ทำความรู้จักกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ AI ฉบับแรก ซึ่งล่าสุด สหภาพยุโรป หรือ EU เพิ่งผ่านกฎหมาย “EU AI Act” ซึ่งต่อจากนี้ ประเทศหลายๆในยุโรป จะนำกฎหมายฉบับดังกล่าวไปบังคับใช้ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาหลายปีกว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการ
สหภาพยุโรป หรือ EU ถือว่ามีความก้าวหน้าด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เป็นอย่างมาก เพราะล่าสุด ถือว่าเป็นที่แรก ที่มีการผ่านกฎหมายเกี่ยวกับ AI โดยชื่ออย่างเป็นทางการของกฎหมาย “EU AI Act”
สำหรับ “EU AI Act” หรือ “กฎหมายควบคุมปัญญาประดิษฐ์” นับได้ว่าเป็น กฎหมายฉบับแรกของโลก ที่พูดประเด็นเกี่ยวกับ AI อย่างชัดเจน โดยกฎหมายฉบับนี้ ผ่านด้วยคะแนนโหวตเห็นชอบที่ 523 เสียง ไม่เห็นชอบ 46 เสียง และงดลงคะแนน 49 เสียง
สำหรับการ ผ่านกฎหมายครั้งนี้ ทำให้ยุโรปได้กลายเป็นผู้นำระดับโลกในการกำหนดมาตรฐานสำหรับปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ไปแล้ว
หากจะลองลงลึกถึงรายละเอียดของ กฎหมาย AI หรือ EU AI Act นั้น มีจุดเริ่มต้นเมื่อปี 2564 หรือเมื่อปี 2021 โดยแบ่งหมวดหมู่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือตามระดับความเสี่ยงต่าง ๆ ตั้งแต่ระดับที่ไม่สามารถยอมรับได้ ซึ่งจะนำไปสู่การแบนห้าม ตามด้วยระดับสูง ระดับกลาง และระดับต่ำ
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น เทคโนโลยี AI ที่ถูกใช้งานในระดับความเสี่ยงสูง เช่น การใช้งานในด้านการก่อสร้างอาคารและโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ หุ่นยนต์ผ่าตัด การคัดกรองผู้ข้ามพรมแดน ฯลฯ กิจกรรมเหล่านี้ โดย AI ควรแทบไม่มีข้อผิดพลาดในรายละเอียดเนื้องานเลย เพราะหากพลาดจะมีผลเอฟเฟ็กต์ตามมา และมีระเบียบควบคุมอย่างเข้มงวด
แต่ในทางกลับกัน, ระบบ AI ที่จะถูกแบนเป็นอย่างแรก ๆ ก็คือ ระบบจำพวกการให้คะแนนเชิงสังคม การจดจำอารมณ์ทั้งที่ทำงานและโรงเรียน หรือระบบที่ออกแบบมาเพื่อส่งผลต่อพฤติกรรมของมนุษย์และใช้ประโยชน์จากความเปราะบางของมนุษย์ เรื่องพวกนี้จะเป็นเรื่องต้องห้ามสำหรับ AI
ส่วนตัวอย่างของระบบ AI ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ระบบ AI ที่ใช้กับโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ การศึกษา การฝึกอาชีพ ระบบการบังคับใช้กฎหมายบางระบบ และระบบที่สามารถส่งผลต่อกระบวนการประชาธิปไตยอย่างการเลือกตั้ง โดยมีการแบ่งระดับของความเสี่ยงที่ AI จะส่งผลต่อสังคม
แต่อย่างไรก็ตาม แม้ การผ่านกฎหมาย AI ออกมาครั้งนี้ จะมีสัญญาณที่เห็นด้วย , แต่เหรียญย่อมมี 2 ด้านเสมอ เพราะบางประเทศใน EU อย่างฝรั่งเศสและเยอรมนีรู้สึกไม่สบายใจกับเรื่อง AI โดยมองว่า ด้วยระเบียบเข้มงวด และการควบคุมที่ออกมา อาจกระทบต่อความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนา AI จนอาจทำให้ยุโรปไล่ตาม AI ของ “สหรัฐฯ” และ “จีน” ไม่ทัน
รัฐบาลของทั้งสองประเทศ กังวลว่า กฎหมายปัญญาประดิษฐ์จะกระทบสตาร์ตอัป AI ของฝรั่งเศสที่ชื่อว่า Mistral AI และของเยอรมนีที่ชื่อว่า Aleph Alpha GmbH เพราะมีข้อกำหนดด้านการเก็บข้อมูล ลิขสิทธิ์ และการรักษาความเป็นส่วนตัวที่เข้มงวดขึ้น ซึ่ง AI จำเป็นต้องใช้ข้อมูลจำนวนมหาศาลในการฝึกฝนตัวเองให้เก่ง
สมาชิกของรัฐสภายุโรป เปิดเผยว่า กฎหมายดังกล่าวต้องการให้ธุรกิจขนาดเล็ก โดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) สามารถสร้างและใช้ AI ได้ โดยลดแรงกดดันจากบริษัทขนาดใหญ่ที่ควบคุมการผลิตและพัฒนาเทคโนโลยีนี้ จึงได้จัดตั้ง ‘Regulatory Sandboxes’ และ ‘Real-World-Testing’ ขึ้น เพื่อพัฒนาและฝึกอบรม AI เชิงนวัตกรรม ก่อนที่จะวางตลาด
ธุรกิจขนาดเล็กจึงสามารถพัฒนาและทดลองใช้เทคโนโลยี AI ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ก่อนที่จะออกสู่ตลาดอย่างเป็นทางการ คล้ายกับพื้นที่ปลอดภัยสำหรับบริษัทขนาดเล็กที่ต้องการสำรวจและใช้ AI โดยไม่ต้องเผชิญกับแรงกดดันมากเกินไปจากบริษัทขนาดใหญ่
อะไรจะเกิดขึ้นต่อไป เมื่อ มี “EU AI Act”
ทั้งนี้ เนื้อหาทางกฎหมายของร่างกฎหมาย AI ยังรอขั้นตอนสุดท้ายในการพิจารณาภายในวันนี้ 10 หรือ 11 เมษายน 2567 ในการประชุมแบบเต็มคณะหรือการแถลงแบบเดี่ยว จากนั้นร่างกฎหมายก็จะมีผลบังคับใช้ภายใน 20 วันหลังจากมีการแถลงอย่างเป็นทางการ โดยคาดว่าจะอยู่ในช่วงพฤษภาคมหรือมิถุนายนของปีนี้
ถัดจากนั้นประเทศสมาชิกของ European Union ก็จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายเป็นขั้น เริ่มจากจะต้องแบน AI ที่ขัดกฎหมายภายใน 6 เดือน จากนั้นจะต้องออกกฎมากำกับดูแล ‘ระบบ AI อเนกประสงค์’ (general-purpose AI) ภายใน 12 เดือน และจะต้องมีการกำหนด AI ที่มีความเสี่ยงสูงภายใน 36 เดือน
————————————————————————————————————————————-
ที่มา : Springnews / วันที่เผยแพร่ 15 มี.ค.67
Link : https://www.springnews.co.th/digital-tech/technology/848655