เอเจนซีส์ – เกิดเหตุไม่คาดฝันเช้ามืดวันเสาร์ (9 มี.ค.) เมื่อมีรถลึกลับคันหนึ่งพุ่งชนประตูทางเข้าพระราชวังบักกิงแฮม ตำรวจสกอตแลนด์ยาร์ดยกปืนจ่อประกาศ “ยกมือขึ้นเหนือหัว” โชคดีไม่มีสมาชิกราชวงศ์ประทับด้านในช่วงเกิดเหตุ ด้านเอิร์ล สเปนเซอร์ (Earl Charles Spencer) พระอนุชาเจ้าหญิงไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ เปิดเผยชีวิตช็อกโลก เคยถูกล่วงละเมิดทางเพศมาตั้งแต่เด็กแค่ 11 ปี ในโรงเรียนประจำชื่อดัง กระทบต่อจิตใจทั้งชีวิต
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กโพสต์ของสหรัฐฯ รายงานวันนี้ (10 มี.ค.) ว่า คนขับรถโดนจับทันทีในที่เกิดเหตุหลังเขาขับชนประตูทางเข้าหลักของพระราชวังบักกิงแฮมเช้ามืดวันเสาร์ (9)
ภาพจากคลิปสุดระทึกหัวใจตำรวจกรุงลอนดอนมีภาพชักปืนขึ้นพร้อมตะโกนสั่งคนร้ายเสียงดังลั่น “ยกมือเหนือศีรษะ” อ้างอิงจากเมโทรของอังกฤษและนิวยอร์กโพสต์ที่อ้างที่มาคลิปจาก SWNS
พยานในเหตุการณ์เปิดเผยได้ยินเสียงชนดังมากหลังรถเกิดขับพุ่งชนไปที่ประตูทางเข้าพระราชวังบักกิงแฮมกลางกรุงลอนดอน
และเสริมต่อว่า “พวกตำรวจไปถึงที่เกิดเหตุเร็วมาก เขาบังคับให้คนขับออกไปจากตัวรถก่อนจับกุม”
หนังสือพิมพ์สหรัฐฯ รายงานว่า ทั้งนี้ ตำรวจนครบาลอังกฤษ MET กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า
“เจ้าหน้าที่หน่วยติดอาวุธจับกุมชายคนดังกล่าวได้ในที่เกิดเหตุในข้อหาสร้างความเสียหายต่อสาธารณะ เขาถูกส่งไปโรงพยาบาลหลังจากนั้น ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ”
แถลงการณ์เสริมต่อว่า เวลานี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังสอบปากคำเพื่อหาแรงจูงใจคนร้าย
เมโทรรายงานว่า MET กล่าวผ่านแถลงการณ์ต่อว่า เมื่อเวลาราว 02.33 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันเสาร์ที่ 9 มี.ค. รถเฉี่ยวชนประตูรั้วพระราชวังบักกิงแฮม
เกิดขึ้นท่ามกลางปัญหาพระพลานามัยของสมาชิกราชวงศ์อังกฤษตั้งแต่พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ที่ทรงเข้ารับการถวายผ่าตัด และต่อมามีการถวายคำวินิจฉัยถึงการประชวรโรคมะเร็งและเจ้าหญิงแคทเธอรีนทรงยังไม่สามารถกลับมาทรงงานได้หลังการรับถวายผ่าตัดช่องท้อง
และเมื่อต้นเดือนมีนาคมนี้เดลีเมลของอังกฤษเคยรายงานว่า ควีนคามิลลาที่ทรงต้องแบกรับพระราชกรณียกิจไว้จากพระราชสวามี พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ได้ทรงหยุดประกอบพระราชกรณียกิจนาน 1 สัปดาห์สำหรับการพักผ่อนเป็นการส่วนพระองค์
แต่ทว่าที่ต้องตกตะลึงเมื่อเอิร์ล ชาร์ลส์ สเปนเซอร์ (Earl Charles Spencer) พระอนุชาเจ้าหญิงไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ เปิดเผยเรื่องราวช็อกโลกถึงด้านมืดของชนชั้นสูงแดนผู้ดี โดยกล่าวอ้างว่าตัวเองเคยถูกล่วงละเมิดทางเพศมาตั้งแต่เด็กอายุแค่ 11 ปี ในโรงเรียนประจำชื่อดัง กระทบต่อจิตใจทั้งชีวิต สกายนิวส์ของอังกฤษรายงานวันอาทิตย์ (10)
ในตัวอย่างของหนังสือบันทึกความทรงจำ “A Very Private School” ที่มีกำหนดวางแผงในสัปดาห์หน้า พระอนุชาเจ้าหญิงไดอานาปัจจุบันอยู่ในวัย 59 ปี ได้เปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาว่า ตัวเขาถูกเจ้าหน้าที่หญิงของโรงเรียนประจำที่มีชื่อเสียงล่วงละเมิดทางเพศครั้งแรกสุดในขณะที่มีอายุได้ 11 ปี และยังถูกทำร้ายด้วยการเฆี่ยนตีและขัง
ทั้งนี้ พบว่าเอิร์ล สเปนเซอร์ ศึกษาอยู่ที่โรงเรียน Maidwell Hall ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำของกลุ่มชนชั้นสูงในอังกฤษเป็นเวลานาน 5 ปีก่อนที่เขาจะเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนอีตันหลังจากนั้น
เดลีเมลของอังกฤษชี้ว่า ในหนังสือเปิดเผยว่า ความทรมานจากโรงเรียนแห่งนี้ส่งผลทำให้พระอนุชาเจ้าหญิงไดอานาจงใจทำให้ตัวเองต้องล้มป่วย ซึ่งกลายเป็นเรื่องที่น่าตกตะลึงเพราะพระเชษฐภคินี เจ้าหญิงไดอานาเองในเวลาต่อมาประชวรเช่นกันด้วยโรคโรคบูลิเมีย หรือโรคล้วงคอ (Bulimia Nervosa) คือพฤติกรรมการที่กินผิดปกติ โดยที่ผู้ที่เป็นโรคบูลิเมียจะมีอาการกินไม่หยุด (รับประทานอาหารในปริมาณมากในช่วงเวลาหนึ่ง) แล้วพยายามกำจัดอาหารออกด้วยวิธีต่างๆ เช่น ล้วงคอ มีทั้งอาการทางกาย พฤติกรรม
สกายนิวส์รายงานว่า เอิร์ลอ้างว่า เขาถูกผู้ช่วยผู้ดูแลหอของโรงเรียนที่เป็นสตรีละเมิดทางเพศ และเล่าว่าไม่ใช่แค่เขาเพียงคนเดียวแต่ยังเกิดขึ้นกับนักเรียนชายคนอื่นๆ และส่งผลทำให้เขาทำร้ายตัวเองด้วยคิดไปว่าเจ้าหน้าที่หญิงคนนี้อาจต้องลาออกจากโรงเรียนไป
“ดูเหมือนจะเป็นการจัดลำดับอย่างไม่เป็นทางการในกลุ่มเหยื่อของเธอ…เธอเลือกเหยื่อเด็กผู้ชายมา 1 คนในแต่ละเทอมให้มานอนร่วมเตียงเดียวกับเจ้าหน้าที่และใช้เขาเพื่อการมีเพศสัมพันธ์”
สกายนิวส์รายงานว่า ตามหนังสือเอิร์ลสเปนเซอร์อ้างว่า เจ้าหน้าที่หญิงควบคุมเหยื่อเด็กผู้ชายโดยสิ้นเชิงโดยใช้ประโยชน์จากความไร้เดียงสาและความต้องการทางเพศตามประสาวัยแรกรุ่นแตกหนุ่มของเด็กเหล่านั้น โดยภายในหนังสือเขายังสารภาพว่า ตัวเองสูญเสียพรหมจรรย์วัยหนุ่มเมื่ออายุ 12 ปีให้กับหญิงค้าประเวณีชาวอิตาลีไป
เขาอ้างว่าไม่มีประสบการณ์ใดที่น่ายินดีระหว่างการอยู่ที่โรงเรียนประจำชื่อดังแห่งนี้ “มีพวกเราเป็นจำนวนมากสำเร็จการศึกษาออกไปพร้อมกับปิศาจที่ก่อกำเนิดขึ้นในร่างกาย”
เดลีเมลชี้ว่า เอิร์ลสเปนเซอร์เข้าศึกษาที่ Maidwell Hall เมื่อปี 1972 โดยโรงเรียนประจำชื่อดังแห่งนี้รับแต่เฉพาะกุลบุตรหรือเด็กชายที่เป็นลูกหลานของเหล่าชั้นสูงมีฐานะมาจนกระทั่งปี 2010 ส่วนค่าเล่าเรียนนั้นสูงถึง £31,700 ต่อปีทีเดียว ภายในหนังสือเขาอ้างว่า โรงเรียนมีกฎสั่งให้นักเรียนต้องเรียกขานเจ้าหน้าที่หญิงของโรงเรียนว่า “ได้โปรด (please)” แทนที่จะเรียกว่า “คุณ (Miss)” ตามปกติ เอิร์ลกล่าวว่าในความรู้สึกของเขาคิดว่ามันเป็นสิ่งที่แปลกประหลาดเอามาก ๆ
————————————————————————————————————————————-
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 10 มี.ค.67
Link : https://mgronline.com/around/detail/9670000021498