หลักการสร้างป้ายกำกับ (tag)

Loading

ป้ายกำกับ (tag) คือ คำสำคัญสั้น ๆ ของข่าวหรือบทความ ที่ทำให้ผู้อ่านทราบว่าข่าวและบทความนั้นมีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร ลักษณะของป้ายกำกับ เป็นกลุ่มคำหรือวลีสั้น ๆ เป็นคำสำคัญที่เกี่ยวข้องกับข่าวและบทความ เป็นข้อความที่อยู่ในเนื้อข่าว หรือใช้ข้อความตามหมวดหมู่ข้อมูลข่าวสารด้านการรักษาความปลอดภัยที่เกี่ยวข้อง/ที่กำหนดไว้ ใช้เป็นคำค้นหา ทำให้การค้นหาข่าวและบทความจากเว็บไซต์มีความรวดเร็วยิ่งขึ้น การสร้างป้ายกำกับ เจ้าหน้าที่จะต้องอ่านข่าวหรือบทความที่จะนำลงบนเว็บไซต์ go.th เพื่อให้เข้าใจว่ามีเนื้อหาสาระสำคัญใดบ้าง และเกี่ยวข้องกับข้อมูลข่าวสารด้านการรักษาความปลอดภัยในหมวดหมู่ใด หากสาระสำคัญเกี่ยวข้องกับหมวดหมู่ของข้อมูลข่าวสารด้านการรักษาความปลอดภัยใด ให้ใช้คำตามหมวดหมู่นั้น ๆ นำวลีหรือข้อความสำคัญที่อยู่ในเนื้อข่าวมาใช้เป็นป้ายกำกับ อาจตัดคำประพันธสรรพนาม ได้แก่ ที่ ซึ่ง อัน ผู้ และคำสันธาน ที่ทำให้ข้อความนั้นไม่กระชับออก แต่ละข่าวและบทความจะต้องสร้างป้ายกำกับอย่างน้อย 3 ป้ายกำกับ

หลักการและขั้นตอนการดำเนินการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารด้านการรักษาความปลอดภัย

Loading

1. การจัดหาข้อมูล ซึ่งมีเนื้อหาตามหลักเกณฑ์การคัดเลือกข่าวและบทความจากแหล่งข่าวเปิด ผู้ปฏิบัติงานจะต้องอ่านและจัดหาข่าวหรือบทความภายในคราวเดียวกัน กล่าวคือ ต้องเปิดเว็บไซต์สำนักข่าวทั้งหมด จึงจะสามารถเปรียบเทียบข่าวที่มีหัวข้อหรือเนื้อหาใกล้เคียงกัน รวมทั้งเลือกข่าวและบทความ ที่มีเนื้อหาสมบูรณ์ที่สุดจากหลายตัวเลือกได้ 2. การคัดเลือกข้อมูล ผู้ปฏิบัติงานจำเป็นต้องมีวิจารณญาณในการคัดเลือกและสามารถวิเคราะห์จุดประสงค์ของการนำเสนอข่าวสารนั้น ว่าผู้ส่งสารต้องการนำเสนอข้อเท็จจริง หรือพุ่งเป้าโจมตีฝ่ายตรงข้าม หรือโน้มน้าวใจให้เชื่อหรือเปลี่ยนทัศนคติไปในทางลบหรือไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งตามที่ผู้ส่งสารต้องการ ที่เรียกว่า การปฏิบัติการข่าวสาร หรือ Information Operation (IO) โดยปกติแล้วจะจำกัดการนำข่าวสารลงเว็บไซต์องค์การรักษาความปลอดภัยฝ่ายพลเรือนใน บางหมวดหมู่ เช่น หมวดหมู่ข่าวประจำวันไม่เกิน 5-6 ข่าวต่อวัน และบทความทั่วไปไม่เกิน ๒-๓ บทความต่อวัน เพราะการใส่ข่าวหรือบทความจำนวนมากในคราวเดียวกัน อาจทำให้ข่าวสำคัญ ที่นำลงก่อนหน้าหลุดออกจาก  หน้าโฮมเพจ ซึ่งหากผู้ใช้งานไม่กดดูเนื้อหาทั้งหมดอาจพลาดข่าวสารนั้น จึงจำเป็นต้องคัดเลือกข่าวและบทความ   ที่เหมาะสมที่สุดในจำนวนที่กำหนด 3. การตรวจสอบข้อมูล หลังจากคัดเลือกข่าวและบทความแล้ว จึงทำการตรวจสอบเนื้อหาให้มั่นใจว่า  มีความถูกต้อง ครบถ้วน และเชื่อถือได้ เพราะการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ (Fake News) อาจส่งผลกระทบต่อ  ผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ นอกจากนี้ ผู้ปฏิบัติงานจะต้องตรวจคำผิด โดยอ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์สำนักงานราชบัณฑิตยสภา (www.orst.go.th) 4.…

หลักการพิจารณาและคัดเลือกข้อมูลข่าวสาร

Loading

เมื่อเจ้าหน้าที่คัดเลือกข้อมูลข่าวสารตามเนื้อหาที่ได้กำหนดและตรงตามประเด็นข่าวสารที่มุ่งเน้น มีความเหมาะสมที่จะนำมาลงบนเว็บไซต์องค์การรักษาความปลอดภัยแล้ว ลำดับต่อมา เจ้าหน้าที่จะพิจารณาและคัดเลือกข้อมูลข่าวสารให้เป็นไปตามคุณลักษณะของข่าวและบทความที่ดี สามารถพิจารณาได้จากคุณสมบัติ ดังนี้ ข่าว หมายถึง เหตุการณ์ที่คนในสังคมกำลังให้ความสนใจ และเผยแพร่ทางสื่อสิ่งพิมพ์ หรือสื่อออนไลน์ เหตุการณ์ที่นำมาเขียนเป็นข่าว จะต้องเป็นเรื่องทันเหตุการณ์ และส่งผลกระทบต่อบุคคลในสังคม บทความ หมายถึง ข้อเขียนร้อยแก้วที่มุ่งให้สาระความรู้หรือความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งแก่ผู้อ่าน เนื้อหาของบทความส่วนใหญ่จะต้องเป็นประเด็นที่ทันสมัย ทันเหตุการณ์ และอยู่ในความสนใจของคนในสังคม 1. การพิจารณาข่าว หลักการอ่านและพิจารณาข่าว ควรพิจารณาในประเด็นต่อไปนี้ 1.1 ความถูกต้อง (accuracy) การรายงานข่าวนั้นต้องมีทั้งความถูกต้องและครบถ้วน ทั้งข้อมูลหรือข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่นำมารายงาน และข้อมูลที่ปรากฏในข่าว ไม่ว่าจะเป็นชื่อ นามสกุล อายุ ที่อยู่ ยศ ตำแหน่ง เป็นต้น รวมไปถึงความครบถ้วนของข้อเท็จจริง การนำเสนอเหตุการณ์ไม่ควรจะนำเสนอเพียง  บางประเด็นและละเลยในบางประเด็น จนทำให้ภาพเหตุการณ์ที่ถูกนำเสนอนั้น ไม่สามารถให้ความถูกต้องครบถ้วนของเหตุการณ์จริงทั้งหมดได้ 1.2 ความสมดุลและเที่ยงธรรม (balance and fairness) การรายงานข่าวนั้น เปิดโอกาสให้คนทุกกลุ่มได้นำเสนอความคิดเห็นได้อย่างเท่าเทียม โดยเฉพาะข่าวที่มีลักษณะของความขัดแย้ง ควรรายงานข่าวเกี่ยวกับคู่ขัดแย้งให้ครบทุกฝ่าย เพื่อให้ผู้รับสารตัดสินใจได้ว่าสมควรจะให้ความเชื่อถือหรือยอมรับความคิดเห็นของฝ่ายใด และเสนอข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นนั้นอย่างรอบด้านและเป็นธรรม โดยไม่เอาความคิดของผู้เขียน เข้าไปชี้นำ…

รายชื่อแหล่งที่มาของข้อมูลที่นำมาใช้เผยแพร่

Loading

ข้อมูลข่าวสารด้านการรักษาความปลอดภัยมีที่มาทั้งจากแหล่งข่าวเปิด อาทิ เว็บไซต์สำนักข่าว หนังสือพิมพ์ วารสาร สิ่งตีพิมพ์ที่สามารถใช้อ้างอิงได้ ฯลฯ อาทิ เว็บไซต์ข่าว/แหล่งข้อมูลภาคเอกชน ไทยรัฐออนไลน์   https://www.thairath.co.th เดลินิวส์ออนไลน์   https://www.dailynews.co.th ผู้จัดการออนไลน์   https://mgronline.com โพสต์ทูเดย์   https://www.posttoday.com PPTV Online   https://www.pptvhd36.com มติชนออนไลน์   https://www.matichon.co.th กรุงเทพธุรกิจออนไลน์   https://www.bangkokbiznews.com สำนักข่าวอินโฟเควสท์   https://www.infoquest.co.th ข่าวสดออนไลน์   https://www.khaosod.co.th ไทยโพสต์   https://www.thaipost.net วีโอเอไทย   https://www.voathai.com BBC News บีบีซีไทย   https://www.bbc.com/thai คมชัดลึกออนไลน์   https://www.komchadluek.net สำนักข่าวอิศรา   https://www.isranews.org แนวหน้า   https://www.naewna.com เวิร์คพอยท์ทูเดย์   https://workpointtoday.com TNN Online   https://www.tnnthailand.com แบไต๋   https://www.beartai.com สปริงนิวส์   https://www.springnews.co.th ไอที 24 ชั่วโมง   https://www.it24hrs.com…

ข่าวกรองใหม่เผย ฝ่ายสนับสนุนยูเครนอาจมีเอี่ยววินาศกรรมท่อส่งก๊าซ

Loading

    มีข้อมูลใหม่ซึ่งบ่งชี้ว่า ฝ่ายสนับสนุนยูเครนอาจมีส่วนเกี่ยวพันในการก่อวินาศกรรมท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีมเมื่อเดือน ก.ย. ปีที่แล้ว   หากใครยังจำกันได้ เมื่อช่วงปลายเดือน ก.ย. 2022 เกิดเหตุ “ท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีม (Nord Stream)” ซึ่งเป็นท่อส่งก๊าซธรรมชาติหลักจากรัสเซียไปยุโรป เกิดการรั่วไหลโดยไม่ทราบสาเหตุ โดยข้อมูลในเวลาต่อมาพบร่องรอยวัตถุระเบิดในบริเวณที่ท่อส่งเกิดความเสียหาย และมีข้อยืนยันว่า นี่เป็นการ “ก่อวินาศกรรม”   ล่าสุดสื่อต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของยุโรปและสหรัฐฯ ได้ข้อมูลใหม่ซึ่งบ่งชี้ว่า “ฝ่ายสนับสนุนยูเครนอาจมีส่วนเกี่ยวพันในการก่อวินาศกรรมท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีม”     หน่วยข่าวกรองเยอรมันเชื่อว่า ผู้ที่โจมตีท่อส่งก๊าซมีทั้งสิ้น 6 คน โดยพวกเขาใช้เรือยอร์ชที่ว่าจ้างจากบริษัทที่จดทะเบียนในโปแลนด์ และมีพลเมืองยูเครน 2 คนเป็นเจ้าของ   พวกเขาไม่พบหลักฐานใด ๆ ว่าใครเป็นผู้สั่งการ โดยบุคคล 6 คนที่มีส่วนร่วมในปฏิบัติการนำวัตถุระเบิดไปติดตั้งที่จุดเกิดเหตุนี้ประกอบด้วย กัปตันเรือ นักประดาน้ำ 2 คน ผู้ช่วยนักดำน้ำ 2 คน และแพทย์อีก 1 คน และคาดว่าทั้งหกคนใช้หนังสือเดินทางปลอม  …