สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ตำรวจของนครลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (เอฟบีไอ) กำลังสอบสวนการปล้นเงินสดมูลค่าเกือบ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1,104 พันล้านบาท หลังคนร้ายได้งัดหลังคาคลังเก็บเงินในย่านซิลมาร์ ของนครลอสแอนเจลิส ก่อนที่จะพังตู้เซฟเพื่อนำเงินออกไปได้
เจ้าหน้าที่ตำรวจของลอสแอนเจลิส ระบุว่า การปล้นดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา คนร้ายสามารถหลบเลี่ยงระบบแจ้งเตือนของอาคารได้ โดยการเข้าไปในอาคารผ่านทางหลังคาเพื่อเข้าไปยังห้องนิรภัย ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ ลอสแอนเจลิส ไทม์ ซึ่งบอกอีกว่านี่เป็นการปล้นของคนร้ายที่มีประสบการณ์ และเจ้าหน้าที่ค้นพบว่าเงินสดได้หายไปอีก 1 วันต่อมาหลังมีเจ้าหน้าที่ไปเปิดห้องนิรภัย
พนักงานคนหนึ่งของอาคารดังกล่าว บอกกับสถานีโทรทัศน์ เอบีซี นิวส์ ว่า ขณะนี้มีคำถามเยอะมากว่า เงิน 30 ล้านดอลลาร์หายไปได้อย่างไร มันเป็นฝีมือของคนในหรือไม่ ผู้ก่อเหตุมีคนเดียวหรือหลายคน
นี่ถือเป็นหนึ่งในการปล้นเงินสดครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของนครลอสแอนเจลิส โดยก่อนหน้านี้การปล้นเงินสดครั้งใหญ่ที่สุดของลอสแอนเจลิสเกิดขึ้นในปี 1997 หลังเงินสด 18.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเป็นเงินไทยราว 696 ล้านบาท ถูกขโมยออกไปจากคลังเก็บเงินที่ติดอาวุธ แต่ตำรวจสามารถจับผู้ร้ายได้ในเวลาต่อมา
———————————————————————————————————————————————————————————
ที่มา : มติชนออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 5 เม.ย. 67
Link : https://www.matichon.co.th/foreign/news_4510947