เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 67 กลายเป็น ‘ศุกร์อาถรรพ์’ โดยไม่ได้นัดหมาย ทั้งที่เมืองหนานจิง ในมณฑลเจียงซู ของจีน และที่มหานครนิวยอร์ก ของสหรัฐอเมริกา เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้อะพาร์ตเมนต์สูงในย่านใจกลางเมือง ในวันเดียวกัน และยังเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมากทั้ง 2 แห่ง ซึ่งสาเหตุเพลิงไหม้ ทั้ง 2 เหตุการณ์ก็เหมือนกันอย่างเหลือเชื่อ ว่าเกิดจากแบตเตอรี่รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าระเบิด เผาวอดอะพาร์ตเมนต์ทั้งหลังในพริบตา
โดยเหตุการณ์แรก เกิดขึ้นในย่านหยูฮวาไถ ทางฝั่งตะวันออกของเมืองหนานจิง เมืองเอกของมณฑลเจียงซู ต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณอาคารจอดรถจักรยานยนต์ชั้น 1 ของอะพาร์ตเมนต์ 30 ชั้น ที่มีห้องพักรวมกันถึง 400 ยูนิต ได้เกิดเพลิงลุกไหม้ และลุกลามขึ้นไปยังตัวอาคารชั้นบนอย่างรวดเร็ว เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตในเหตุไฟไหม้ครั้งนี้มากถึง 15 ราย และบาดเจ็บอีก 44 ราย
หลังจากที่ทางการหนานจิงได้ระดมเจ้าหน้าที่ดับเพลิง และตำรวจเข้าสืบสวนหาสาเหตุ เชื่อว่าเกิดจากรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าคันหนึ่ง ที่จอดชาร์จไฟอยู่ภายในอาคารจอดรถ ซึ่งมักมีแท่นชาร์จไฟตั้งไว้ให้บริการสำหรับผู้ใช้รถยนต์ EV ภายในอาคาร แต่เมื่อเกิดแบตเตอรี่ระเบิด ประกอบกับพื้นที่บริเวณลานจอดรถมันเปิดโล่ง จึงทำให้ไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว และลามขึ้นไปชั้นบนของอาคารที่มีผู้พักอาศัยหนาแน่น จึงกลายเป็นเหตุเศร้าสลดดังข่าว
ข้ามฝั่งมาที่มหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาในวันเดียวกัน ก็เกิดเหตุเพลิงไหม้อะพาร์ตเมนต์ 6 ชััน 31 ยูนิต ในเขตฮาร์เลม ย่านแมนฮัตตัน ที่มีต้นเพลิงมาจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนของรถจักรยานไฟฟ้า ที่จอดชาร์จไฟที่ชั้น 3 ของอาคาร ระเบิดจนเกิดเพลิงไหม้วอดเกือบทั้งอาคารเช่นเดียวกัน และเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 17 ราย ส่วนผู้พักอาศัยรายอื่นต้องหนีตายโดยการโรยตัวด้วยเชือกออกมานอกอาคาร
‘อีริค อดัมส์’ นายกเทศมนตรีมหานครนิวยอร์ก ยอมรับว่า นี่เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เหตุไฟไหม้เกิดจากแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าระเบิด ซึ่งเคยเกิดมาแล้วหลายครั้งในนิวยอร์ก นับตั้งแต่หลังยุค Covid-19 เป็นต้นมา
โดยเมื่อปี 2023 ที่ผ่านมา ก็เพิ่งจะเกิดเหตุไฟไหม้จากแบตเตอรี่ไฟฟ้า เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 18 รายมาแล้ว ทำให้นายกเทศมนตรีอดัมส์ พยายามที่จะจัดระเบียบกฎหมายธุรกิจการให้บริการด้านการขนส่งอาหาร และสินค้าใหม่
เช่นเดียวกันกับที่ประเทศจีน พบว่ามีเหตุไฟไหม้ที่เกิดจากแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าตลอดทั้งปี 2023 ที่ผ่านมาทั่วประเทศถึง 21,000 เคส เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 17.4%
และจากสถิติอุบัติเหตุแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าระเบิดกว่า 80% มักเกิดขณะชาร์จไฟทิ้งไว้ และโดยเฉพาะการชาร์จแบตเตอรี่ทิ้งไว้ค้างคืนโดยไม่มีใครเฝ้า พอเกิดเหตุระเบิดไฟไหม้ จึงยากที่จะดับได้ทัน
ยิ่งไปกว่านั้น ในประเทศจีน ยังมีธุรกิจรับดัดแปลงรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ ให้วิ่งได้เร็วขึ้น หรือบรรทุกน้ำหนักได้มากขึ้น ซึ่งเป็นการใช้งานเกินศักยภาพเครื่องยนต์ และแบตเตอรี่ และยังเกินกว่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนด ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ และระเบิดได้เมื่อมีการชาร์จไฟนาน ๆ
อีกทั้งประเทศจีน ยังเป็นผู้ผลิตรถจักรยานไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลก ที่มีผู้ใช้ในประเทศเป็นจำนวนมาก โดยเฉลี่ย 1 ใน 4 ของชาวจีนมีรถจักรยานไฟฟ้าใช้ และความนิยมในการใช้รถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกก็ขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ ที่เป็นผลพวงจากการรณรงค์เรื่องการลดการใช้รถยนต์พลังงานฟอสซิลที่ปล่อยก๊าซคาร์บอน ที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน
จากเหตุการณ์เพลิงใหม่อะพาร์ตเมนต์ที่เกิดขึ้นในวันเดียวกัน ทั้งในจีนและสหรัฐอเมริกา จึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นภัยใกล้ตัวที่มาจากรถยนต์ไฟฟ้า ดังนั้น คงถึงเวลาแล้วที่ต้องมีมาตรการเรื่องการจัดระเบียบ การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าภายในอาคารที่เข้มงวดมากขึ้น และให้ข้อมูลการดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันการชาร์จผิด มีสิทธิ์ดับหมู่ยกตึก อย่างที่เกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งในต่างประเทศนั่นเอง
——————————————————————————————————————————————
ที่มา : The States Times / วันที่เผยแพร่ 26 ก.พ.67
Link : https://thestatestimes.com/post/2024022616