กรุงเบอร์ลิน
ชาวเยอรมนีหลายแสนคนออกไปแสดงพลังบนท้องถนนตามเมืองต่าง ๆ นับสิบแห่งทั่วประเทศช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อแสดงการประท้วงต่อต้านพรรคการเมืองขวาจัด โดยที่การชุมนุมในเมืองมิวนิก ทางตอนใต้ของแดนดอยช์เมื่อตอนบ่ายวันอาทิตย์ (21 ม.ค.) จำเป็นต้องยุติก่อนเวลาเนื่องจากความกังวลเรื่องความปลอดภัย หลังมีผู้ร่วมชุมนุมเนืองแน่นเกินคาดถึงราว 1 แสนคน
การประท้วงปะทุขึ้นหลังจากมีรายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ฝ่ายขวาจัดได้นัดพบกันเพื่อหารือเกี่ยวกับการเนรเทศผู้อพยพย้ายถิ่นนับล้าน ๆ ซึ่งรวมไปถึงพลเมืองเยอรมนีจำนวนหนึ่ง โดยที่สมาชิกบางคนของพรรคขวาจัดรายสำคัญอย่าง อัลเทอร์เนทีฟ ฟอร์ เยอรมนี หรือเอเอฟดี ก็เข้าร่วมประชุมด้วย
ระหว่างวันศุกร์ถึงวันอาทิตย์ (19-21 ม.ค.) มีการจัดการชุมนุมประท้วงราว 100 แห่งทั่วเยอรมนี โดยผู้จัดคือ แคมแพ็ก แอนด์ ฟรายเดย์ ฟอร์ ฟิวเจอร์ ประเมินว่า มีผู้เข้าร่วมรวมแล้วกว่า 1.4 ล้านคน
ที่เมืองโคโลญ ทางภาคตะวันตก ตำรวจยืนยันว่า มีประชาชน “หลายหมื่นคน” ชุมนุมประท้วงเมื่อวันอาทิตย์ ขณะที่กลุ่มผู้จัดระบุตัวเลขสูงถึง 70,000 คน สื่อท้องถิ่นยังรายงานว่า การประท้วงช่วงบ่ายวันเดียวกันที่กรุงเบอร์ลินดึงดูดผู้ชุมนุมถึง 100,000 คน
การประท้วงที่มีเป้าหมายเดียวกันนี้ยังจัดขึ้นในเมืองฮัมบวร์ก เมืองใหญ่อันดับ 2 ของเยอรมนี เมื่อวันศุกร์ (19 ม.ค.) โดยตำรวจเผยว่า มีผู้ร่วมชุมนุม 50,000 คน และต้องยกเลิกก่อนกำหนดเนื่องจากกังวลเรื่องความปลอดภัย
นอกจากนั้นในวันเสาร์ (20 ม.ค.) ยังมีการประท้วงในหลายเมือง เช่น ชตุตการ์ต เนินแบร์ก ฮันนโนเวอร์ ที่ต่างมีผู้เข้าร่วมหลายหมื่นคน
แม้ชาวเยอรมนีออกมาประท้วงต่อต้านแนวทางปีกขวาจัดหลายครั้งก่อนหน้านี้ แต่ที่แตกต่างจากทุกครั้งคือจำนวนผู้เข้าร่วมและขอบเขตการประท้วงในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งไม่เพียงเกิดขึ้นในเมืองใหญ่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงเมืองเล็กๆ หลายสิบเมืองทั่วประเทศ
ตัวจุดชนวนที่นำไปสู่การประท้วงอย่างกว้างขวางเช่นนี้ คือรายงานจากคอร์เร็กทีฟ ซึ่งเป็นสื่อเชิงสืบสวน ที่ออกมาเมื่อวันที่ 10 ที่ผ่านมาซึ่งระบุว่า สมาชิกกลุ่มขวาสุดโต่ง ไอเดนติเทเรียน มูฟเมนต์ ของพรรคเอเอฟดี เข้าร่วมการประชุมปีกขวาเมื่อเดือนพฤศจิกายน ซึ่งมีการหารือเกี่ยวกับการเนรเทศคนเข้าเมืองและ “พลเมืองที่ไม่อาจกลืนกลายทางวัฒนธรรม”
รายงานระบุว่า มาร์ติน เซลล์เนอร์ จากกลุ่มไอเดนติเทเรียน ในออสเตรีย ได้เสนอวิสัยทัศน์ “การอพยพกลับ” หรือการเนรเทศผู้อพยพ รวมทั้งเผยแพร่ทฤษฎี “การแทนที่ครั้งใหญ่” ที่อ้างว่า ผู้อพยพซึ่งไม่ใช่คนผิวขาววางแผนแทนที่ประชากร “พื้นเมือง” ผิวขาว
ข่าวนี้สร้างแรงกระเพื่อมใหญ่หลวงไปทั่วเยอรมนีในช่วงเวลาที่พรรคเอเอฟดีมีคะแนนนิยมเพิ่มขึ้นจากผลสำรวจความคิดเห็น โดยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจะมีการเลือกตั้งสำคัญระดับภูมิภาคทางตะวันออกของเยอรมนีซึ่งพรรคนี้มีฐานเสียงเข้มแข็งที่สุด
เอเอฟดี พยายามวางตัวเองให้ออกห่างจากการประชุมกลุ่มขวาสุดโต่ง โดยพรรคที่ชูนโยบายต่อต้านผู้อพยพแห่งนี้ แม้ยอมรับว่ามีสมาชิกไปร่วมการประชุมดังกล่าวจริง แต่ไปในนามส่วนตัว อีกทั้งไม่ได้เข้าร่วมเห็นดีเห็นงามกับโครงการ “อพยพกลับ” พร้อมสำทับว่า พรรคไม่มีความเชื่อมโยงด้านองค์กรหรือการเงินกับการประชุมดังกล่าว
บรรดานักการเมือง ตลอดจนถึงผู้นำศาสนา และผู้จัดการทีมฟุตบอลในบุนเดสลีกา ที่เป็นลีกสูงสุดของเยอรมนี ต่างพร้อมใจออกมาเรียกร้องคนเยอรมนีร่วมมือต่อต้านกลุ่มขวาจัด นอกจากนั้นยังมีผู้นำพรรคใหญ่หลายพรรคร่วมชุมนุมด้วยในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
หนึ่งในนั้นคือนายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ ที่ประกาศว่า แผนการขับผู้อพยพหรือพลเมืองออกไปจากประเทศ เปรียบได้กับการโจมตีประชาธิปไตยและประชาชนเยอรมนี และเรียกร้องให้ทุกคนร่วมมือกันปกป้องเยอรมนีที่เป็นประเทศประชาธิปไตย
ด้านประธานาธิบดีแฟรงก์-วอลเตอร์ สไตน์ไมเออร์ ปราศรัยผ่านวิดีโอว่า อนาคตประชาธิปไตยของเยอรมนีไม่ได้ขึ้นอยู่กับระดับการต่อต้าน แต่อยู่ที่ความแข็งแกร่งของผู้ที่ปกป้องประชาธิปไตย พร้อมยกย่องผู้ที่ออกไปประท้วงว่า กำลังปกป้องประเทศและรัฐธรรมนูญจากศัตรู
(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)
เมืองเบรเมน
เมืองมิวนิก
เมืองไลป์ซิก
———————————————————————————————————————————————————————————
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 23 มกราคม 2567
Link : https://mgronline.com/around/detail/9670000006502