เมื่อเร็ว ๆ นี้ รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศเตรียมเปิดระบบ ESTA ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติลงทะเบียนแจ้งรายละเอียดกิจกรรม และที่พัก ก่อนการเดินทาง ซึ่งระบบ ESTA คืออะไร ส่งผลอย่างไรต่อนักท่องเที่ยวไทยบ้าง
ที่ผ่านมา ญี่ปุ่น มักพบกับปัญหานักท่องเที่ยวลักลอบเข้ามาพักอาศัยและทำงานอย่างผิดกฎหมายในประเทศอยู่บ่อยครั้ง จนกลายเป็นปัญหาระดับประเทศ ด้วยเหตุนี้ทางรัฐบาลญี่ปุ่นจึงประกาศเตรียมใช้โยบายให้ชาวต่างชาติที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องทำวีซ่านักท่องเที่ยวระยะสั้นเพื่อการท่องเที่ยว จะต้องคัดกรองล่วงหน้า เพื่อตรวจสอบบุคคลก่อนบินเข้าประเทศเหมือนกับ “K-ETA” ของเกาหลีใต้มาใช้แล้ว ส่วนที่ญี่ปุ่นจะใช้ชื่อว่า “ESTA” เหมือนที่สหรัฐอเมริกา โดยให้แจ้งรายละเอียดกิจกรรม และสถานที่พัก ก่อนเข้าประเทศญี่ปุ่น เพื่อป้องกันการทำงานผิดกฎหมาย หรือการกระทำของผู้ก่อการร้าย
ระบบ ESTA คืออะไร
ข้อมูลจากเว็บไซต์ US ESTA ที่ให้บริการยื่นขอวีซ่าออนไลน์ของสหรัฐอเมริกา อธิบายว่า ESTA เป็นใบอนุญาตการเดินทางที่ได้รับอนุมัติ แต่ไม่ถือเป็นวีซ่า ดังนั้น ESTA จึงไม่เป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมาย หรือข้อบังคับในการให้บริการแทนวีซ่าสหรัฐอเมริกา
ผู้ถือ ESTA สามารถใช้ใบอนุญาตเพื่อการท่องเที่ยว ธุรกิจ หรือต่อเครื่องเท่านั้น แต่หากต้องการอยู่ต่อมากกว่า 90 วัน เพื่อศึกษา หรือทำงาน จะต้องได้รับวีซ่าประเภทนั้น
วัตถุประสงค์ของการมี ESTA ก็เพื่อรักษาความปลอดภัย และการป้องกันการก่อการร้ายในประเทศ หรือที่อื่น ๆ ในโลก เพื่อช่วยให้รัฐบาลสามารถจัดการ และลงทะเบียนข้อมูลเกี่ยวกับนักเดินทางที่เดินทางมายังสหรัฐอเมริกาเพื่อพักระยะสั้นได้ เพื่อใช้ตรวจสอบล่วงหน้าว่าผู้สมัคร ESTA มีสถานะเดินทางไปสหรัฐอเมริกาโดยไม่ต้องขอวีซ่า หรือว่าบุคคลนั้นอาจเป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐอเมริกาหากได้รับอนุญาต
ขณะเดียวกัน แม้ว่าจะผ่านการอนุญาต ESTA แล้ว แต่ก็ไม่ได้รับประกันการเข้าประเทศ เพราะเจ้าหน้าที่ศุลกากรและป้องกันชายแดนของสหรัฐฯ จะเป็นหน่วยงานสุดท้ายที่จะตรวจคุณสมบัติของผู้เดินทางที่จะเดินทางเข้าประเทศ จึงมีความเป็นไปได้ที่บุคคลจะถูกปฏิเสธไม่ให้เข้า และถูกเนรเทศกลับประเทศของตน
ทั้งนี้เอกสารการเดินทางของ ESTA มีอายุสองปี นับจากวันที่ออกและอนุญาตให้ผู้สมัครเข้าประเทศได้หลายครั้ง ในแต่ละครั้งสามารถอยู่ได้ไม่เกิน 90 วัน หากต้องการอาศัยให้นานขึ้น ต้องเดินทางออกนอกสหรัฐอเมริกาแล้วกลับเข้ามาใหม่
อย่างไรก็ตาม หนังสือเดินทางต้องมีอายุเกินสองปี มิฉะนั้น ESTA จะหมดอายุในวันที่หนังสือเดินทางหมดอายุ และต้องสมัคร ESTA ใหม่อีกครั้งหลังจากได้รับหนังสือเดินทางเล่มใหม่
ESTA ประเทศญี่ปุ่น
ผู้ที่ต้องทำ ESTA ก่อนเข้าประเทศญี่ปุ่น คือผู้ที่มาจากประเทศที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องรับวีซ่านักท่องเที่ยวระยะสั้น เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ เช่น การท่องเที่ยว การเดินทางเพื่อธุรกิจ และการเยี่ยมญาติ โดยปัจจุบันมีทั้งหมด 71 ประเทศ
ผู้ที่จะเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นจะต้องแจ้งข้อมูล เช่น ชื่อ วัตถุประสงค์ในการเข้าประเทศ รายละเอียดกิจกรรม และสถานที่ที่พัก ให้กับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทางออนไลน์ล่วงหน้าก่อนการเดินทาง
จากนั้นจะมีการตรวจสอบว่าเป็นผู้โดยสารที่อยู่ในบัญชีดำของอาชญากรและบุคคลที่ต้องสงสัยหรือไม่ หากพบว่าไม่มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการจ้างงานที่ผิดกฎหมาย ผู้ตรวจสอบจะอนุญาตให้เดินทางได้ และหากมีข้อสงสัยใด ๆ บุคคลนั้นจะถูกปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่อง
โดยเหตุผลที่การคัดกรองก่อนเข้าประเทศญี่ปุ่นมีความเข้มงวดมากขึ้นก็เนื่องมาจากกรณีของชาวต่างชาติที่เดินทางมาญี่ปุ่นโดยผิดกฎหมาย และอยู่อาศัยในญี่ปุ่นเกินกำหนด
จากข้อมูลของ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ณ เดือนมกราคม พ.ศ.2567 พบว่า มีจำนวนชาวต่างชาติอยู่อาศัยเกินกำหนดอย่างผิดกฎหมายอยู่ที่ 79,113 ราย เพิ่มขึ้นประมาณ 20,000 ราย จาก 10 ปีที่แล้ว และ 62.9% หรือ 49,801 ราย มีสถานะพำนักระยะสั้น
แม้ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นมีเป้าหมายที่จะกลายเป็นประเทศที่มุ่งเน้นการท่องเที่ยวและขยายจำนวนประเทศที่มีสิทธิ์ได้รับการยกเว้นวีซ่า แต่ก็จำเป็นต้องมีมาตรการควบคุมชายแดนที่เข้มงวดมากขึ้น เนื่องจากการอยู่เกินกำหนดอย่างผิดกฎหมายอาจส่งผลให้ความปลอดภัยในประเทศแย่ลง
ปัจจุบันสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของญี่ปุ่นกำลังพัฒนาระบบ ESTA อยู่ คาดว่าจะเปิดใช้ได้ก่อนถึงปี 2573 ซึ่งคาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะพุ่งถึง 60 ล้านคน
ข้อมูลอ้างอิง : www.yomiuri.co.jp
———————————————————
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 29 เม.ย. 2567
Link : https://www.thairath.co.th/lifestyle/travel/2781932