รัฐฟลอริดาของสหรัฐ จะมีกฎหมายห้ามเยาวชนจากการใช้สื่อสังคมออนไลน์ ฉบับเข้มงวดที่สุดของประเทศ หลังนายรอน เดอซานทิส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา ลงนามรับรองกฎหมายดังกล่าว ซึ่งคาดว่าต้องเผชิญกับความท้าทายในชั้นศาลอย่างแน่นอน
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากเมืองแทลลาแฮสซี รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 26 มี.ค. ว่า กฎหมายดังกล่าว ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค. 2568 จะแบนบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ของเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 14 ปี ส่วนเยาวชนที่มีอายุ 14-15 ปี ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ปกครอง ก่อนใช้งานแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ
“เด็กในวัยที่มีพัฒนาการทางสมอง ไม่มีความสามารถในการรู้ว่า พวกเขากำลังถูกดึงเข้าสู่เทคโนโลยีที่ทำให้เสพติดเหล่านี้ รวมถึงเห็นอันตราย และถอยห่างจากมัน ด้วยเหตุนี้ เราจึงต้องก้าวเข้ามาเพื่อช่วยเหลือพวกเขา” นายพอล เรนเนอร์ ประธานสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรัฐฟลอริดา กล่าวในพิธีลงนามรับรองกฎหมาย ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในเมืองแจ็กสันวิลล์
9NEWS
แม้เดอซานทิส เคยคัดค้านร่างกฎหมายห้ามผู้มีอายุต่ำกว่า 16 ปี จากการใช้แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ยอดนิยม โดยไม่คำนึงถึงความยินยอมจากผู้ปกครอง แต่ก่อนหน้านั้น เขาพยายามใช้ภาษาที่ประนีประนอมกับเรนเนอร์ เพื่อบรรเทาความกังวล และสภานิติบัญญัติของรัฐฟลอริดา ได้ส่งกฎหมายฉบับแก้ไข ซึ่งเป็นฉบับที่สอง ให้แก่เดอซานทิสในเวลาต่อมา
ด้านกลุ่มผู้สนับสนุนในรัฐฟลอริดา หวังว่ากฎหมายใหม่นี้จะต้านทานความท้าทายทางกฎหมายต่าง ๆ เนื่องจากมันจะแบนรูปแบบสื่อสังคมออนไลน์ โดยอ้างอิงจากฟีเจอร์ที่น่าดึงดูด เช่น การแจ้งเตือน และคลิปวิดีโอที่เล่นโดยอัตโนมัติ มากกว่าการอ้างอิงจากเนื้อหาบนแพลตฟอร์มเหล่านั้น
ขณะที่ นางคารา โบเอนเดอร์ ผู้อำนวยการนโยบายของรัฐ จากสมาคมอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร (ซีซีไอเอ) กล่าวว่า เธอเข้าใจถึงข้อกังวลด้านความปลอดภัยทางออนไลน์ แต่ตั้งข้อสงสัยว่ากฎหมายฉบับนี้ จะบรรลุเป้าหมายเหล่านั้นอย่างมีความหมาย โดยไม่ละเมิดการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญสหรัฐครั้งที่ 1 เกี่ยวกับผู้ใช้งานที่เป็นเยาวชนหรือไม่ เนื่องจากกฎหมายดังกล่าว อาจสร้างอุปสรรคสำคัญสำหรับคนหนุ่มสาว ที่ต้องการเข้าถึงข้อมูลออนไลน์ ซึ่งเป็นสิทธิที่ชาวอเมริกันทุกคนได้รับ โดยไม่คำนึงถึงอายุ
เครดิตภาพ : AFP
———————————————————————————————————————————————————————————
ที่มา : เดลินิวส์ออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 26 มี.ค. 2567
Link : https://www.dailynews.co.th/news/3291039/