นานาชาติแห่ประณามเหตุคนร้ายบุกกราดยิงในโครคุสซิตี้ฮอลล์ กรุงมอสโก รัสเซีย ก่อนนักร้องวงดัง “ปิกนิก” ขึ้นเวทีที่มีผู้ชมแน่นฮอลล์ ส่งผลมีคนตายอย่างน้อย 143 ศพ บาดเจ็บหลายร้อยคน ด้านกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ISIS) โพสต์ผ่านสื่อเคลมผลงานทันควัน แต่ฝ่ายรัสเซียไม่ปักใจเชื่อ อ้างน่าจะเป็นฝีมือยูเครนหรืออาจมีชาติตะวันตกหนุนหลัง โดยทางการจับผู้ต้องสงสัยได้แล้ว 11 คน ไม่ไกลจากชายแดนยูเครน พบถือพาสปอร์ตทาจิกิสถาน คาดเป็นผู้ก่อเหตุกราดยิง 4 คน ขณะที่บางส่วนถูกรวบขณะหลบหนีเข้าป่า
เหตุกราดยิงในงานคอนเสิร์ตช็อกโลกในครั้งนี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 มี.ค. สำนักข่าวทาส และอาร์ทีของรัสเซียรายงานว่า เกิดเหตุกลุ่มชายฉกรรจ์พกพาอาวุธปืนยาวไรเฟิลเปิดฉากกราดยิงใส่ฝูงชนในโครคุสซิตี้ฮอลล์ สถานที่จัดแสดงคอนเสิร์ตที่สามารถจุผู้เข้าชมได้ราว 6,200 คน ในเขตคราสโนโกร์สก์ ชานกรุงมอสโกของรัสเซีย เมื่อวันที่ 22 มี.ค. เวลาประมาณ 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลาประมาณเที่ยงคืน ตามเวลาประเทศไทย ไม่นานก่อนที่วงดนตรีร็อก “ปิกนิก” ที่มีผู้ชม ซื้อบัตรคอนเสิร์ตเต็มจำนวนเตรียมขึ้นเวทีแสดงในวันเดียวกัน เหตุดังกล่าวส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 143 ศพ ในจำนวนนี้เป็นเด็กอย่างน้อย 5 ศพ มีอายุตั้งแต่ 7-12 ปี และคาดว่าอาจมีจำนวนเพิ่มขึ้น ขณะที่มีผู้บาดเจ็บมากกว่า 140 ราย ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 60 ราย ด้านสื่ออาร์ทีรายงานด้วยว่า มีชาวรัสเซียหลายร้อยคนเข้าแถวด้านนอกโรงพยาบาลมอสโกตั้งแต่เช้า เพื่อบริจาคโลหิตให้กับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการก่อการร้ายดังกล่าว
ด้านพยานในที่เกิดเหตุเปิดเผยว่า เห็นคนร้ายแต่งกายด้วยชุดทางยุทธวิธี สวมกางเกงแบบแท็กทิเคิล ดูคล้ายกับชุดปฏิบัติการพิเศษราว 5 คน บุกโจมตีในโครคุสซิตี้ฮอลล์ ขณะที่สื่ออาร์ทีเผยภาพวิดีโอบันทึกเหตุการณ์ภายในฮอลล์ที่มีผู้คนนั่งรอชมการแสดง มีเสียงตะโกนขึ้นว่า “ปิดประตู” ก่อนคนร้ายจะสาดกระสุนหลายนัด ผู้คนกรีดร้องวิ่งหนีตายออกจากสถานที่ดังกล่าว นอกจากนี้ พยานในที่เกิดเหตุระบุว่า ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นอย่างน้อย 1 ครั้ง คาดว่าอาจเป็นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้รุนแรงในโครคุสซิตี้ฮอลล์ ไฟลุกท่วมพื้นที่ 1 ใน 3 ของอาคาร และมีกลุ่มควันสีดำหนาลอยปกคลุมส่งกลิ่นไหม้ไปทั่วบริเวณใกล้เคียง รวมถึงความรุนแรงของการลุกไหม้ยังทำให้หลังคาบางส่วนของอาคารพังถล่มลงมา
หลังเกิดเหตุไม่นาน สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นของสหรัฐอเมริการายงานว่า กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ISIS) แถลงผ่านแพลตฟอร์มเทเลแกรมว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุกราดยิงในครั้งนี้ ขณะที่ทำเนียบขาวสหรัฐฯ ประณามเหตุครั้งนี้ว่าเป็นเหตุการณ์อันเลวร้าย รวมถึงจะตรวจสอบต่อไปว่ายูเครนมีส่วนเกี่ยวข้องในการโจมตีครั้งนี้หรือไม่ อีกทั้งสหรัฐฯ ไม่ค้านการอ้างความรับผิดชอบของกลุ่มไอเอส เนื่องจากก่อนหน้านี้ สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงมอสโก เคยเตือนเมื่อวันที่ 7 มี.ค. ว่าอาจเกิดการก่อการร้ายในกรุงมอสโก พร้อมประกาศเตือนให้ชาว อเมริกันในกรุงมอสโกหลีกเลี่ยงเดินทางไปพื้นที่แออัด รวมถึงการเข้าร่วมคอนเสิร์ต เช่นเดียวกับรัฐบาลอังกฤษที่เคยประกาศเตือนในกรณีเดียวกัน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลรัสเซียยังไม่ฟันธงว่าใครเป็นฝ่ายลงมือก่อเหตุที่โครคุส แต่สื่อรัสเซียตั้งข้อสังเกตว่า ไม่ใช่รูปแบบการโจมตีของกลุ่มไอเอส เป็นไปได้หรือไม่ว่าอาจเป็นกลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลตะวันตก เนื่องจากสถานเอกอัครราชทูตทั้ง 2 ชาติตะวันตก เป็นฝ่ายเตือนประชาชนโดยตรง
ต่อมานายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลเครมลิน เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้รับแจ้งเหตุทันทีหลังเกิดเหตุ และมีคำสั่งใช้มาตรการที่จำเป็น รวมถึงหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือ ทั้งนี้ นายปูตินยังขอให้ผู้เคราะห์ร้ายปลอดภัยในเร็ววัน พร้อมชื่นชมเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานรับมือเหตุฉุกเฉินดังกล่าว ด้านกระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินเผยว่า ได้ระดมทีมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงราว 477 คน และ 183 หน่วย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ 192 คน และ 79 หน่วยจากกระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินเข้าระงับเหตุในโครคุส กระทั่งเวลาประมาณ 01.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้เรียบร้อย และเข้าช่วยเหลือเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายไว้ได้
จากนั้นตลอดวันมีบุคคลสำคัญและผู้นำนานาประเทศต่างออกมาแสดงความเสียใจและประณามการก่อการร้ายที่เกิดขึ้น อาทิ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน แถลงแสดงความเสียใจอย่างยิ่งและย้ำว่ารัฐบาลจีนต่อต้านการก่อการร้ายทุกรูปแบบ พร้อมประณามเหตุดังกล่าวอย่างรุนแรง เช่นเดียวกับนายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย และนายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (UN) ร่วมประณามการก่อการร้ายในกรุงมอสโก
ส่วนนายมิคาอิโล โปโดลยัค ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครน ปฏิเสธว่า ยูเครนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุโจมตีหอประชุมโครคุส และยูเครนไม่มีทางใช้แนวทางแบบการก่อการร้าย ทุกการกระทำของยูเครนท่ามกลางสงครามยูเครน-รัสเซียจะถูกนำมาใช้แค่ในสนามรบเท่านั้น ส่วนนายดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย เผยว่า หากผู้นำยูเครนมีส่วนเกี่ยวข้องยูเครนจะต้องถูกบดขยี้
วันเดียวกัน คณะกรรมการสอบสวนของรัสเซียแถลงว่า ได้จับกุมผู้ต้องสงสัยก่อเหตุในโครคุส 4 คน ในเขตไบรอันสก์ ไม่ไกลจากชายแดนยูเครน หลังจากก่อนหน้านี้สำนักข่าวท้องถิ่นของรัสเซียรายงานว่าหน่วยความมั่นคงกลางของรัสเซียได้จับกุมผู้ต้องสงสัย 11 คน เป็นผู้ก่อการร้ายที่โครคุส 4 คน ส่วนนายอเล็กซานเดอร์ คินชไตน์ สส.รัสเซีย อ้างว่า ผู้ต้องสงสัยหลบหนีด้วยรถยนต์ ก่อนถูกควบคุมตัวได้แล้ว 2 คน ในเขตไบรอันสก์ ทางตะวันตกของกรุงมอสโก หลังเจ้าหน้าที่ขับรถไล่ล่า ส่วนผู้ต้องสงสัยคนอื่นๆ หลบหนีเข้าไปในป่าด้วยการเดินเท้าก่อนถูกควบคุมตัวไว้ได้ พร้อมเผยว่า จากการตรวจค้นรถยนต์ที่ใช้หลบหนี พบอาวุธปืน กระสุนและพาสปอร์ตทาจิกิสถาน ซึ่งประเทศดังกล่าวมีประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม
ด้านสำนักข่าวการ์เดียนของอังกฤษตั้งข้อสังเกตว่า การจับกุมผู้ต้องสงสัยครั้งนี้เหมือนเป็นการส่งสัญญาณว่า รัฐบาลรัสเซียอาจกล่าวหาว่าการโจมตีในโครคุสเป็นฝีมือของฝ่ายยูเครน เนื่องจากหน่วยงานความมั่นคงกลางของรัสเซียแถลงว่า เจ้าหน้าที่ได้จับกุมกลุ่มชายติดอาวุธขณะกำลังหลบหนีผ่านการข้ามชายแดนเข้าสู่ยูเครน พร้อมระบุว่ากลุ่มดังกล่าวยังมีการติดต่อกับยูเครนเช่นกัน
สำหรับอาคารโครคุสซิตี้ฮอลล์ ตั้งอยู่ในเขตคราสโนกอร์สก์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงมอสโก เป็นสถานที่ตั้งของสิ่งอำนวยความสะดวกด้านกีฬาและสันทนาการ รวมถึงเป็นสถานที่จัดคอนเสิร์ต เหตุกราดยิงในโครคุสยังถือเป็นการก่อเหตุอุกอาจรุนแรงที่สุดในรัสเซีย นับแต่เหตุการณ์สังหารหมู่ที่โรงเรียน ในเมืองเบสลาน เมื่อปี 2547
ต่อมาเมื่อช่วงสายวันเดียวกัน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ได้กล่าวที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง ถึงเหตุการณ์การก่อการร้ายที่กรุงมอสโก ประเทศรัสเซียว่า ได้รับรายงานในเบื้องต้น ไม่มีคนไทยได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุรุนแรงในครั้งนี้
จากนั้นในช่วงบ่ายวันเดียวกัน นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย แถลงว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุในโครคุสจะต้องถูกลงโทษทั้งหมด พร้อมระบุว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุพยายามหลบหนีเข้าไปในยูเครน โดยจากข้อมูลในเบื้องต้นเผยว่า มีคนจากยูเครนบางส่วนเตรียมให้ความช่วยเหลือในการข้ามแดน นายปูตินยังเรียกว่า ผู้ก่อการร้ายกลุ่มนี้เป็นศัตรูของชาติ และพร้อมหารือกับชาติพันธมิตรที่ต้องการทำลายศัตรูรายนี้ ขณะเดียวกันยังกำหนดวันที่ 24 มี.ค. เป็นวันไว้อาลัยต่อผู้วายชนม์ ส่วนสำนักข่าวอาร์ทีของรัสเซียยังเผยแพร่วิดีโอ 1 ในผู้ต้องสงสัยก่อเหตุร้ายในโครคุสที่ถูกจับกุมได้ เผยให้เห็นชายวัยกลางคนมีหนวดเครา นอนคว่ำหน้าลงกับพื้นกำลังพูดตอบโต้กับเจ้าหน้าที่ด้วยภาษารัสเซียสำเนียงแปร่งๆว่า ตัวเองอยู่ที่ตุรกีก่อนเกิดเหตุ เมื่อถูกถามว่าไปทำอะไรที่โครคุส ชายคนดังกล่าวตอบว่า ยิงผู้คนในสถานที่นั้น และลงมือก่อเหตุเพราะเงิน โดยได้รับการว่าจ้างผ่านเทเลแกรม ผู้ว่าจ้างระบุว่า จะโอนเงินให้เป็นจำนวน 500,000 รูเบิล หรือราว 196,511 บาท โดยไม่ได้รู้จักกับผู้ว่าจ้างเป็นการส่วนตัว
————————————————————————————————————-
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 24 มี.ค.67
Link : https://www.thairath.co.th/news/foreign/2772970