เกิดเหตุไฟไหม้ ถังเก็บวัตถุดิบ สารไพรโรไลสีส แก๊สโซลีน บริษัท มาบตาพุดแทงค์เทอร์มินัล จำกัด ท่าเรือฯมาบตาพุด บริษัทฯไม่สามารถระงับเหตุได้ มีแนวโน้มลุกลาม ประกาศ ภาวะฉุกเฉิน สั่งอพยพคนด่วน
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการ กนอ. สั่งการให้สำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด (สทร.) และสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด (สนพ.)จังหวัดระยอง อพยพคนในพื้นที่ทั้งพนักงาน และสถานประกอบการโรงงานทุกแห่งในพื้นที่เกิดเหตุออกจากพื้นที่โดยด่วน หลังเริ่มมีการลุกลามของเพลิงไหม้ โดยในพื้นที่ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินระดับที่ 1 แล้ว
ทั้งนี้ มีหน่วยงานเข้าร่วมระงับเหตุ ประกอบด้วย
1. รถโฟมดับเพลิง จาก บ. SCGC จำนวน 2 คัน
2. รถโฟมดับเพลิง จาก บ.PTT LNG จำนวน 2 คัน
3. รถดับเพลิงเทศบาลเมืองมาบตาพุด จำนวน 4 คัน (รถโฟม 2 คัน / รถน้ำ 2 คัน)
4. บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) สาขา 6 สนันสนุนรถดับเพลิง(ชนิดโฟม)จำนวน 2 คัน
5. บ.NPC S&E สนับสนุนโฟม จำนวน 1 หมื่นลิตร กับรถดับเพลิง เข้าช่วยระงับเหตุ
6. บริษัท โคเวสโตร (ประเทศไทย) จำกัด สนันสนุนรถดับเพลิง จำนวน 2 คัน
โดยสถานการณ์ล่าสุด ขณะนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างควบคุมสถานการณ์ ซึ่งมีแนวโน้มลุกลาม ขณะนี้ทางจังหวัดระยอง ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินระดับ 1 พร้อมอพยพประชาชนออกนอกพื้นที่โดยเร่งด่วนแล้ว
เศรษฐาเปิด War Room ติดตามใกล้ชิด
หลังเกิดเรื่อง เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แสดงความห่วงใยผ่าน x ระบุว่า
ผมทราบการเกิดเหตุเพลิงไหม้ ถังเก็บวัตถุดิบสารไพโรไลสีส แก๊สโซลีน ของ บริษัท มาบตาพุดแทงค์เทอร์มินัล จำกัด พร้อมได้ประสานท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเข้าไปติดตามการระงับเหตุ และป้องกันผลกระทบที่จะเกิดต่อพี่น้องประชาชน รวมถึงขอให้ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บ
โดยได้มีการเปิดห้อง War Room เพื่อประสานเหตุการณ์ในการระงับเหตุ และให้รถตรวจการณ์ EMCC เข้าตรวจวัดคุณภาพอากาศบริเวณเหนือลม และท้ายลม รวมทั้งตรวจสอบผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศบริเวณพื้นที่ชุมชนพบว่าไม่เกินค่ามาตรฐานที่กำหนด นอกจากนี้ ได้ประสานกับบริษัท SCG เพื่อใช้เรือในการอพยพผู้คนทางเรือ และได้อพยพคนออกมาอยู่ในจุดปลอดภัยแล้ว
ผมห่วงใยไปถึงพี่น้องประชาชน และได้กำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีมาตรการป้องกัน และควบคุมให้ดียิ่งขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดเหตุลักษณะนี้อีกครับ
ผู้เสียชีวิตเบื้องต้น
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงคุมขณะนี้ควบคุมให้อยู่ในวงจำกัด แต่ก็ยังไม่สามารถดับไฟได้ คาดว่าใช้เวลากว่า 10 ชม.ระวับเพลิงนี้ สำหรับมาบตาพุดแทงค์ฯ เคยเกิดเหตุถังระเบิดเมื่อปี 64 ครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิต 3 ราย
ทั้งนี้ นายอัธยา นวลอุทัย หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระยอง ได้เปิดเผยว่า ขณะไฟได้ลุกไหม้ลุกลามไปถังที่ 2 แล้ว นอกจากนี้ยังมีถังขนาดเล็กที่อยู่รอบลุกลามไปด้วย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไว้ เพื่อให้เพลิงอยู่ในวงจำกัด จะเห็นได้จากเปลวไฟเริ่มลดความรุนแรงลง แต่ก็ยังคงลุกไหม้อย่างต่อเนื่อง สำหรับถังที่ถูกไฟไหม้ เป็นถังสารโซลีน ที่มีความสูง 18 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 30 เมตร บรรจุได้ 2,500 ลบ.เมตร ส่วนถังที่2 มีขนาดเท่ากันแต่เป็นสารคนละประเภทกัน ซึ่งลุกลามไหม้ไปแล้ว
สำหรับพนักงานโรงงานในใกล้พื้นที่ไฟไหม้ ได้มีการอพยพพนักงาน รวมถึงชาวบ้านในพื้นที่จุดเสี่ยงไปอยู่ที่โรงเรียนมาบตาพุดพันพิทยาคาร ซึ่งอยู่ในจุดที่ปลอดภัย โดยทางสาธารณะจังหวัดระยอง ได้ส่งทีมแพทย์พยาบาลลงมาดูแลผู้ประสบภัยแล้ว
สำหรับรายชื่อ ผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นายนพพร เรือนมา
ผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย 1.นายณิชฌาน ติ๊บประสอน 2.โชคชัย ชูชุ่ม 3.จักรลักษณ์ ถิ่นระแก้ว ส่วนอีกรายไม่ทราบชื่อ.
ด้านการช่วยเหลือเบื้องต้นจังหวัดเปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวโรงเรียนมาบตาพุดพันพิทยาคาร รองรับประขาชนที่เดือดร้อน โดยบริการตรวจสุขภาพและอาหารในค่ำคืนนี้ โดยขณะนี้มีผู้เข้ามาพักพิงที่ศูนย์ประมาณ 400 คน
ไฟไหม้มาบตาพุด จังหวัดระยอง
ไฟไหม้
ไฟไหม้
ลามหนัก ‘ไฟไหม้’ ถังสารโซลีน มาบตาพุด พนักงานดับแล้ว 1 ราย เร่งอพยพคนงาน
โรงงานออกแถลงการณ์รอบ 2 แจงเหตุ ‘ไฟไหม้’ ถังสารโซลีน มีพนักงานเสียชีวิตแล้ว 1 พร้อมเร่งอพยพพนักงานกว่า 300 ชีวิต
9 พ.ค. 2567 ความคืบหน้า เหตุไฟไหม้ถังสารโซลีน บริษัทมาบตาพุดแทงค์ เทอร์มินัล ท่าเรือมาบตาพุด ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 10.45 น. มีรถดับเพลิงกว่า 20 คัน ระดมเข้าดับไฟบริเวณจุดเกิดเหตุ หลังใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ไฟได้ดับลง โดยมีการฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไว้ตลอด โดยแสงเพลิงและกลุ่มควันดำลดลง
ไฟไหม้ถังสารโซลีน ยังควบคุมไม่ได้ พนักงานเสียชีวิตแล้ว 1
หลังผ่านไปเพียง 30 นาที ปรากฎว่า ได้มีเสียงระเบิดดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับเปลวไฟที่ลุกขึ้นมาอีกรอบ โดยไฟลุกติดอย่างรวดเร็ว และ รุนแรง จนกลับมาไหม้เหมือนเดิม เจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่คอยเฝ้าระวังหลังไฟดับ ต่างก็รีบฉีดน้ำสกัดเพลิงอีกรอบ แต่เนื่องจากไฟลุกติดอย่างรุนแรงและรวดเร็ว จึงยังไม่มีทีท่าว่าไฟจะดับลง ทำได้เพียงระดมฉีดน้ำเข้าไปในกองเพลิงที่กำลังลุกโหมอย่างรุนแรง
ด้านบริษัท มาบตาพุดแทงค์เทอร์มินัล จำกัด ได้ส่งหนังสือแถลงการณ์ ฉบับที่ 2 ชี้แจงการเกิดกลุ่มควันบริเวณถังจัดเก็บสารประกอบไฮโดรคาร์บอน C9+ บริษัทฯ ได้ระดมทีมเพื่อควบคุมสถานการณ์ในทันทีที่เกิดเหตุตามแผนรับมือเหตุฉุกเฉิน โดยได้ตัด แยกระบบ และหยุดกิจกรรมต่าง ๆ ภายในโรงานตามขั้นตอนความปลอดภัย
จากเหตุการณ์ดังกล่าว มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 ราย ซึ่งได้นำส่งโรงพยาบาลและอยู่ในความดูแลของแพทย์ ต่อมาได้รับแจ้งว่ามีพนักงานเสียชีวิต 1 ราย
ไฟไหม้ถังสารโซลีน ยังควบคุมไม่ได้ พนักงานเสียชีวิตแล้ว 1
ทั้งนี้ สารประกอบไฮโดรคาร์บอน C9+ เป็นผลิตภัณฑ์พลอยได้ (by product) จากการผลิตสารตั้งต้นใน การผลิตเม็ดพลาสติก โดยได้แยกเบนซีน โทลูอีน มิกซ์ไซลีน ออกหมดแล้ว ซึ่งใช้เป็นตัวทำละลายในอุตสาหกรรมต่างๆ (Solvent)
ส่วนพนักงานของบริษัทจำนวน กว่า 300 คน ซึ่งเป็นพนักงานโรงงานรอบๆจุดเกิดเหตุไฟไหม้ ได้อพยพพนักงานไปรวมตัวกันที่ อาคารเอนกประสงค์ ชุมชนตากวน-อ่าวประดู่ ซึ่งอยู่ห่างจากประมาณ 3 กิโลเมตร โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข มาช่วยรักษาพยาบาลและตรวจร่างกาย ส่วนใหญ่จะมีอาการตื่นตระหนก ไม่มีอาการรุนแรง
อพยพคนงาน 300 ชีวิต หลังถังสารเคมีระเบิดซ้ำ
ต่อมาสถานการณ์เริ่มมีความรุนแรงขึ้นเมื่อไฟได้ลุกลาม เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและผู้ที่เข้าไประงับเหตุถอนกำลังออกมาเนื่องจากไฟไหม้ลุกลามรุนแรง ทำให้ต้องอพยพทั้งเจ้าหน้าที่ พนักงานในโรงงานใกล้เคียงออกจากนิคมอุตสาหกรรมตาพุดไปอยู่ในที่ปลอดภัยจนเกิดความโกลาหล ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมพุด และชุมชนโดยรอบ
เร่งอพยพ ผู้อยู่รอบโรงงานไฟไหม้ถังสารเคมี
กระทั่งศูนย์-EEMCออกแถลงด่วนกรณี บริษัท มาบตาพุดแทงค์เทอร์มินัล จำกัด ท่าเรือฯมาบตาพุด เป็นเหตุเพลิงไหม้ ถังเก็บวัตถุดิบ สารไพรโรไลสีส แก๊สโซลีน บริษัทฯไม่สามารถระงับเหตุได้ มีแนวโน้มลุกลาม ทิศทางลมพัดจากทิศใต้ ไป เหนือ
เวลา 14.13 น.ประกาศภาวะฉุกเฉินระดับ 2 จังหวัด ประชาชนชุมชนหนองแฟบ,ชุมชนตากวน-อ่าวประดู่ อพยพไปที่ศูนย์ราชการจังหวัดระยอง
————————————————————————————————————————————-
ที่มา : คมชัดลึก , สปริงนิวส์ / วันที่เผยแพร่ 9 พ.ค.67
Link : https://www.komchadluek.net/news/local/574384 , https://www.springnews.co.th/news/hot-issue/850163