สุดอุกอาจ! คนร้ายบุกเดี่ยวจ่อยิงทหารพรานหญิงดับกลางตลาดนัดดุซงญอ ไม่สนสายตาชาวบ้าน เสียงปืนดังวิ่งหนีตายอลหม่าน เผยเหยื่ออยู่ช่วงลาพัก ถือโอกาสขายของเพิ่มรายได้ แต่ต้องจบชีวิตอย่างน่าสลด ตำรวจยังไม่ฟันธงสาเหตุ แต่ตั้งข้อสังเกตน้องชายเพิ่งถูกสังหาร
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงตึงเครียด และมีเหตุรุนแรงที่พุ่งเป้ากระทำต่อเจ้าหน้าที่รัฐ หรือคนทำงานให้รัฐอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดเมื่อเวลา 17.30 น. วันพฤหัสบดีที่ 28 มี.ค.67 พ.ต.อ.นราวี บินแวอารง ผู้กำกับการ สภ.จะแนะ จ.นราธิวาส รับแจ้งจากกำนันตำบลดุซงญอ อ.จะแนะ ว่า เกิดเหตุผู้หญิงถูกยิงเสียชีวิต บริเวณตลาดนัดดุซงญอ หมู่ 1 ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ หลังรับแจ้งจึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบศพ อาสาสมัครทหารพรานหญิง (อส.ทพ.หญิง) นูรีซัน พรหมศรี อายุ 30 ปี สังกัดกรมทหารพรานที่ 49 สภาพศพถูกกระสุนปืนของคนร้ายที่ศีรษะ 1 นัด เสียชีวิตคาที่ และในที่เกิดเหตุก็พบปลอกกระสุนปืนพกขนาด 9 มม. ตกอยู่บริเวณทางเดินในตลาด ห่างจากศพประมาณ 2 เมตร เจ้าหน้าที่จึงเก็บปลอกกระสุนไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำศพผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลจะแนะ เพื่อให้แพทย์ชันสูตร และมอบให้ญาติรับไปประกอบพิธีทางศาสนา
จากการสอบสวนทราบว่า อส.ทพ.หญิงนูรีซัน สังกัดกรมทหารพรานที่ 49 อยู่ระหว่างลาพัก ได้ถือโอกาสนำสินค้าประเภทอาหารไปจำหน่ายที่ตลาดนัดดุซงญอ โดยระหว่างที่กำลังเดินขายอาหารอยู่นั้น ได้มีคนร้าย 1 คน เดินแฝงตัวปะปนกับชาวบ้าน เมื่อสบโอกาสคนร้ายได้เดินเข้าประชิด พร้อมใช้อาวุธปืนพกขนาด 9 มม. จ่อยิงที่ศีรษะของ อส.ทพ.หญิง นูรีซัน 1 นัด ทำให้เธอล้มทั้งยืน เสียชีวิตคาที่ เสียงปืนและเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นทำให้ประชาชนที่เดินจับจ่ายซื้อของในตลาดพากันแตกฮือ วิ่งหนีกันอย่างชุลมุน ขณะที่คนร้ายได้พรางตัวเดินออกจากที่เกิดเหตุหนีหายไปอย่างลอยนวล
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร โดยตั้งไว้ 2 ประเด็น คือ ปัญหาขัดแย้งส่วนตัว แต่ไม่ตัดทิ้งประเด็นความมั่นคง เนื่องจากก่อนหน้านี้ประมาณปลายปี 66 น้องชายของ อส.ทพ.หญิงนูรีซัน ถูกกลุ่มคนร้ายลอบยิงเสียชีวิตมาแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทยอยเชิญตัวผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ รวมทั้งเครือญาติของผู้เสียชีวิตมาให้ปากคำ เพื่อหาสาเหตุการสังหาร นำไปสู่การติดตามตัวคนร้ายมาดำนินคดีต่อไป
———————————————————————————————————————————————————————————
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 28 มี.ค. 2567
Link : https://www.thairath.co.th/news/society/2774245