เมื่อวันที่ 14 มีนาคม นายวิมุติ วสะหลาย ฝ่ายวิชาการสมาคมดาราศาสตร์ไทย เขียนบทความ เรื่อง เมื่อรัสเซียต้องพกปืนขึ้นไปอวกาศ โดยให้ มติชนออนไลน์ นำมาเผยแพร่ได้ ซึ่งมีเนื้อหาต่อไปนี้
สถานีอวกาศนานาชาติ เป็นโครงการนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยสร้าง เกิดจากความร่วมมือของมหาอำนาจทางอวกาศอย่างองค์การนาซาจากสหรัฐอเมริกา รอสคอสมอสจากรัสเซีย อีซาจากยุโรป และประเทศอื่น เป็นสถานที่ที่สร้างขึ้นเพื่องานวิจัยทางวิทยาศาสตร์โดยปราศจากความขัดแย้งทางการเมือง บนสถานีอวกาศนานาชาติจึงถือว่าเป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งที่คู่แค้นมหาอำนาจโลกอย่างสหรัฐอเมริกาและรัสเซียจะยังคงมีไมตรีต่อกัน ไม่ว่าสถานการณ์บนโลกจะตึงเครียดสักเพียงใด แต่บนสถานีอวกาศมนุษย์อวกาศทุกชาติล้วนอยู่และทำงานร่วมกันอย่างสันติ
แต่ทราบหรือไม่ มนุษย์อวกาศรัสเซียเขาพกปืนขึ้นไปด้วยนะ
อย่าเพิ่งตกใจ เขาไม่ได้เอาไปดวลปืนกับพวกอเมริกัน
เขาเอาไว้ยิงสัตว์
เรื่องนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานมาตั้งแต่สมัยที่ยุคอวกาศเริ่มต้นขึ้น ยานอวกาศที่มีมนุษย์ของฝ่ายโซเวียตไม่ว่าจะเป็นรุ่นบุกเบิกอย่างวอสตอก วอสฮอด และโซยุซ ล้วนเป็นมอดูลที่ออกแบบให้กลับสู่โลกแบบลงจอดบนแผ่นดิน โดยมีร่มชูชีพคอยพยุงจนถึงพื้น
อะเลคเซย์ เลโอนอฟ มนุษย์คนแรกที่ออกปฏิบัติการนอกยานอวกาศ
การลงจอดในลักษณะนี้มีโอกาสที่จะลงจอดพลาดเป้าไปได้ไกล หากยานไปจอดในสถานที่กันดารหรือในป่า ลูกเรือจำเป็นต้องมีอาวุธไว้ป้องกันตัวจากสัตว์ร้ายระหว่างที่รอทีมช่วยเหลือภาคพื้นดินตามไปถึง
ส่วนทางฝ่ายอเมริกันไม่เคยต้องพกปืน เนื่องจากยานของนาซาไม่มีโอกาสเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ยานประเภทมอดูลของนาซานิยมให้ลงจอดในทะเลแล้วส่งเรือไปเก็บกู้
ส่วนกระสวยอวกาศของนาซาก็กลับสู่โลกแบบเครื่องร่อนซึ่งควบคุมจุดลงจอดได้แม่นยำ การพกปืนจึงไม่จำเป็น
ในปี 2508 สหภาพโซเวียตส่งยานวอสฮอด 2 ขึ้นสู่อวกาศโดยมีลูกเรือสองคน ได้แก่ อะเลคเซย์ เลโอนอฟและ ปาเวล เบลยาเยฟ ภารกิจนี้มีความสำคัญยิ่ง
เพราะเป็นภารกิจทดสอบการออกย่ำอวกาศ เป็นครั้งแรกที่จะมีมนุษย์ออกไปนอกยานในอวกาศซึ่งเป็นภารกิจที่เสี่ยงอย่างมาก
แล้วโซเวียตก็ทำสำเร็จ เลโอนอฟ อยู่นอกยานเป็นเวลาถึง 12 นาที
ได้รับการจารึกไว้ว่าเป็นมนุษย์คนแรกที่ออกย่ำอวกาศได้ เป็นชัยชนะอีกครั้งหนึ่งของฝ่ายโซเวียตในสงครามอวกาศ
หลังจากภารกิจเสร็จสิ้น ยานก็เดินทางกลับโลก แต่การกลับโลกของวอสฮอด 2 เกิดความผิดพลาดบางอย่าง
ทำให้จุดลงจอดของยานเลยจากจุดที่กำหนดไว้
แทนที่ยานจะลงจอดบนที่ราบกว้างใหญ่ กลับไปจอดในป่าทึบของเทือกเขาอูรัลที่ไกลจากจุดที่กำหนดไว้เกือบสี่ร้อยกิโลเมตร
แม้ยานลงจอดบนพื้นได้อย่างปลอดภัย และมนุษย์อวกาศทั้งสองก็เปิดยานออกมาเองได้
แต่ก็ต้องรอเป็นเวลาถึงสองคืนกว่าทีมช่วยเหลือจะไปถึง
ปืนรุ่นทีพี-82 (TP-82) ที่ประจำอยู่ในชุดอุปกรณ์ฉุกเฉินของภารกิจอวกาศของโซเวียตและรัสเซีย ปืนกระบอกนี้แสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ปืนใหญ่ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (จาก Wikimedia Commons)
ทั้งสองต้องพยายามเอาตัวรอดภายในป่าที่หนาวเหน็บและมีสัตว์ร้ายอย่างหมาป่ากับหมีสีน้ำตาลเดินเพ่นพ่าน
หลังจากที่มนุษย์อวกาศทั้งสองได้รับความช่วยเหลือและกลับบ้านเยี่ยงวีรบุรุษแล้ว เลโอนอฟได้ให้ความเห็นต่อรอสคอสมอสว่า ปืนพก 9 มม. ที่ให้พกไปคงจะช่วยอะไรไม่ได้หากในวันนั้นต้องเจอสัตว์ใหญ่อย่างหมีเข้า จำเป็นต้องมีปืนที่มีอานุภาพรุนแรงขึ้นเพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวที่อาจเกิดขึ้นอีกในอนาคต
คำแนะนำของเลโอนอฟเป็นผล รอสคอสมอสเลือกใช้ปืนทีพี-82 ที่ออกแบบมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ เป็นปืนหักลำสามลำกล้อง ยิงได้ทั้งลูกปืนไรเฟิล ลูกปราย และพลุแฟลร์ ติดพานท้ายที่เมื่อถอดออกก็ใช้งานเป็นมีดอีโต้ได้
รูปลักษณ์ภายนอกมีความเป็นโซเวียตตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่เป็นปืนที่มีประสิทธิภาพดีเยี่ยม
มนุษย์อวกาศอเมริกันที่ต้องเดินทางไปอวกาศด้วยยานโซยุซก็ต้องเคยฝึกใช้งานปืนรุ่นนี้ ซึ่งหลายคนก็กล่าวว่าเป็นปืนที่มีความสมดุลและแม่นยำดีมาก
โชคดีที่นับจากเหตุการณ์ของวอสฮอด 2 จนถึงปัจจุบัน ก็ไม่มีเหตุที่ทำให้มนุษย์อวกาศต้องควักปืนออกมาป้องกันตัวและล่าสัตว์อีกเลย
ปืนทีพี-82 ได้เป็นรายการประจำในชุดอุปกรณ์ฉุกเฉินของยานมาตลอด ผ่านมาจนถึงยุคหลังโซเวียตก็ยังคงใช้อยู่ จนกระทั่งปี 2549 จึงยกเลิกรุ่นนี้ไป
นับจากนั้นเป็นต้นมายานโซยุซก็ไม่มีปืนทีพี-82 อยู่ในชุดอุปกรณ์ฉุกเฉินมาตรฐานอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม ทางรอสคอสมอสมีแผนว่าอาจนำปืนกลับไปอยู่ในชุดอุปกรณ์ฉุกเฉินอีกครั้ง โดยจะใช้ปืนกึ่งอัตโนมัตแทน
แต่ก็ยังไม่แน่ชัดว่าเมื่อใด
สถานีอวกาศนานาชาติ (จาก NASA/Roscosmos)
———————————————————————————————————————————————————————————
ที่มา : มติชนออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 14 มี.ค.67
Link : https://www.matichon.co.th/lifestyle/tech/news_4472456