เดอะการ์เดียนเผยกล้องเสริม AI ของสหรัฐเป็นอันตรายกับผู้อพยพข้ามพรมแดน

Loading

  หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนรายงานว่า กล้องถ่ายภาพที่เสริมสมรรถนะด้วยปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ซึ่งติดตั้งในหอสังเกตการณ์บริเวณพรมแดนทางตอนใต้ของสหรัฐนั้น สามารถตรวจจับวัตถุต้องสงสัยที่อยู่ห่างออกไปหลายไมล์ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญกังวลว่าสถานการณ์ดังกล่าวอาจผลักดันให้กลุ่มผู้อพยพต้องเดินทางลึกเข้าไปในทะเลทรายซึ่งเป็นพื้นที่อันตราย   เดอะการ์เดียนรายงานโดยอ้างข้อมูลจากอิเล็กทรอนิก ฟรอนเทียร์ ฟาวเดชัน (Electronic Frontier Foundation) องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่มุ่งเน้นความเป็นส่วนตัวทางดิจิทัล เสรีภาพในการพูด และนวัตกรรม ซึ่งระบุว่า แผนที่ฉบับใหม่แสดงให้เห็นว่ามีหอสังเกตการณ์จำนวนมากกว่า 300 จุดตั้งอยู่ตามแนวพรมแดนระหว่างสหรัฐและเม็กซิโก และยังมีหอสังเกตการณ์ที่มีแผนจะสร้างเพิ่มอีก 50 จุด   หอสังเกตการณ์เหล่านี้พัฒนาโดยบริษัทแอนดูริล (Anduril) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีด้านกลาโหม โดยหอสังเกตการณ์ปฏิบัติงานทั้งกลางวันและกลางคืน และติดตั้งกล้องที่เสริมสมรรถนะด้วย AI ซึ่งสามารถตรวจจับวัตถุต้องสงสัย เช่น คนหรือยานพาหนะ นอกจากนี้ กล้องยังสามารถหมุนได้ 360 องศา และสามารถตรวจจับคนที่อยู่ห่างออกไปไกลถึง 1.7 ไมล์ หรือประมาณ 2.7 กิโลเมตร   กลุ่มผู้เชี่ยวชาญได้ออกมาแสดงความกังวลว่า ยุทธศาสตร์ดังกล่าวที่ดำเนินการโดยรัฐบาลสหรัฐหลายสมัยนั้น ได้ผลักดันให้มีการอพยพผ่านทะเลทรายและภูเขา ซึ่งส่งผลให้ผู้อพยพเสียชีวิตหรือสูญหายจำนวนมาก   นอกจากนี้ ยุทธศาสตร์ดังกล่าวยังสะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลสหรัฐยังคงควบคุมการไหลเข้าของผู้อพยพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อพยพผ่านพรมแดนกั้นระหว่างสหรัฐและเม็กซิโก…

ไบเดนสั่งบริษัทเทคฯ คุมเข้มความปลอดภัยเอไอ หวั่นอันตรายต่อสังคม

Loading

U.S. President Joe Biden adjusts his microphone during a meeting with the President’s Council of Advisors on Science and Technology in the State Dining Room of the White House, April 4, 2023, in Washington.   ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน กล่าวในวันอังคารว่า ต้องจับตามองกันต่อไปว่าเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ จะเป็นอันตรายมากน้อยแค่ไหน พร้อมเน้นย้ำว่าบริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ จะต้องแสดงความรับผิดชอบต่อการพัฒนาเอไอ   ปธน.ไบเดน กล่าวต่อที่ประชุมสภาที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีว่า ในอนาคตเอไออาจมีประโยชน์ในด้านการรักษาโรคและรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ แต่ก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องบริหารจัดการความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับสังคม เศรษฐกิจ และความมั่นคงแห่งชาติ   ผู้นำสหรัฐฯ…

เป็นเรื่อง! พนักงาน Samsung Semiconductor เผลอทำ Source Code และข้อมูลสำคัญของบริษัทรั่วไหลใน ChatGPT

Loading

    เว็บไซต์ TechRadar รายงานว่า พนักงานในแผนกเซมิคอนดักเตอร์ของ Samsung ได้ก่อความผิดพลาดครั้งใหญ่ด้วยการปล่อยให้ข้อมูลความลับสำคัญของบริษัท ได้แก่ Source Code สำหรับโปรแกรมใหม่, รายงานการประชุมภายในของบริษัท และข้อมูลเกี่ยวกับฮาร์ดแวร์ รั่วไหลโดยบังเอิญ ระหว่างการใช้งานโปรแกรมแชตบอตปัญญาประดิษฐ์ชื่อดัง ChatGPT   รายงานข่าวดังกล่าว ระบุว่า พนักงานของ Samsung ได้กรอกคำสั่งให้ ChatGPT ทำการทดสอบเพื่อตรวจจับข้อบกพร่องในชิป ซึ่งเป็นกระบวนการที่เป็นความลับสูง เนื่องจากต้องการประหยัดเวลาและงบประมาณในการปรับปรุงประสิทธิภาพกระบวนการทดสอบและตรวจสอบโปรเซสเซอร์ของบริษัท   นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งกรณีที่พนักงานใช้งาน ChatGPT เพื่อแปลงบันทึกการประชุม ซึ่งบริษัทไม่ต้องการให้บุคคลภายนอกเห็นเป็นพรีเซนเทชัน   ทันทีที่รับรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น Samsung ได้สั่งลงโทษพนักงานที่สร้างความผิดพลาด พร้อมออกประกาศคำเตือนถึงพนักงานที่เหลือของบริษัทในการใช้ ChatGPT และการรักษาความลับของบริษัทในทันที   ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ข้อมูลที่รั่วไหลไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ OpenAI ผ่าน ChatGPT จะไม่สามารถกู้หรือลบทิ้งได้ ซึ่งปัญหานี้อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของ Samsung   เว็บไซต์ The Economist รายงานว่า เพื่อตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น…

ปฏิบัติการใหญ่! ตำรวจสากลบุกปิดตลาดเว็บมืด ‘เจเนซิส มาร์เกต’

Loading

  ปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก 17 ประเทศ ที่เรียกว่า “โอเปอเรชั่น คุกกี้ มอนสเตอร์” ซึ่งนำโดยสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติเนเธอร์แลนด์ นำไปสู่การปิดตลาดดิจิทัลผิดกฎหมายขนาดใหญ่ที่สุด หรือ “ดาร์กเน็ต” ที่มีชื่อว่า “เจเนซิส มาร์เกต”   สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานจากกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 6 เม.ย. ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจากองค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ (อินเตอร์โพล) หรือตำรวจสากล ดำเนินการตรวจค้นมากกว่า 200 ครั้ง และทำการจับกุมผู้กระทำผิดราว 120 คน ตลอดจนมีส่วนร่วมใน “กิจกรรมป้องกัน” ในวงกว้าง   Targeting this infrastructure is at the core of the NCA's efforts to disrupt the highest harm offenders…

ตะวันออกกลางร้อนฉ่า “ตำรวจจลาจลยิว” บุกเข้ามัสยิดอัลอักศอ “ยิงระเบิดแสง-แก๊สน้ำตา” ถึงข้างใน จับไม่ต่ำกว่า 350

Loading

    เอเจนซีส์ – ตำรวจปราบจลาจลอิสราเอลบุกเข้ามัสยิดอัลอักศอชื่อดัง เช้าวานนี้ (4 เม.ย.) เปิดฉากยิงระเบิดแสงและแก๊สน้ำตาด้านในระหว่างปะทะกับชาวปาเลสไตน์ผู้แสวงบุญ มีรายงานกวาดจับไปไม่ต่ำกว่า 350 คน     สกายนิวส์ สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้ (5 เม.ย.) ว่า การบุกเข้ามัสยิดอัลอักศอเกิดขึ้นไม่กี่วันหลังชายชาวปาเลสไตน์โดนสังหารด้านนอกมัสยิด ทั้งนี้ หลังการบุกเข้ามัสยิดชื่อดังที่เป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของโลกมุสลิมเช้าวันพุธ (4) ที่มีการยิงระเบิดแสงและแก๊สน้ำตาด้านในระหว่างตำรวจปราบจลาจลอิสราเอลปะทะกับกลุ่มผู้แสวงบุญปาเลสไตน์     CNN ของสหรัฐฯ รายงานว่า หลังการปะทะมีผู้ถูกจับกุมไม่ต่ำกว่า 350 คน โดยภาพที่ถูกเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดียแสดงให้เห็นว่า ตำรวจอิสราเอลใช้ความรุนแรงทุบทำร้ายผู้แสวงบุญด้วยกระบองอย่างป่าเถื่อน พยานในเหตุการณ์เปิดเผยกับสื่อสหรัฐฯ ว่า ตำรวจยังทุบทำลายประตู และหน้าต่างของมัสยิดศักดิ์สิทธิ์ พร้อมกับยิงระเบิดแสงและกระสุนยางใส่ฝ่ายตรงข้าม   ขณะที่สกายนิวส์รายงานว่า องค์การเสี้ยวเดือนแดงปาเลสไตน์เปิดเผยว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 12 คน และถูกจับอีกหลายสิบคน     ทั้งนี้ เหตุเกิดขึ้นหลังจากที่ผู้แสวงบุญปาเลสไตน์ไม่กี่ร้อยคนยังรวมตัวอยู่ด้านในหลังจากทำพิธีเทศกาลรอมฎอนคืนวันอังคาร (3) แต่ทางตำรวจอิสราเอลอ้างว่า พวกเขาพยายามเคลียร์นำคนเหล่านี้ออกไปอย่างสงบแต่ว่ามีกลุ่มเล็ก ๆ…

“ฟินแลนด์” สร้างรั้วกั้นพรมแดน “รัสเซีย”

Loading

  ฟินแลนด์เดินหน้าสร้างรั้วกั้นพรมแดนรัสเซีย ด้านรัสเซียประกาศตอบโต้ในทันที กรณีฟินแลนด์เข้าเป็นสมาชิกนาโต   ฟินแลนด์เดินหน้าโครงการสร้างรั้ว   ฟินแลนด์ได้ทำการสร้าง “รั้ว” ความยาวทั้งสิ้นราว 200 กิโลเมตร กั้นพรมแดนกับรัสเซีย เพื่อป้องกันการลักลอบข้ามแดนจากรัสเซียอย่างผิดกฎหมาย โดยเป็นรั้วที่มีความสูง 3 เมตร และติดตั้งเซนเซอร์ไฟฟ้าเอาไว้ด้วย คาดว่าจะใช้เวลาราว 4 ปีจึงจะเสร็จสิ้น ซึ่งเรื่องนี้ได้รับความเห็นชอบจากทั้งรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านของฟินแลนด์   รั้วดังกล่าว จะติดตั้งไว้บริเวณจุดข้ามแดนเมืองอิมาตรา ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีเพียงรั้วเล็ก ๆ ที่กั้นระหว่างสองประเทศเอาไว้เท่านั้น   หน่วยยามพรมแดนของฟินแลนด์เปิดเผยว่า ก่อนการระบาดของโควิด-19 มีประชาชนราว 13,000 คน ข้ามพรมแดนไปมาในแต่ละวัน ทำให้ถนนบริเวณพรมแดนเต็มไปด้วยรถราที่ต่อคิวข้ามแดน แต่ปัจจุบัน เหลือเพียงวันละไม่กี่ร้อยคนที่เดินทางข้ามพรมแดนระหว่างรัสเซียและฟินแลนด์   โดยจากสถิติเมื่อปี 2015 มีชาวรัสเซียข้ามพรมแดนเข้ามายังฟินแลนด์อย่างผิดกฎหมายราว 5,000 คน แต่ปัจจุบัน แทบไม่มีการข้ามพรมแดนอย่างผิดกฎหมายในแถบเมืองอิมาตราอีกเลย   ประชาชนในเมืองชายแดนของฟินแลนด์ ระบุว่า พวกเราจำเป็นต้องมีรั้วกั้นที่แน่นหนา รั้วที่สูง เพราะจะได้ไม่มีใครสามารถข้ามมาได้อีก   ทั้งนี้…