สงครามยูเครนดำเนินอย่างหฤโหดมาครบ 2 ปี ในวันเสาร์ที่ 24 ก.พ.2567 นับตั้งแต่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียส่งกำลังทหารทำสงครามอย่างเต็มรูปแบบในยูเครนมาตั้งแต่สองปีก่อน
ท่ามกลางความสูญเสียทั้งชีวิต และทรัพย์สินมากมายมหาศาลจากสงครามในยูเครนที่ผ่านมาสองปี ขณะที่ หน่วยข่าวกรองชาติตะวันตก ประเมินว่าทหารรัสเซียและยูเครนถูกสังหารและบาดเจ็บในสงครามแล้วหลายแสนนายนั้น ได้มีข่าวร้ายสำหรับชาวยูเครนไม่กี่วันที่ผ่านมา เมื่อต้องเสียเมืองอัฟดีฟกา(Avdivvka) เมืองสำคัญทางภาคตะวันออกให้แก่รัสเซีย ไปอีกเมือง
อัฟดีฟกา ‘แตก’ ทหารรัสเซียบุกยึดได้สำเร็จ
ชัยชนะของกองทัพรัสเซียที่สามารถยึดเมืองอัฟดีฟกา ซึ่งถือเป็นประตูทางผ่านสู่เมืองโดเนตสก์ได้สำเร็จเมื่อสัปดาห์ก่อน ถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ที่สุดครั้งแรกของปูตินและรัสเซียในช่วงเวลากว่า 9 เดือนที่ผ่านมา หลังจากรัสเซียสามารถยึดเมืองบักห์มุต ทางภาคตะวันออกของยูเครนได้ในเดือนพฤษภาคม 2566
โดยเมืองอัฟดีฟกา ตั้งอยู่ในภูมิภาคดอนบาส (ประกอบด้วยแคว้นโดเนตสก์และลูฮานสก์) ซึ่งเป็นเขตอุตสาหกรรม และอัฟดีฟกาอยู่ห่างจากเมืองโดเนตสก์ ไปทางเหนือเพียงแค่ 19 กิโลเมตรเท่านั้น
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ได้มีคำสั่งเปลี่ยนตัวผู้บัญชาการทหารสูงสุดคนใหม่ โดยได้ปลดพลเอกวาเลรี ซาลุชนี และแต่งตั้งพลเอกโอเลกซานเดอร์ ซีร์สกี ขึ้นมาเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดคนใหม่ของกองทัพยูเครนช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา และพลเอกซีร์สกีได้ออกคำสั่งให้ทหารยูเครนถอนกำลังออกจากเมืองอัฟดีฟกา เมื่อเช้าวันเสาร์ที่ 17 ก.พ. เพื่อไม่ให้ตกอยู่ในวงล้อมของทหารรัสเซียและถูกจับไปเป็นเชลยสงคราม
ด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซียยังได้เผยแพร่คลิปข่มขวัญชาวยูเครน ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ในรัสเซีย ที่แสดงให้เห็นสภาพเมืองอัฟดีฟกา ซึ่งเคยมีชาวยูเครนอาศัยอยู่ราว 32,000 คน พังพินาศย่อยยับ อาคารบ้านเรือนสิ่งปลูกสร้างพังเสียหายหมดการโจมตีอย่างหนักของกองทัพรัสเซีย ในขณะที่ชาวเมืองอัฟดีฟกาอพยพหนีภัยสงครามออกจากเมืองตั้งแต่ก่อนหน้าแล้ว
ยูเครนชี้ เสียเมืองอัฟดีฟกาเพราะขาดกระสุน
รัฐบาลและกองทัพยูเครนชี้ว่า ความพ่ายแพ้ของกองทัพยูเครนในการปกป้องรักษาเมืองอัฟดีฟกานั้น มีสาเหตุสำคัญมาจากการขาดกระสุน อาวุธยุทโธปกรณ์ในการต่อสู้กับกองทัพรัสเซีย
ด้วยเหตุนี้ การสูญเสียเมืองอัฟดีฟกาให้แก่รัสเซีย จึงเสมือนเป็นการ ‘ทิ้งระเบิดลูกใหญ่’ ต่อที่ประชุม Munich Security Conference (ที่ประชุมความมั่นคงมิวนิก) ซึ่งบรรดาผู้นำโลกได้มาร่วมประชุมในเรื่องความมั่นคงในประเทศเยอรมนี เมื่อ 16-18 ก.พ.ที่ผ่านมา
ดมิโทร คูเลบา รมว.ต่างประเทศยูเครน กล่าวต่อที่ประชุมความมั่นคงมิวนิกว่า ‘ยุคสันติภาพในยุโรปได้สิ้นสุด’แล้ว จากการเสียเมืองอัฟดีฟกาให้แก่รัสเซีย พร้อมกับชี้ว่า ทุกๆ ครั้งที่ทหารยูเครนต้องถอนกำลังออกจากเมือง และยอมเสียเมืองให้แก่ฝ่ายรัสเซียนั้น เป็นเพราะขาดกระสุน (โดยเฉพาะกระสุนปืนใหญ่)ที่จะใช้ในการต่อสู้
ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ได้ถือโอกาสนี้กดดันเรียกร้องให้ชาติตะวันตกส่งอาวุธมาให้แก่ยูเครนเพิ่มมากขึ้น
ยูเครนลำบาก รบ.สหรัฐฯ เจอขวางในสภา ‘ผ่านงบ’ ยากกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม สงครามในยูเครนที่ดำเนินมาถึงสองปี ทำให้ยูเครนกำลังเจอกับสถานการณ์ลำบากมากขึ้น เมื่อรัฐบาลสหรัฐฯเจอ สส.พรรครีพับลิกันขวางในสภาคัดค้านการอนุมัติร่างงบประมาณก้อนใหม่ที่จะให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครน
ขณะนี้ ชาวยูเครนจำนวนมากกำลังตำหนิสภาผู้แทนฯ สหรัฐฯ ที่ไม่ผ่านงบช่วยเหลือทางทหารอีก 6 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 2.16 ล้านล้านบาท คิดในอัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์ เท่ากับ 36 บาท) แก่ยูเครน ถึงแม้ได้ผ่านความเห็นชอบวุฒิสภาแล้ว
Tymofiy Mylovanov ผู้อำนวยการ Kyiv School of Economic ในกรุงเคียฟ ชี้ว่าในปี 2565 รัฐบาลโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ได้มอบเงินช่วยเหลือแก่ยูเครนที่ร้องขอมาแทบจะทันที หลังจากปูตินส่งกำลังทหารกว่าแสนนายบุกยูเครน แต่เมื่อถึงปี 2566 รัฐบาลสหรัฐฯได้รอจนถึงช่วงกลางฤดูใบไม้ร่วงจึงประกาศแผนจะส่งความช่วยเหลือทางทหารก้อนใหม่ให้แก่ยูเครน
‘การเสียเมืองอัฟดีฟกาเป็นราคาที่แสดงให้เห็นถึงความล่าช้าจากอุปสรรคทางการเมือง การสูญเสียชีวิต เสียดินแดน และทำให้รัสเซียฮึกเหิมได้กำลังใจในการทำสงคราม’ ผู้อำนวยการ Kyiv School of Economic แสดงความเห็น หลังกองทัพยูเครนสั่งถอนทหารออกจากเมืองอัฟดีฟกา เพราะต้านทานการโจมตีของฝ่ายรัสเซียไม่ไหว
เดนมาร์กประกาศมอบปืนใหญ่ที่มีอยู่ทั้งหมดช่วยยูเครน
อย่างไรก็ตาม การเสียเมืองอัฟดีฟกา ทำให้นายกรัฐมนตรีเมตเต เฟรเดอริกเซนแห่งเดนมาร์ก ประกาศทางแพลตฟอร์ม X หรือทวิตเตอร์เดิมว่ารัฐบาลเดนมาร์กจะมอบปืนใหญ่ทั้งหมดที่ยังมีอยู่ให้แก่ยูเครน และหวังว่าชาติอื่นๆจะยกระดับความช่วยเหลือแก่ยูเครนเช่นเดียวกัน
‘มียุทโธปกรณ์ทางทหารในยุโรป พวกเรามีอาวุธ เครื่องกระสุน ระบบป้องกันภัยทางอากาศ ที่พวกเรายังไม่ได้ใช้ ชาติเหล่านั้นควรมอบให้แก่ยูเครน’ นายกรัฐมนตรีเดนมาร์กโพสต์ข้อความเรียกร้องให้ชาติตะวันตกมอบอาวุธช่วยยูเครนมากขึ้นในการสู้รบกับรัสเซีย
ชาวยุโรปส่วนใหญ่เชื่อยูเครนจะแพ้สงคราม
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางสงครามในยูเครนที่ครบสองปีในวันที่ 24 ก.พ.2567 European Council on Foreign Relations (ECFR) หรือสภายุโรปด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ได้เผยแพร่ผลการสำรวจความเห็นของประชาชน ในยุโรปที่สนับสนุนยูเครนในการต่อสู้กับรัสเซีย พบว่ามีเพียง 10% เท่านั้นที่คิดว่ายูเครนสามารถชนะสงคราม
ECFR รายงานว่า การตอบแบบสำรวจกลับมาทางออนไลน์ จาก 17,023 คน ใน 12 ประเทศของสภาพยุโรป ช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา พบว่า มีเพียง 1 ใน 10 คนที่คิดว่ายูเครนสามารถชนะในสงครามกับรัสเซีย
บรรดานักวิจัยกล่าวว่า ผลการสำรวจที่ออกมาในแง่ลบเช่นนี้ ส่วนใหญ่เป็นเพราะมองถึงสถานการณ์ทางการเมืองในสหรัฐอเมริกา ซึ่งงบประมาณการให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครน ต้องเจอกับอุปสรรค ถูกขัดขวางในสภาคองเกรส รวมทั้งอดีตนายกรัฐมนตรีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังจะกลับมาลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯในปี 2024 และจะยกเลิกการให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครน
ที่มา: Aljazeera, politico.eu
บทความโดย อรัญญา ศรีจันทรนิตย์
——————————————————————————————————————————————
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 20 ก.พ.67
Link : https://www.thairath.co.th/money/tech_innovation/digital_transformation/2764800