เช็กมิจฉาชีพยังไง? ปัญหามิจฉาชีพติดต่อมายังเบอร์โทรศัพท์ของเรา เพื่อต้องการล้วงข้อมูลส่วนตัว หรือหลอกโอนเงินด้วยวิธีต่างๆ ยังคงเป็นสิ่งที่ทำให้หลายคนกังวลใจในการรับสายเบอร์แปลก ทว่าในปัจจุบันก็ยังพอมีช่องทางง่าย ๆ ในการเช็กเบอร์มิจฉาชีพ 2567 ผ่านออนไลน์ที่ทุกคนสามารถทำตามได้ง่าย ๆ ในเบื้องต้น เพื่อเป็นการช่วยคัดกรอง “เบอร์โทรที่ไม่ควรรับ” ซึ่งอาจมีแนวโน้มที่จะเป็นเบอร์ของเครือข่าย Call Center ของแก๊งมิจฉาชีพ บทความนี้ ไทยรัฐออนไลน์นำ 5 วิธีเช็กเบอร์มิจฉาชีพแบบง่าย ๆ มาฝากกัน
เทคนิคง่าย ๆ เช็กเบอร์มิจฉาชีพ-เช็กเบอร์ใครโทรมา จะรู้ได้ไงว่าเบอร์ไหนเป็นมิจฉาชีพ?
คำถามที่หลายคนสงสัย…จะรู้ได้ไงว่าเบอร์ไหนเป็นมิจฉาชีพหรือเบอร์ไหนที่ห้ามรับ วิธีที่สังเกตง่ายที่สุดว่าเบอร์โทรมิจฉาชีพขึ้นต้นด้วยอะไร โดยปกติแล้วเบอร์แปลกๆ เหล่านี้มักจะขึ้นต้นด้วยเครื่องหมายบวก (+) แล้วตามด้วยรหัสประเทศที่เราไม่คุ้นเคย เช่น +669, +697, +698 เป็นต้น
หากพบว่ามีหมายเลขที่ขึ้นต้นด้วยรหัสแปลก ๆ โทรมา “ไม่ควรรับสาย” ให้กดตัดสายทิ้งไปเลย เพราะเบอร์เหล่านี้มีแนวโน้มสูงที่จะเป็นเบอร์มิจฉาชีพ ซึ่งจะพยายามหลอกขโมยข้อมูล หลอกให้โอนเงิน หรือแม้กระทั่งหลอกให้ติดตั้งแอปพลิเคชันเพื่อหลอกดูดเงินจากบัญชีแบงก์กิ้งออนไลน์ในโทรศัพท์ของเรา
นอกจากนี้แล้ว บางครั้งแก๊งมิจฉาชีพก็อาจจะใช้เบอร์โทรศัพท์ปกติโทรมา หรือบางครั้งก็เป็นเบอร์ที่ขึ้นต้นด้วย 02 โทรมา เพื่อหลอกให้เหยื่อหลงกลคิดว่าเป็นเบอร์ขององค์กรต่างๆ แต่เมื่อรับสายก็จะมีความผิดปกติ 2 อย่างที่สามารถสังเกตเองได้ง่าย ๆ ได้แก่
เป็นเสียงสัญญาณตอบรับอัตโนมัติ ให้เรากดหมายเลขอื่น ๆ เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่
เป็นเสียงคนพูดสายปกติ บางครั้งก็บอกชื่อ-นามสกุลเราอย่างถูกต้อง แต่อ้างว่าติดต่อจากหน่วยงานราชการ หรือบริษัทมีชื่อเสียง (ให้คิดไว้เลยว่าหากเราไม่เคยทำธุรกรรมใด ๆ กับองค์กรดังกล่าว ให้ตัดสายทิ้งไปเลย หรืออีกแง่หนึ่งองค์กรเหล่านี้ไม่ได้ติดต่อเราง่าย ๆ โดยเฉพาะการติดต่อวันเสาร์-อาทิตย์ หรือนอกเวลาทำการ)
รวม 5 วิธีเช็กเบอร์มิจฉาชีพ 2567 เช็กผ่านออนไลน์ได้ง่าย ๆ ป้องกันโดนหลอกโอนเงิน
1. เช็กเบอร์มิจฉาชีพ ผ่าน Google
หากมีเบอร์โทรศัพท์แปลกๆ โทรเข้า วิธีเช็กที่ง่ายที่สุดให้นำเบอร์นั้นไปค้นหาผ่านเว็บไซต์ Google อาจจะมีข้อมูลที่หลายคนช่วยกันแจ้งเตือนภัยว่าเป็นเบอร์โทรของแก๊งมิจฉาชีพไม่ควรรับเด็ดขาด ซึ่งปัจจุบันแก๊งมิจฉาชีพก็เริ่มที่จะใช้เบอร์ที่ขึ้นต้นด้วย 02 โทรเข้ามาหลอกเหยื่อ หากนำเบอร์นั้นไปค้นหาบน Google ก็จะสามารถรู้ได้ว่าเป็นเบอร์จริงขององค์กรใดหรือเปล่า หรือเป็นเพียงเบอร์ปลอมเท่านั้น
2. เช็กเบอร์มิจฉาชีพ ผ่าน Facebook
บนโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook ก็มักจะมีพลเมืองดีมาโพสต์เตือนภัยถึงเบอร์แปลก ๆ ที่เข้าข่ายเป็นมิจฉาชีพ ไม่ว่าจะเป็นโพสต์บนสเตตัส หรือโพสต์ในกลุ่มขายสินค้าต่างๆ ซึ่งจะมีมิจฉาชีพแฝงตัวเข้าไป หากเบอร์ที่ติดต่อเรามา เคยเป็นเบอร์ที่หลายคนเคยโดนหลอกลวง เราก็จะสามารถทราบข้อมูลนั้น และกดบล็อกเบอร์แปลกๆ ดังกล่าวได้
3. เช็กเบอร์มิจฉาชีพ ผ่าน Blackseller
วิธีเช็กเบอร์มิจฉาชีพ 2567 ผ่านเว็บไซต์ Blackseller ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ เช่นเดียวกัน โดยเว็บไซต์นี้จะรวบรวมข้อมูลของผู้เสียหายที่เคยโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก ไม่ว่าจะเป็นการหลอกขายสินค้า หลอกโอนเงิน รวมไปถึงเบอร์ที่เคยส่งลิงก์แปลกๆ ผ่าน SMS เพื่อหลอกล่อให้เรากดติดตั้งแอปพลิเคชันดูดเงินจากมือถือ โดยเว็บไซต์นี้จะมีผู้เสียหายเข้ามาช่วยแจ้งข้อมูล เราสามารถนำเบอร์แปลกๆ ไปค้นหาบนเว็บไซต์นี้ได้
4. เช็กเบอร์มิจฉาชีพ ผ่าน WhosCall
“WhosCall” คือ แอปพลิเคชันที่แนะนำให้ติดตั้งลงบนสมาร์ทโฟน เนื่องจากสามารถใช้ในการตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ที่โทรเข้ามาว่าเป็นของใคร หรือเป็นของมิจฉาชีพหรือไม่ ซึ่งแอปพลิเคชันนี้จะบันทึกฐานข้อมูลจำนวนหลายล้านเบอร์ไว้ เมื่อมีเบอร์ใดโทรเข้ามายังมือถือของเรา ก็จะปรากฏชื่อให้เราสังเกตได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะเบอร์มิจฉาชีพ เบอร์หลอกลวง เบอร์ขายประกัน ฯลฯ นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถเข้าไปแจ้งข้อมูลเบอร์แปลก ๆ ได้อีกด้วย
5. เช็กเบอร์มิจฉาชีพ ผ่าน Line
วิธีนี้ก็สามารถทำตามได้ง่ายๆ เพียงแค่นำเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อมาหาเรา ไปค้นหาผ่าน Line โดยใช้ฟีเจอร์กดเพิ่มเพื่อน (add) แล้วเลือกค้นหาผ่านเบอร์โทรศัพท์ หลังจากนั้นให้กรอกเบอร์แปลกๆ ลงไป แล้วกดค้นหา หากผู้ใช้เบอร์นั้นเคยบันทึกเบอร์โทรผ่านแอปพลิเคชัน Line ไว้ เราก็จะสามารถเห็นบัญชีไลน์ของเจ้าของเบอร์
แจ้งภัยเบอร์มิจฉาชีพผ่านเครือข่ายโทรศัพท์
เช็กเบอร์มิจฉาชีพ AIS : บริการแจ้งเบอร์โทรมิจฉาชีพ โทร.1185
เช็กเบอร์มิจฉาชีพ true : บริการแจ้งเบอร์โทรมิจฉาชีพ โทร. 9777
เช็กเบอร์มิจฉาชีพ DTAC : บริการแจ้งเบอร์โทรมิจฉาชีพ โทร. 1678
อย่างไรก็ตาม แม้เราจะทราบวิธีเช็กเบอร์มิจฉาชีพ 2567 แล้วใช้วิธีเหล่านี้ในการป้องกันแล้วก็ตาม แต่อย่าลืมว่าแก๊งมิจฉาชีพเหล่านี้มักจะมีวิธีการใหม่ๆ มาหลอกลวงเหยื่อได้เสมอ ทางที่ดีที่ทุกคนควรตระหนักไว้ก็คือ “อย่าเพิ่งเชื่อ อย่าเพิ่งโอน” ห้ามให้ข้อมูลส่วนตัว เลขบัตรประชาชน บัญชีธนาคาร และรหัสผ่านใด ๆ ผ่านทางโทรศัพท์เด็ดขาด เพื่อป้องกันการถูกหลอกโอนเงิน และล้วงเอาข้อมูลส่วนตัวไปใช้ในทางที่ผิด
————————————————————————————————————————————————————————–
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 29 พ.ค.67
Link : https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/2788060