สหรัฐฯ-ปาปัวนิวกินี ลงนามความร่วมมือกลาโหม หวังคานอำนาจจีนในแถบอินโด-แปซิฟิก

Loading

    วานนี้ (22 พฤษภาคม) แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เข้าพบ เจมส์ มาเรบ นายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกินี ก่อนที่ผู้แทนระดับสูงของทั้งสองประเทศจะร่วมลงนามในความร่วมมือด้านกลาโหม โดยสหรัฐฯ หวังคานอำนาจกับจีนในพื้นที่แถบอินโด-แปซิฟิก   โดยสหรัฐฯ จะช่วยส่งเสริมและสนับสนุนกิจการด้านความมั่นคงของปาปัวนิวกินี โดยเฉพาะการฝึกเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับกองทัพของปาปัวนิวกินี พร้อมท้ังจะขยายความร่วมมือไปยังมิติอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจ การรับมือกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ และภัยพิบัติทางธรรมชาติ รวมถึงการส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม   ก่อนที่ นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย และบลิงเคน จะเดินทางเข้าหารือกับบรรดาผู้นำประเทศในแถบมหาสมุทรแปซิฟิกจำนวน 14 คน ที่กรุงพอร์ตมอร์สบี เมืองหลวงของปาปัวนิวกินี นับเป็นงานการประชุมครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศแห่งนี้ ตั้งแต่การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนเมื่อปี 2018   โดยโมดีได้แสดงจุดยืนว่า “เราต่างเชื่อมั่นในความร่วมมือพหุภาคี เราสนับสนุนอินโด-แปซิฟิกที่เสรี เปิดกว้าง และโอบรับความหลากหลาย เราเคารพอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของทุก ๆ ประเทศ”   แม้ทางการจีนจะไม่ได้มีข้อขัดข้องกับความร่วมมือที่เกิดขึ้นระหว่างสหรัฐฯ และปาปัวนิวกินี แต่ก็แสดงความกังวลใจไม่น้อยถึงกรณีการเพิ่มจำนวนกองกำลังสหรัฐฯ เข้ามายังภูมิภาคดังกล่าวนี้ ซึ่งอาจทำให้เกิดเกมภูมิรัฐศาสตร์ที่ดุเดือดยิ่งขึ้นระหว่างสองมหาอำนาจอย่างจีนและสหรัฐฯ ภายในภูมิภาค…

ตร.รวบคนขับ เจตนาขับรถบรรทุกพุ่งชนรั้วกั้น ใกล้ทำเนียบขาว ธงนาซีโผล่ (คลิป)

Loading

    วันที่ 23 พ.ค.รอยเตอร์รายงานว่า เจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับสหรัฐกำลังสอบสวนเหตุรถบรรทุกพุ่งชนแผงกั้นความปลอดภัยบริเวณตรงข้ามทำเนียบขาว หลังปรากฏภาพชายคนขับถูกจับกุม เมื่อคืนวันที่ 22 พ.ค.ตามเวลาท้องถิ่น     หน่วยสืบราชการลับระบุว่า ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ต่อมาเสริมว่ารถอยู่ในสภาพปลอดภัยและผลการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า เหตุรถชนดังกล่าวเกิดจากคนขับเจตนา อีกทั้งภายในรถพบธงสวัสติกะของระบอบนาซี เจ้าหน้าที่สั่งปิดถนนสายท้องถิ่น ทางเท้าและสวนสาธารณะ รวมถึงสั่งโรงแรมใกล้เคียงอพยพคน ตำรวจสวนสาธารณะหรือยูเอส ปาร์ก โปลิสจะยื่นฟ้องพร้อมขอความสนับสนุนในการสอบสวนจากหน่วยสืบราชการลับ     พยานระบุว่า คนขับชนแผงกั้นครั้งที่ 2 หลังจากการชนครั้งแรกเกิดขึ้นก่อนเวลา 22.00 น. เพียงเล็กน้อย นายคริสต์ ซาโบจิ อายุ 25 ปี พยานระบุว่า เหตุเกิดขึ้นหลังจากที่ตนเพิ่งวิ่งเสร็จและกำลังเดินทางกลับบ้านได้ยินเสียงชนดังสนั่น ตนถ่ายคลิปวิดีโอแสดงนาทีรถบรรทุกพุ่งชนแผงกั้นทั้งสองครั้ง และตนไม่ต้องการอยู่ใกล้รถบรรทุก จึงออกมาจากที่เกิดเหตุ ต่อมาทีมสอบสวนระบุว่า สิ่งของที่อยู่ในรถบรรทุกซึ่งส่วนใหญ่ว่างเปล่านั้นไม่เป็นอันตราย   ขณะเดียวกันยังไม่ชัดเจนว่า นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอยู่ที่ทำเนียบขาวหรือไม่ในช่วงเกิดเหตุ โดยนายไบเดนพบปะหารือกับนายเควิน แม็กคาร์ที ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ที่ทำเนียบขาวก่อนหน้านี้ ในช่วงค่ำวันเดียวกัน  …

เอไอป่วน! ภาพปลอมว่อนเน็ต เหตุเพนตากอนโดนบึ้ม ฉุดตลาดหุ้นมะกันร่วง

Loading

  สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ภาพปลอมที่แสดงให้เห็นการเกิดเหตุระเบิดขึ้นที่เพนตากอน หรือกระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่ในเมืองอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย กลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์เมื่อวันจันทร์ (22 พ.ค.) และยังสร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดหุ้นสหรัฐที่ทำการซื้อขายในวันเดียวกันในช่วงสั้น ๆ ด้วย   ภาพปลอมดังกล่าวที่ผู้สังเกตการณ์หลายคนสงสัยว่าน่าจะเป็นภาพที่มาจากการใช้ระบบ Generative AI ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแขนงหนึ่งที่ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถสร้างคอนเทนต์ขึ้นเองได้อย่างรวดเร็ว เช่น รูปภาพ และงานศิลปะ ซึ่งภาพปลอมดังกล่าวได้ถูกแชร์อย่างแพร่หลายโดยบัญชีผู้ใช้งานหลายบัญชี ส่งผลให้เพนตากอนต้องออกมาแถลงยืนยันว่าไม่มีเหตุระเบิดเช่นนั้นเกิดขึ้นที่เพนตากอน   “เรายืนยันได้ว่านี่เป็นรายงานเท็จและไม่มีเหตุโจมตีเพนตากอนวันนี้” โฆษกของเพนตากอนระบุ   BREAKING: Explosion near Pentagon pic.twitter.com/q49yTVWhR8 — whalechart (@WhaleChart) May 22, 2023     ด้านกรมดับเพลิงอาร์ลิงตันโพสต์ลงโซเชียลมีเดียยืนยันเช่นกันว่า ไม่มีเหตุระเบิดหรือเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นที่หรือใกล้กับเพนตากอน   ขณะที่ทวีตล่าสุดที่เอเอฟพีพบเกี่ยวกับการแชร์ภาพเพนตากอน มาจากบัญชีของผู้สนับสนุนกลุ่ม QAnon ที่เคยเผยแพร่ข้อมูลอันบิดเบือน แม้จะไม่ทราบแหล่งที่มาต้นทางของภาพปลอมดังกล่าว   ภาพปลอมที่เกิดกับเพนตากอน เป็นเหตุการณ์คล้ายคลึงกับที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ที่มีการเผยแพร่ภาพปลอมต่าง ๆ ในโลกออนไลน์ รวมถึงภาพปลอมที่แสดงให้เห็นอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ขณะถูกเจ้าหน้าที่จับกุม…

ธปท. แนะวิธีสแกน QR code – โอนเงินอย่างไร? ให้ปลอดภัยจากมิจฉาชีพ

Loading

    ธนาคารแห่งประเทศไทย แนะวิธี สแกน QR code – โอนเงินผ่านแอป Mobile Banking อย่างไร? ให้ปลอดภัยจากมิจฉาชีพ ซึ่งหากเราเผลอกรอกข้อมูลสำคัญหรือกด download จะโดนดูดเงินในบัญชีออกไป   ในปัจจุบัน “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” หรือมิจฉาชีพได้พัฒนารูปแบบการหลอกลวง ให้ผู้เสียหายสแกน QR code – โอนเงินผ่านแอป Mobile Banking เพื่อเข้าถึงข้อมูลและควบคุมโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหาย ซึ่งหากคนร้ายสามารถรู้รหัสผ่านในการใช้งานแอปพลิเคชันธนาคาร คนร้ายก็จะสามารถทำการถอนเงินออกจากบัญชีธนาคารของเหยื่อจนหมด   ล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้โพสต์แนะนำวิธีสแกน QR code อย่างไรให้ปลอดภัยจาก #มิจฉาชีพ โดยระบุว่า   การสแกนจ่ายหรือโอนเงินผ่านแอป Mobile Banking ต้องตรวจสอบชื่อผู้รับโอนและยอดเงินทุกครั้ง ถ้าจะจ่ายหรือโอนเงินให้หน่วยงาน เช่น มูลนิธิ ราชการ ชื่อผู้รับควรเป็นชื่อหน่วยงานนั้นโดยตรง หากสแกนแล้วเป็นชื่อบุคคล ควรตรวจสอบหรือโทรถามให้แน่ใจก่อนกดโอน     หากสแกนเพื่อจุดประสงค์อื่น เช่น…

ปล้นครั้งประวัติศาสตร์! ทะลวงทุกระบบ “ขโมยเพชร” มหาศาล ตามของคืนไม่ได้จนวันนี้

Loading

    ย้อนกลับไปเมื่อต้นปี 2003 มีข่าวครึกโครมดังไปทั่วโลกกับเหตุการณ์ “ขโมยเพชร” ที่นับได้ว่าเป็นการโจรกรรรมครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ และน่าจะบอกได้ว่าเป็นการโจรกรรมที่เกิดในพื้นที่ซึ่งมีระบบป้องกันดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลก จนเคยเชื่อกันว่า “ไม่สามารถถูกเจาะได้”   แอนต์เวิร์ป ไดมอนด์ เซ็นเตอร์ (Antwerp Diamond Center) เป็นที่รู้จักในฐานะศูนย์รวมเพชรของโลก ตั้งอยู่ในประเทศเบลเยียม ภายในมีตู้เซฟจำนวนเกือบ 200 ตู้ในห้องนิรภัย ซึ่งอยู่ลึกลงไปในใต้ดิน 2 ชั้น เก็บเพชรและเครื่องประดับอัญมณีของผู้เช่าตู้เซฟ มูลค่ารวมแล้วหลายร้อยล้านเหรียญสหรัฐ มีระบบรักษาความปลอดภัยหลายชั้น   รายงานข่าวบางแห่งบ่งชี้ตัวเลขระดับชั้นของการรักษาความปลอดภัยว่ามีมากถึง 10 ชั้น และต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอนกว่าจะไปถึงขั้นเปิดตู้เซฟได้ ทุกตู้ยังต้องเปิดด้วยรหัสและกุญแจเช่นเดียวกับประตูห้องนิรภัย ซึ่งทำให้เป็นที่มั่นใจในความปลอดภัยสำหรับผู้มาเช่าตู้เซฟ   สถานที่แห่งนี้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยแน่นหนาและทันสมัย แถมเพียบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย มีกล้องวงจรปิดทุกซอกทุกมุม มีสัญญาณเตือนภัยแทบทุกระบบที่มนุษย์ประดิษฐ์คิดค้นขึ้นมาติดตั้งอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเซนเซอร์จับความเคลื่อนไหวและการสั่นสะเทือน เซนเซอร์จับความร้อนจากร่างกายมนุษย์ เซนเซอร์จับแสง มีแม้กระทั่งอุปกรณ์ตรวจจับแบบแม่เหล็ก ซึ่งทันทีที่ประตูนิรภัยหนา 1 ฟุตเปิดในเวลาที่ไม่ควรเปิด สัญญาณเตือนภัยจะแจ้งเหตุทันที รวมทั้งมีเครื่องกีดขวางยานพาหนะยุคไฮเทค มีกลไกบังคับให้หุบหายลงใต้ดิน และโผล่กลับขึ้นมาทำหน้าที่ของมันได้ทุกเวลา   ที่สำคัญยังตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีตำรวจนัก และเจ้าหน้าที่ก็พร้อมปฏิบัติการตลอด 24…

บาดหมางไปอีก! จีนสั่งบ.เทคฯ เลิกใช้ชิป ‘ไมครอน’ ของสหรัฐฯ

Loading

    รัฐบาลจีนมีคำสั่งเมื่อวันอาทิตย์ ให้ผู้ผลิตอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ให้ยุติการใช้ชิปจากบริษัทไมครอน เทคโนโลยี (Micron Technology Inc.) ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ นับเป็นการยกระดับความบาดหมางระหว่างรัฐบาลปักกิ่งและรัฐบาลวอชิงตันในประเด็นเทคโนโลยีและความมั่นคง ตามรายงานของเอพี   หน่วยงาน Cyberspace Administration of China หรือ CAC ของจีน ออกแถลงการณ์ความยาว 6 บรรทัด โดยไม่ได้ให้รายละเอียดใด ๆ เพิ่มเติมเมื่อวันอาทิตย์ว่า ผลิตภัณฑ์ของบริษัทไมครอนมี “ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของเครือข่ายอย่างร้ายแรง” ที่ไม่สามารถระบุได้ ซึ่งเป็นอันตรายของโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลของจีนและส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ   ทาง CAC ระบุในแถลงการณ์ด้วยว่า “ผู้ให้บริการด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลสำคัญของจีนควรหยุดซื้อผลิตภัณฑ์จากบริษัทไมครอน”   เมื่อวันที่ 4 เมษายน ทางการจีนสั่งตรวจสอบผลิตภัณฑ์ของบริษัทไมครอน เพื่อตอบโต้การที่สหรัฐฯ และพันธมิตรบังคับใช้มาตรการจำกัดการส่งออกสินค้าเทคโนโลยี เพื่อลดโอกาสการเข้าถึงเทคโนโลยีชิปประมวลผลขั้นสูงและเทคโนโลยีอื่น ๆ ของจีน ที่สหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่นมองว่าจีนอาจนำไปใช้พัฒนาอาวุธได้ ในช่วงเวลาที่จีนข่มขู่คุกคามและยกระดับความก้าวร้าวต่อไต้หวัน ญี่ปุ่น และประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียมากขึ้น   ทางการจีนเตือนว่าจะมีผลที่ตามมาจากมาตรการดังกล่าว แต่ดูเหมือนจะหาทางตอบโต้โดยไม่ให้กระทบกับการผลิตสมาร์โฟนหรืออุตสาหกรรมอื่น ๆ…