แฟ้มภาพรอยเตอร์
มาเลเซียเฝ้าระวังเข้ม! หลังตร.จับชายต้องสงสัย เป็นสปายอิสราเอล พกปืน 6 กระบอก กระสุน 200 นัด
เมื่อวันที่ 30 มีนาคม สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ตำรวจมาเลเซียได้จับกุมชายผู้ต้องสงสัย อายุ 36 ปีรายหนึ่ง ที่เข้าพักอยู่ในโรงแรมกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ เนื่องจากต้องสงสัยว่าเป็นสายลับอิสราเอล
จากการเปิดเผยของนายราซารุดิน ฮูเซน ผู้บัญชาการตำรวจมาเลเซีย ในระหว่างการแถลงข่าวเมื่อค่ำวันศุกร์ (29 มี.ค.) ระบุว่า ผู้ต้องสงสัยรายนี้ที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบว่ามีอาวุธปืนในครอบครอง 6 กระบอก และกระสุนปืน 200 นัด ได้เดินทางมาจากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ถึงสนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา โดยใช้หนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ตสัญชาติฝรั่งเศส ซึ่งเชื่อว่าเป็นพาสปอร์ตปลอม ก่อนที่ผู้ต้องสงสัยจะมอบพาสปอร์ตอิสราเอลให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในระหว่างการสอบปากคำ
ผู้บัญชาการตำรวจมาเลเซียกล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบสวนความเป็นไปได้ที่ว่าผู้ต้องสงสัยรายนี้อาจเป็นสมาชิกในหน่วยข่าวกรองอิสราเอล แม้ผู้ต้องสงสัยจะให้การกับเจ้าหน้าที่ว่าเขาเดินทางมายังประเทศมาเลเซียเพื่อตามหาชาวอิสราเอลอีกคนหนึ่งที่มีปัญหาเกี่ยวกับครอบครัว
“เราไม่เชื่อในสิ่งที่เขาเล่าทั้งหมด เนื่องจากเราสงสัยว่ามีวาระอื่นแฝงอยู่” ผู้บัญชาการตำรวจมาเลเซียกล่าว และให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าผู้ต้องสงสัยรายนี้ได้ย้ายโรงแรมไปหลายแห่งในระหว่างที่เขาพำนักอยู่ในมาเลเซีย
ตำรวจมาเลเซียกำลังสอบสวนด้วยว่าผู้ต้องสงสัยรายนี้ได้อาวุธปืนเหล่านี้มาจากที่ใด ซึ่งมีการซื้อในประเทศมาเลเซียและจ่ายเป็นเงินคริปโทเคอร์เรนซี
หลังการจับกุมทางการมาเลเซียได้ยกระดับการเฝ้าระวังขึ้นทันที รวมถึงการถวายอารักขากษัตริย์มาเลเซีย และการรักษาความปลอดภัยให้กับนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆ ของมาเลเซียอย่างเข้มข้นขึ้นด้วย
ตำรวจมาเลเซียเปิดเผยเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยังจับกุมผู้ต้องสงสัยได้อีก 3 คน รวมถึงที่เป็นคู่แต่งงานกัน ในการจับกุมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และจะถูกควบคุมตัวเป็นเวลา 7 วัน ฐานต้องสงสัยเป็นผู้จัดหาอาวุธและทำหน้าที่คนขับรถให้กับผู้ต้องสงสัยเป็นสายลับอิสราเอลรายนี้
ประเทศมาเลเซีย ที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ได้ให้การสนับสนุนชาวปาเลสไตน์อย่างแข็งขันและวิพากษ์วิจารณ์อิสราเอลอย่างหนักต่อการทำสงครามโจมตีฉนวนกาซา ขณะเดียวกันมาเลเซีย ซึ่งไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอล ยังได้ให้ที่พักพิงกับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ราว 600 คนด้วย จากข้อมูลของสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ(ยูเอ็นเอชซีอาร์)
——————————————————————————————————————————————————————————–
ที่มา : มติชนออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 30 มี.ค.67
Link : https://www.matichon.co.th/foreign/news_4500758