมออนไลน์เป็นพื้นที่ในการแสดงความคิดเห็น เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร รูปภาพ ตลอดจนคลิปวิดีโอต่าง ๆ ซึ่งบางครั้งอาจมีการด่าทอ หยอกล้อ หรือล้อเลียนผู้อื่น ด้วยความสนุก คึกคะนอง จนอาจเกินเลยสร้างบาดแผลทางจิตใจ หรือสร้างความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับบุคคลอื่น ซึ่งในกรณีดังกล่าวมีกฎหมายคุ้มครองสิทธิของผู้อื่นมิให้ถูกละเมิด   กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) จึงขอเตือนพี่น้องประชาชน เกี่ยวกับข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง กับการด่าทอ ล้อเลียน กลั่นแกล้ง หรือ ข่มขู่ผู้อื่นทางสื่อสังคมออนไลน์ ที่ผู้กระทำผิดอาจถูกดำเนินคดีตามฐานความผิดที่ได้กระทำ ดังนี้   1.) การโพสต์ใส่ความบุคคลอื่นต่อบุคคลที่สามในประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง อาจเข้าข่ายเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท…

เตือนภัย SMART VOTE โดนแฮ็ก แนบลิงก์แฝงล้วงข้อมูล

Loading

    วันที่ 21 ก.ค.66 เพจตำรวจไซเบอร์ – บช.สอท. เตือนภัย SMART VOTE โดนแฮก แนบลิงก์แฝงล้วงข้อมูลว่า ขณะนี้พบว่า ได้มีกลุ่มแฮกเกอร์พยายามเข้าโจมตีในแอปพลิเคชัน SMART VOTE ทำให้มีข้อความแปลกแจ้งเตือนในแอปพลิเคชัน เพื่อให้ประชาชนเกิดความสับสน และอาจมีการแนบลิงก์แฝงมาด้วย   หากเผลอกดลิงก์ อาจทำให้ถูกควบคุมเครื่องมือสื่อสารจากระยะไกล หรือหลอกกรอกข้อมูลเพื่อดูดข้อมูลในอุปกรณ์ดังกล่าว ไปจนถึงขั้นโอนเงินออกไปจากบัญชีธนาคารได้   ตำรวจไซเบอร์จึงขอเตือนภัย ห้ามกดลิงก์แฝงที่แนบมากับการแจ้งเตือนดังกล่าว และควรถอนการติดตั้ง (Uninstall) แอปพลิเคชันดังกล่าวออกจากเครื่องมือสื่อสาร จนกว่าจะแก้ไขระบบเรียบร้อย   ทั้งนี้ หากถูกมิจฉาชีพหลอกลวงทางออนไลน์ สามารถแจ้งความผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ได้ที่ www.thaipoliceonline.com หรือ โทรปรึกษาสายด่วน 1441       ขอบคุณ เพจ ตำรวจไซเบอร์ – บช.สอท.   ———————————————————————————————————————————————————————-   ที่มา : สยามรัฐ   …

ตม.สตูลปฏิบัติการเชิงรุก สร้างความเข้าใจสร้างฐานข้อมูลที่พักอาศัยของคนต่างด้าว

Loading

    ตม.สตูลปฏิบัติการเชิงรุก สร้างความเข้าใจสร้างฐานข้อมูลที่พักอาศัยของคนต่างด้าวเพื่อชุมชนปลอดภัยจังหวัดสตูล “Satun Safe Residence”     วันที่ 22 ก.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ธนิสร แสงท่านั่ง ผกก.ตม.จว.สตูล จัดอบรมปฏิบัติการเชิงรุก สร้างความเข้าใจกสร้างฐานข้อมูลที่พักอาศัยของคนต่างด้าวเพื่อชุมชนปลอดภัยจังหวัดสตูล “Satun Safe Residence” ที่ห้องประชุม สตาร์รินทร์ รีสอร์ท ต.พิมาน อ.เมืองสตูล จว.สตูล โดยมีกลุ่ม จาก จนท. ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรในพื้นที่ และ ภาคประชาชน ที่ประกอบธุรกิจในด้าน โรงแรม หอพัก และ บ้านเช่า จำนวน 110 คน เข้าร่วม     ในการนี้ พล.ต.ต.พิชญ์วุฒิ สงวนสมบัติศิริ ผบก.ภ.จว.สตูล เป็นประธานเปิดในการอบรมสร้างความรู้ และเชิงเสมือนปฏิบัติติการจริงสอนการลงทะเบียนแจ้งที่พักอาศัยของคนต่างด้าวทางอินเตอร์เน็ตให้กับผู้ประกอบการแบบรายบุคคลอีกด้วย      …

WHO เปิดข้อมูลรัสเซียโจมตี เป้าหมายสาธารณสุขยูเครนมากกว่า 1,000 ครั้ง

Loading

    องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า รัสเซียได้โจมตีเป้าหมายด้านสาธารณสุขของยูเครนมากกว่า 1,000 ครั้ง นับตั้งแต่ที่กองกำลังรัสเซียบุกโจมตียูเครนในเดือน ก.พ.ปีที่แล้ว ทั้งนี้ WHO ระบุว่า รัสเซียได้โจมตีสำนักงานบริการสาธารณสุขของยูเครน 952 ครั้ง โจมตีรถพยาบาล 124 ครั้ง และโจมตี 284 ครั้ง ต่อศูนย์เก็บเครื่องมือทางการแพทย์ WHO เปิดเผยว่า การโจมตีดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิต 101 ราย และบาดเจ็บ 139 ราย อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมา รัสเซียมักปฏิเสธว่าไม่มีการโจมตีต่อเป้าหมายพลเรือน เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน และที่พักอาศัยแต่อย่างใด #องค์การอนามัยโลก #WHO #รัสเซียยูเครน   ———————————————————————————————————————————————————————————   ที่มา : ศูนย์ข่าว PACIFIC        /       …

อิสราเอลตึงเครียดดันปฏิรูปตุลาการ ฝ่ายค้าน – ผู้ประท้วงกดดันคว่ำร่าง กม.

Loading

  เอพี – สภาอิสราเอลเมินเนทันยาฮูถูกหามเข้าโรงพยาบาลกลางดึก เปิดอภิปรายมาราธอนแผนปฏิรูประบบตุลาการ ขณะที่ผู้ประท้วงหลายพันคนปักหลักตั้งแคมป์ใกล้อาคารรัฐสภาที่มีกำหนดโหวตแผนปฏิรูปนี้ในวันจันทร์ (24 ก.ค.) และทหารกองหนุนราวหมื่นนายประกาศงดรายงานตนเพื่อร่วมกดดันรัฐบาลให้ล้มเลิกแผนการนี้   แพทย์เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ (23 ก.ค.) ว่า การใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจให้นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ราบรื่นและคนไข้ฟื้นตัวดี ขณะที่สำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอลคาดว่า เนทันยาฮูจะได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้ช่วงเย็นวันอาทิตย์   ทั้งนี้ เนทันยาฮูถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลกลางดึกวันเสาร์เพื่อผ่าตัดใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจเนื่องจากหัวใจเต้นผิดจังหวะชั่วคราว หลังจากเพิ่งเข้ารักษาภาวะขาดน้ำเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว   ขณะเดียวกัน สถานการณ์ทางการเมืองในอิสราเอลกำลังตึงเครียดหนัก โดยสมาชิกรัฐสภาได้เริ่มอภิปรายมาราธอนเกี่ยวกับประเด็นสำคัญแรกของแผนปฏิรูประบบตุลาการ ก่อนที่สภาจะลงมติเพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมายในวันจันทร์   การประท้วงของมวลชนคาดว่าจะดำเนินต่อไปเช่นกัน หลังจากเมื่อคืนวันเสาร์ (23 ก.ค.) ประชาชนหลายพันคนเดินขบวนในเยรูซาเลมและปักหลักตั้งแคมป์ใกล้เนสเส็ต หรืออาคารรัฐสภา   การเข้าโรงพยาบาลกะทันหันของเนทันยาฮูทำให้ดรามาการเมืองยิวยิ่งซับซ้อน จากก่อนหน้านี้ที่ผู้นำอิสราเอลผู้นี้ต้องเผชิญความท้าทายใหญ่หลวงที่สุดและประเทศเผชิญวิกฤตภายในร้ายแรงที่สุดที่ฉุดเศรษฐกิจซวนเซไปด้วย อีกทั้งทำให้เกิดความแตกแยกในกองทัพ และทดสอบสายใยสังคมอันละเอียดอ่อนที่โอบอุ้มประเทศที่แบ่งเป็นขั้วต่างๆ เข้าด้วยกัน   สมาชิกสภาเริ่มการอภิปรายแม้เนทันยาฮูถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาล ซิมชา รอธแมน บุคคลสำคัญที่ผลักดันแผนปฏิรูประบบตุลาการ เปิดประเด็นด้วยการประณามว่า ศาลทำให้พื้นฐานประชาธิปไตยเสียหายจากการล้มล้างการตัดสินใจของรัฐบาลตามอำเภอใจ   ทั้งนี้ สมาชิกสภานิติบัญญัติเตรียมโหวตมาตรการจำกัดอำนาจกำกับดูแลของศาลสูงสุดด้วยการขัดขวางไม่ให้ผู้พิพากษาล้มล้างการตัดสินใจของรัฐบาล โดยอ้างว่าไม่มีเหตุผล และการโหวตในวันจันทร์ถือเป็นชิ้นส่วนสำคัญแรกของกฎหมายปฏิรูประบบตุลาการที่จะมีการอนุมัติ   ผู้สนับสนุนแผนปฏิรูปมองว่า…