กระทรวงดิจิทัลฯ เปิด 5 คดีตัวอย่าง ถูกหลอกลวงจากมิจฉาชีพออนไลน์ สูญเงินรวมกว่า 4.58 แสนบาท ระหว่างวันที่ 1-5 เมษายน 2567 ช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์
8 เม.ย. 67 นางสาววงศ์อะเคื้อ บุญศล โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 1-5 เมษายน 2567 ซึ่งเป็นช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ทางศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ หรือ AOC 1441 ได้มีรายงานเคสตัวอย่าง ที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากการถูกหลอกลวงผ่านเครือข่ายการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ จำนวน 5 เคส
รวมมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดกว่า 458,100 บาท ประกอบด้วย
คดีที่ 1
หลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการ ที่ไม่มีลักษณะเป็นขบวนการ มูลค่าความเสียหาย 70,000 บาท รายละเอียดคดี พบว่า ผู้เสียหายได้สั่งซื้อบ้านสำเร็จรูป (บ้านน็อคดาวน์) ผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก ชื่อบัญชี “บ้านน็อคดาวน์ราคาถูก”
จากนั้นเพิ่มเพื่อนผ่านช่องทางไลน์ ก่อนตกลงราคาซื้อขายพร้อมขนส่ง ในราคา 100,000 บาท ซึ่งผู้เสียหายได้โอนเงินชำระมัดจำจำนวน 70,000 บาทให้กับผู้ขาย ปรากฏว่าเมื่อโอนเงินจำนวนดังกล่าวแล้ว ไม่สามารถติดต่อผู้ขายได้อีก ทั้งช่องทางเฟซบุ๊ก และไลน์ ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าตนเองถูกมิจฉาชีพหลอก
คดีที่ 2
ผู้เสียหายสั่งซื้อสินค้าปืนฉีดน้ำ เพื่อใช้เล่นช่วงเทศกาลสงกรานต์ ผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก รวมมูลค่าสินค้าพร้อมค่าขนส่งจำนวน 1,400 บาท โดยโอนชำระเต็มจำนวน ภายหลังเมื่อโอนเงินแล้วไม่สามารถติดต่อเพจร้านค้าได้อีก จึงเชื่อว่าตนเองถูกมิจฉาชีพหลอก
คดีที่ 3
คล้ายกับ 2 คดีแรก คือ ผู้เสียหายได้สั่งซื้อเสื้อลายดอก เพื่อจะมาจำหน่ายช่วงเทศกาลสงกรานต์ ผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก ชื่อเพจ “โรงงานส่งออกและผลิตเสื้อแฟชั่น-เสื้อฮาวายรายใหญ่” โดยทางร้านแจ้งราคาสินค้าพร้อมขนส่งฟรี และให้ผู้เสียหายโอนเงินจำนวนเต็ม 1,500 บาท ซึ่งผู้เสียหายหลงเชื่อและได้โอนเงินจำนวนเต็มไป ภายหลังไม่สามารถติดต่อเพจร้านค้าได้อีก ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าถูกมิจฉาชีพหลอก
คดีที่ 4
หลอกลวงโอนเงินเพื่อรับรางวัลหรือวัตถุประสงค์อื่น ๆ โดยผู้เสียหายต้องการเดินทางไปต่างประเทศ จึงได้รับการแนะนำติดต่อผ่านนายหน้าอ้างว่าสามารถพาไปทำงานต่างประเทศได้ โดยมีค่าดำเนินการต่าง ๆ ดังนี้
ค่าทำวีซ่า ค่าทำหนังสือเดินทาง ค่าตรวจประวัติคดีอาชญากรรม ค่าที่พักอาศัยต่างประเทศ และค่าโดยสารเครื่องบิน โดยให้ผู้เสียหายโอนเงินไปหลายครั้ง รวมประมาณ 157,200 บาท ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าตนเองถูกมิจฉาชีพหลอก
คดีที่ 5
ข่มขู่ทางโทรศัพท์ให้เกิดความกลัวแล้วหลอกโอนเงิน Call Center ซึ่งผู้เสียหายได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์ อ้างว่าเป็นพนักงานขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ แจ้งว่ามีพัสดุตกค้างอยู่ต่างประเทศให้ชำระค่าภาษี และค่าดำเนินการเอกสารเพื่อรับสินค้า เนื่องจากผู้เสียหายมีเพื่อนอยู่ประเทศเนเธอร์แลนด์จะส่งพัสดุมาให้พอดี ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อและโอนเงินจำนวน 228,000 บาทไป ภายหลังจึงเชื่อว่าถูกมิจฉาชีพหลอก
นางสาววงศ์อะเคื้อ กล่าวว่า ดีอี ยังพบว่ามีการหลอกลวงประชาชนจากมิจฉาชีพอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ จึงขอเตือนภัยให้ประชาชนระมัดระวังการหลอกลวงดังกล่าวที่มาในหลากหลายรูปแบบ
โดยสังเกต และงดรับสายจากหมายเลขโทรศัพท์ที่ไม่คุ้นเคย ไม่พูดคุยกับคนแปลกหน้าหรือคนที่ไม่รู้จักที่เข้ามาทักทายและขอเป็นเพื่อนผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย พร้อมทั้งอย่าหลงเชื่อการชักชวนให้ลงทุนแล้วเสนอผลตอบแทนที่สูงเกินจริง หรือเร่งรัดให้ตัดสินใจลงทุน
ทั้งนี้ ขอให้ท่านอย่าไว้ใจ และตระหนักอยู่เสมอถึงความปลอดภัยของตัวท่านเอง เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวงจากมิจฉาชีพ ซึ่งอาจจะทำให้ท่านโอนเงินให้กับมิจฉาชีพได้ รวมทั้งช่วยกันแจ้งเตือน และกดรายงานเพจปลอม หรือแจ้งเบาะแสกับหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบด้วย
——————————————————————————————————————————————————————————–
ที่มา : PPTV Online / วันที่เผยแพร่ 8 เม.ย.67
Link : https://www.pptvhd36.com/news/ไอที/221254