ดีอีดันสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) เปิดทำการศูนย์บริการ รับเรื่องร้องเรียนและให้คำปรึกษาการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA Center) อย่างเป็นทางการ ระบุมีแนวคิดแก้กฎหมาย หลังใข้เวลาดำเนินการนาน 90 วัน แต่ความเสียหายเกิดไปแล้ว
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี เป็นประธานใน พิธีเปิดศูนย์บริการ รับเรื่องร้องเรียน และให้คำปรึกษาการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA Center) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นศูนย์กลางการให้บริการด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างครบวงจร ที่จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและตอบสนองความต้องการให้กับทุกภาคส่วน อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มช่องทางการติดต่อให้กับประชาชนและหน่วยงานต่างๆ ในการติดต่อมายัง PDPC ได้อีกหนี่งช่องทาง
ทั้งนี้ การบริการที่ครบวงจรใน PDPA Center ประกอบไปด้วย
1. ศูนย์บริการให้คำปรึกษาและตอบข้อหารือเกี่ยวกับกฎหมาย PDPA
2. ศูนย์บริการการรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการไม่ปฎิบัติตามกฎหมาย PDPA
3. ศูนย์เฝ้าระวังการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล (PDPC Eagle Eye)
4. ศูนย์บริการความรู้และวิชาการด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
5. ศูนย์ประสานงานสำหรับเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) และให้คำแนะนำหลักการกำกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
6. ศูนย์ขับเคลื่อนความร่วมมือด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
7. ศูนย์ส่งเสริมและผลักดันการใช้มาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
รมว.ดีอี กล่าวว่า เรื่องของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เป็นเรื่องที่รัฐบาลชุดนี้ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งผมได้กำหนดแนวทางและมาตรการยกระดับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศ โดยให้ PDPC ดำเนินการแบบเชิงรุก และจัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล PDPC Eagle Eye เพื่อเฝ้าระวัง ติดตาม ตรวจสอบ และกำกับดูแล หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย PDPA อย่างเคร่งครัด และป้องปราม ไม่ให้หน่วยงานเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนโดยไม่เหมาะสมบนช่องทางสาธารณะ หากตรวจพบหน่วยงานมีการทำผิดอย่างต่อเนื่องและมีผลกระทบร้ายแรง ก็จะต้องมีลงโทษ มีการปรับทางปกครองอย่างเด็ดขาดตามกฎหมาย PDPA ซึ่งในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา ได้มีการตรวจสอบเชิงรุก มีการสกัดการรั่วไหลข้อมูลส่วนบุคคลไปแล้วกว่า 5,000 เคส และร่วมตรวจสอบเพื่อขยายผลสู่การจับกุมผู้ต้องหาซื้อขายข้อมูลส่วนบุคคลแล้ว 5 ราย
“ผมได้สั่งการให้เข้มงวด เรื่องของการป้องกันและปราบปรามการลักลอบซื้อขายข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนโดยมิชอบ ซึ่งที่ผ่านมา PDPC ได้ประสานความร่วมมือกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตำรวจไซเบอร์) ในการสืบสวนและจับกุมผู้กระทำความผิดมาลงโทษอย่างเด็ดขาดแล้วหลายราย”
นายประเสริฐ กล่าวว่า นอกจากนี้ จะเสนอให้มีการปรับแก้กฎหมาย PDPA เพื่อเพิ่มบทลงโทษกับผู้ที่ลักลอบซื้อขายข้อมูลส่วนบุคคลโดยมิชอบ ให้มีโทษทางอาญาที่รุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก และมีความเด็ดขาด ยอมความไม่ได้ เพื่อเพิ่มประสิทธิผลในการป้องปรามไม่ให้เกิดการลักลอบซื้อขายข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนไปสู่กลุ่มมิจฉาชีพ ซึ่งจะผลักดันให้มีการนำเรื่องปรับแก้กฎหมายเข้าสู่สภาอย่างเร่งด่วนต่อไป ซึ่งขั้นตอนต่อไปจะมีการพิจารณาลดขั้นตอนกระบวนการจากเดิมใช้เวลานานกว่า 90 วันแต่ความเสียหายได้เกิดขึ้นไปแล้ว ดังนั้น จะหารือกับ กรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) เป็นหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่และอำนาจตามมาตรา 43 และ มาตรา 44 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลพ.ศ.2562 เพื่อให้การขับเคลื่อนการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนอย่างครบถ้วน และจะมีการพิจารณาบทลงโทษเพิ่มเติมด้วย
————————————————————————————————————————————-
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 29 ม.ค.67
Link : https://www.bangkokbiznews.com/tech/gadget/1110638