โดรนพองลมกันกระแทก ใช้บินทำภารกิจที่เผชิญสิ่งกีดขวาง

Loading

    นักวิจัยจากรัฐแอริโซนา พัฒนาโดรนบินแบบพองลม ทำให้โดรนมีความยืดหยุ่นสูง สามารถรับแรงกระแทกจากการชนสิ่งกีดขวาง และเหมาะกับการทำภารกิจฉุกเฉิน   โดรนบินในปัจจุบันมีข้อจำกัดเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีสิ่งกีดขวาง เนื่องจากไม่สามารถทนต่อแรงกระแทกจากการชน และไม่สามารถยึดเกาะบนพื้นผิวที่แตกต่างได้ ทำให้การใช้งานโดรนถูกจำกัดอยู่เพียงแค่การประเมินความเสียหายจากที่สูงบนท้องฟ้า แต่ยังไม่สามารถใช้เพื่อนำทางผ่านอาคารที่ถล่มได้ เพราะโครงสร้างที่มีลักษณะแข็งของโดรนทำให้ความสามารถในการเผชิญกับสิ่งกีดขวางลดลง ดังนั้นเมื่อชนเข้ากับเสา คาน ท่อหรือสายเคเบิลมักเป็นสาเหตุให้โดรนเหล่านี้พังเสียหาย   นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแอริโซนาสเตต (Arizona State University) จึงได้ออกแบบโดรนบินโซบาร์ (SoBar – Soft-Bodied Aerial Robot) ที่มีน้ำหนักเบาและมีโครงสร้างยืดหยุ่น ผลิตจากผ้าไนลอนเคลือบด้วยโพลียูรีเทน (PU) มีคุณสมบัติยืดหยุ่นและทนทาน กันซึม กันน้ำ ภายในอัดอากาศเข้าไปเพื่อสร้างความอ่อนนุ่มสามารถพองลมเพื่อให้ทนทานต่อการชนและดูดซับแรงกระแทก สามารถเด้งกลับจากการชนและป้องกันใบพัดของโดรนไม่ให้เกิดความเสียหาย ในส่วนฐานของโดรนยังมีนวัตกรรมกริปเปอร์ที่ช่วยให้อุปกรณ์ยึดเกาะได้อย่างปลอดภัยบนพื้นผิวเกือบทุกชนิดและมั่นคงเมื่อลงจอด โดยทีมงานได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากกรงเล็บของนก   โดรนบินโซบาร์ (SoBar) มีความทนทานจากการถูกชนในทิศทางต่าง ๆ ซึ่งแตกต่างจากโดรนทั่วไป สำหรับการนำไปใช้ประโยชน์ในอนาคต นักวิจัยตั้งเป้าหมายว่าจะใช้ความสามารถของโดรนแบบใหม่นี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์อื่น เช่น การตรวจสอบไฟป่า การช่วยเหลือการลาดตระเวนทางทหาร และแม้แต่การสำรวจพื้นผิวของดาวเคราะห์ดวงอื่น ทั้งนี้ทีมนักวิจัยหวังว่าความสำเร็จครั้งนี้จะนำไปสู่การออกแบบโดรนที่แปลกใหม่มากยิ่งขึ้นในอนาคต    …

ตูนิเซียสอบเหตุกราดยิงใกล้โบสถ์ยิว ดับอย่างน้อย 5 คน

Loading

  เกิดเหตุกราดยิงที่โบสถ์ยิวแห่งหนึ่งในตูนิเซีย มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน รวมถึงคนสัญชาติฝรั่งเศส ด้านฝรั่งเศสประณามเป็นการโจมตีที่ชั่วร้าย   เมื่อวันที่ 10 พ.ค.2566 เกิดเหตุการณ์กราดยิงใกล้โบสถ์ยิว บนเกาะ Djerba ของตูนิเซีย จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 5 คน   ผู้ก่อเหตุเป็นสมาชิกกองกำลังพิทักษ์ชาติ ได้สังหารเพื่อนร่วมงาน 1 คน ก่อนมุ่งหน้าไปโบสถ์แห่งนี้ที่กำลังมีคนหลายร้อยคนเข้าร่วมแสวงบุญประจำปี จากนั้นได้ก่อเหตุกราดยิงผู้มาแสวงบุญและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย จนทำให้มีผู้แสวงบุญเสียชีวิต 2 คน โดยทั้งคู่เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน คนหนึ่งเป็นชาวตูนิเซียอายุ 30 ปี และอีกคนมีสัญชาติฝรั่งเศสอายุ 42 ปี   ส่วนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เสียชีวิตทั้งหมด 3 คน ในจำนวนนี้ 1 คนเสียชีวิตที่โรงพยาบาล เนื่องจากได้รับบาดเจ็บสาหัส นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 8 คน โดยเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 4 คน ขณะที่ผู้ก่อเหตุถูกเจ้าหน้าที่ยิงจนเสียชีวิต   ด้านกระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศส ประณามเหตุการณ์ในครั้งนี้ว่าเป็นการโจมตีที่ชั่วร้าย โดยแสดงความกังวลและความโศกเศร้าอย่างสุดซึ้ง ขณะที่กระทรวงมหาดไทยของตูนิเซีย…

กต.-โคแฟค ร่วมต้านข่าวปลอม

Loading

  กระทรวงการต่างประเทศ 10 พ.ค.-กรมสารนิเทศ กระทรวงต่างประเทศ หารือ โคแฟค (ประเทศไทย) พร้อมร่วมมือต้านข่าวปลอม นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศ พร้อมด้วยผู้บริหารกรมสารนิเทศ หารือกับ น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ ผู้ร่วมก่อตั้งโคแฟค (ประเทศไทย) บรรณาธิการ ที่ปรึกษาโคแฟค และทีมงาน เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นและแสวงหาความร่วมมือในการจัดการกับปัญหาข่าวปลอม โดยเฉพาะในโซเชียลมีเดีย และประเด็นที่เกี่ยวข้อง เช่น การทูตดิจิตอล การร่วมกันต่อต้านข่าวปลอมที่อาจมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือความสัมพันธ์ระดับประชาชนต่อประชาชน  และภาพลักษณ์ของประเทศ การพิจารณาแนวโน้มในอนาคตต่อการจัดการกับความท้าทายจาก AI โดยเฉพาะข่าวที่ผลิตโดย AI การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในประเด็นดิจิตัล การป้องกันแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นผ่านโซเชียลมีเดีย การป้องกันการเผยแพร่ข่าวปลอมเพื่อลวงล่อคนไปทำงานต่างประเทศ การป้องกันการยุยงให้เกิดความเกลียดชังข้ามวัฒนธรรม หรือข้ามชาติผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย เป็นต้น ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้แบ่งปันข้อมูล และประสบการณ์เกี่ยวกับแนวปฏิบัติที่ดีด้านการป้องกันและต่อต้านข่าวปลอมทั้งในไทย และในต่างประเทศของฝ่ายรัฐ ภาคประชาสังคม และสำนักข่าวต่างประเทศ อธิบดีกรมสารนิเทศ กล่าวว่า ความสำคัญของการป้องกันการเผยแพร่ข่าวปลอม การสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อประเด็นต่าง ๆ โดยเฉพาะในประเด็นที่อาจมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งกรมสารนิเทศและโคแฟค (ประเทศไทย) จะร่วมมือกันอย่างแข็งขันต่อไป.-สำนักข่าวไทย ——————————————————————————————————————————————– ที่มา…

ปากีสถานประท้วงเดือด หลังอดีตนายกฯ อิมราน ข่าน ถูกจับกุม ชี้เกี่ยวพันกับแรงจูงใจทางการเมือง

Loading

  บรรดากลุ่มผู้สนับสนุนอดีตนายกรัฐมนตรีอิมราน ข่าน ของปากีสถานต่างออกมาชุมนุมประท้วงเดือดในหลายเมืองสำคัญทั่วประเทศ หลังข่านถูกจับกุมตัวเมื่อวานนี้ (9 พฤษภาคม) ตามเวลาท้องถิ่น ขณะกำลังเข้าฟังกระบวนการพิจารณาคดีคอร์รัปชันที่เขาให้การว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวถูกตั้งขึ้นด้วยแรงจูงใจทางการเมือง ณ ศาลสูงในกรุงอิสลามาบัด เมืองหลวงของปากีสถาน หลายพื้นที่สถานการณ์บานปลายกลายเป็นเหตุปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง เป็นเหตุให้มีผู้ชุมนุมในเมืองเก็ตตาเสียชีวิตอย่างน้อย 1 ราย ทางด้านรัฐบาลสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร เฝ้าติดตามสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด พร้อมเรียกร้องให้ทางการปากีสถานยึดมั่นในหลักนิติธรรม โดยข่านถูกขับออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในเดือนเมษายนปี 2022 หลังถูกกล่าวหาในหลายคดี และข่านได้เดินหน้ารณรงค์ให้ปากีสถานจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้ พร้อมทั้งยืนยันว่า ตนเองไม่ได้ทำอะไรผิด ข้อกล่าวหาทั้งหมดเป็นไปเพื่อกำจัดเขาในฐานะศัตรูทางการเมือง ทางด้านพรรค Tehreek-e-Insaf หรือพรรค PTI ของข่าน ได้ประท้วงการจับกุมดังกล่าว พร้อมเรียกร้องให้สมาชิกพรรคและบรรดากกลุ่มผู้สนับสนุนข่าน ออกมารวมตัวชุมนุมประท้วงทั่วประเทศ โดยข่านเคยคาดการณ์ไว้ว่าสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดอาจเกิดขึ้นหากตัวเขาถูกจับกุม นั่นจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ปากีสถานเข้าสู่ความโกลาหลและภาวะอนาธิปไตย ไร้กฎไร้ระเบียบ ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จับกุมข่านชี้แจงว่า เขาได้รับคำสั่งให้จับกุมอดีตผู้นำปากีสถานวัย 70 ปี เนื่องจากข่านมีส่วนพัวพันกับการทุจริตคอร์รัปชันและการประพฤติมิชอบ โดยเฉพาะกรณีจัดสรรที่ดิน Al-Qadir Trust ของข่านและภรรยาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยข่านชนะการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2018 กวาดคะแนนเสียงไป 31.82% และคว้าไป 149 ที่นั่ง…

เตือน! พบ URL อันตรายเกี่ยวข้องกับ ChatGPT มากกว่า 100 รายการต่อวัน

Loading

  Unit 42 ของพาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์ แจ้งเตือนตรวจพบ URL อันตรายที่เกี่ยวข้องกับ ChatGPT มากกว่า 100 รายการต่อวัน ในทราฟฟิกที่วิ่งผ่านระบบกรอง URL ขั้นสูง พาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์ ผู้นำระดับโลกด้านระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ เผยแพร่งานวิจัยจาก Unit42 ทีมข่าวกรองด้านภัยคุกคาม ที่บ่งชี้ถึงปัญหาการหลอกลวงที่เพิ่มขึ้นภายใต้ธีม ChatGPT ในช่วงที่กระแสการสร้างคอนเทนต์ด้วย AI กำลังได้รับความนิยม งานวิจัยดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงสารพัดเทคนิคที่บรรดานักล่อลวงใช้หลอกลวงเหยื่อให้เปิดเผยข้อมูลความลับหรือติดตั้งซอฟต์แวร์อันตราย อีกทั้งยังนำเสนอตัวอย่างและกรณีศึกษาเพื่อสาธิตวิธีการดังกล่าวด้วย   Unit 42 ตรวจพบ URL ประเภทฟิชชิงจำนวนมากที่แอบอ้างเป็นเว็บไซต์ทางการของ OpenAI โดยนักล่อลวงที่อยู่เบื้องหลังปัญหาเหล่านี้มักสร้างเว็บไซต์ปลอมที่มีหน้าตาเลียนแบบเว็บไซต์ทางการ ของ ChatGPT ด้วยประสงค์ในการหลอกล่อให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดซอฟต์แวร์อันตราย หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวอันเป็นความลับ แม้ว่า OpenAI จะมี ChatGPT เวอร์ชันฟรีให้บริการ แต่นักล่อลวงก็มักทำให้เหยื่อเข้าใจผิดจนยินยอมจ่ายค่าบริการผ่านเว็บไซต์ปลอมเหล่านี้ ข้อมูลสำคัญจากรายงานฉบับนี้ประกอบด้วย – โปรแกรมแอบอ้างเป็นส่วนขยาย ChatGPT สามารถใส่สคริปต์ที่ทำงานเบื้องหลังเบราว์เซอร์ของเหยื่อ ซึ่งเป็น JavaScript…

สปายแวร์ ‘QuaDream’ วายร้ายโจมตีแบบ ‘Zero-Click’

Loading

  Zero-click จะทำงานอย่างอัตโนมัติ มักจะไม่ถูกตรวจจับ และไร้ร่องรอยทันทีที่รหัสเข้าสู่อุปกรณ์ของผู้ใช้งาน  ข่าวการติดตามการโจมตีแบบ “Zero-click” ของแอ๊ปเปิ้ล iOS 14 ถูกนำมาปรับใช้กับสปายแวร์มือถือ “QuaDream” โดยมีการสอดแนมกับกลุ่มนักข่าว นักการเมืองฝ่ายค้าน และพนักงาน NGO โดยจากการวิจัยของ Citizen Lab และ Microsoft Threat Intelligence ที่แคนนาดาพบว่า มีเหยื่ออย่างน้อย 5 คน ที่ถูกแฮกผ่านช่องโหว่ Zero-Click ทางปฎิทินของไอโฟน เพื่อเข้าสู่อุปกรณ์และทำให้เครื่องติดสปายแวร์ซึ่งเหยื่อส่วนใหญ่มาจากทวีปอเมริกาเหนือ เอเชียกลาง เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยุโรป และตะวันออกกลาง ผมขออธิบายอย่างนี้ว่า สปายแวร์บนมือถือมีอยู่ 2 ประเภทหลักๆ คือ ผลิตภัณฑ์จากองค์กรต่างๆ อย่าง QuaDream ที่มักจะใช้ประโยชน์จากช่องโหว่แบบ Zero-Click และผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคนิคการเดลิเวอรี่ที่ไม่ซับซ้อนอย่าง Social Engineering เพื่อทำให้อุปกรณ์ติดไวรัส แม้เทคนิคการเดลิเวอรี่จะแตกต่างกันแต่ความสามารถในการสอดแนมทั้ง 2 ประเภทแทบไม่แตกต่างกันเลยและแน่นอนว่าภัยคุกคามเหล่านี้ได้ก่อตัวเป็นปัญหาที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งไม่เพียงส่งผลกระทบต่อหน่วยงานของรัฐและกลุ่มเป้าหมายที่มีชื่อเสียงในหมู่ของนักข่าวและนักเคลื่อนไหวเท่านั้น แต่ยังเป็นภัยคุกคามต่อพนักงานในองค์กรทุกคนด้วย การใช้ประโยชน์จาก…