ชายจีนปลอมตัว ใช้หน้ากากซิลิโคน-หนังหมู เปลี่ยนใบหน้า เพื่อขโมยของ ทำคนหวั่นยิ่งหาซื้อง่ายยิ่งเกิดอาชญากรรมเพิ่มมากขึ้น
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงาน การโจรกรรมที่เกิดขึ้นในประเทศจีน ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าชายคนหนึ่งจะสามารถก่ออาชญากรรมได้ด้วยการใช้หน้ากากปลอมใบหน้าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาราวกับภาพยนตร์ฮอลลีวูด ซึ่งการโจรกรรมหลายครั้งที่เกี่ยวข้องกับการใช้หน้ากากซิลิโคนที่ดูเหมือนจริงมากก่อให้เกิดการถกเถียงเกี่ยวกับความถูกต้องตามกฎหมายของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ที่หาซื้อได้ทั่วไป
เมื่อเดือนมีนาคมของปีนี้ บ้าน 4 หลังในเซี่ยงไฮ้ถูกงัดแงะ และทรัพย์สินมีค่ากว่า 100,000 หยวน (ราว 498,067 บาท) ถูกขโมยไป เมื่อตำรวจระบุตัวผู้ต้องสงสัยหลักได้ พวกเขาก็พบว่าชายวัย 40 ปีมีหน้ากากซิลิโคนที่ใช้ปลอมตัวเป็นชายชราเพื่อก่ออาชญากรรม
ต่อมาเมื่อเดือนที่แล้ว ตำรวจที่กำลังสืบสวนคดีโจรกรรมหลายคดีในมณฑลเจียงซูระบุตัวชายคนหนึ่งที่ปลอมตัวเป็นพนักงานไฟฟ้าโดยใช้หน้ากากที่ดูสมจริงเพื่อลดความเสี่ยงในการระบุตัวตน อีกทั้งคดีที่พีกที่สุด เกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2555 ชายว่างงานวัย 25 ปีในเจียวโจว ประเทศจีน บังเอิญพบว่า บ้านที่ไม่มีผู้อยู่อาศัยและไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เมื่อมองเข้าไปในบ้านพบสายไฟจำนวนมากจึงวางแผนที่จะขโมย
จากนั้นหนุ่มเริ่มที่จะขโมยด้วยการปลอมแปลงใบหน้าของตนเองจากเทคนิคการปลอมตัวในอินเทอร์เน็ต สร้างใบหน้าใหม่ขึ้นมาอีกสามชิ้นด้วยการใช้หนังหมูโดยลอกเนื้อ แม้จะหยาบเล็กน้อย แต่คนทั่วไปจะแยกแยะได้ยากในเวลากลางคืน
นอกจากนี้ เขายังใช้ปากกาแต่งหน้าเปลี่ยนสีผิวเป็นสีน้ำตาลหรือดำมากตามเทคนิคการแต่งหน้าที่มีให้ทางออนไลน์ทำให้จำไม่ได้ จากนั้นหนุ่มซื้อบันไดไม้ไผ่ที่ยาวกว่า 5 เมตร เครื่องตัดสลักเกลียว 2 อัน และเครื่องมือก่ออาชญากรรมอื่น ๆ
ต่อมาเขาแต่งตัวและสวมหน้ากากปลอมตัวเป็นคนงานก่อสร้าง เมื่อเวลาประมาณ 4 ทุ่ม ชายเริ่มภารกิจขโมยมาพร้อมกับอุปกรณ์ถุงมือ ถือบันได หยิบมีดตัดสายฟ้า ไฟฉาย และกระเป๋าไนลอน จากนั้นเดินจากบ้านของเขาเป็นระยะทางกว่า 5 ไมล์ ไปยังจุดหมายปลายทางเพื่อก่ออาชญากรรม
หลังจากก่ออาชญากรรมก็ทำความสะอาดสถานที่เกิดเหตุโดยไม่ทิ้งร่องรอยใด ไ รวมถึงชายได้ซ่อนเครื่องมือไว้ในหญ้าใกล้ที่เกิดเหตุเพื่อใช้ในครั้งต่อไป จากนั้นขายสายเคเบิลที่ถูกขโมยไปในคืนนั้นและทำกำไรได้เกือบพันหยวน
เมื่อได้ลิ้มรสความหอมหวานของเงินแล้ว ชายความโลภยิ่งเกิดมากยิ่งขึ้นก่ออาชญากรรมมากกว่า 20 กระทงฐานขโมยสายเคเบิลและสายไฟในที่เดียวกันและใช้วิธีการก่ออาชญากรรมแบบเดียวกันในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี ทำกำไรรวม 40,000 หยวน (ราว 199,227 บาท) และใช้เงินที่ขโมยไปกับการซื้อสมาร์ทโฟน 5 เครื่องเพื่อให้สามารถท่องอินเทอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็ว รับข้อมูลเทคโนโลยีที่อัปเดต และค้นคว้าเทคนิคใหม่เพื่อใช้ในการขโมย
ซึ่งในแต่ละครั้ง เขากลายเป็น “หัวขโมยเปลี่ยนหน้า” ทุกคืน หลังการโจรกรรมแต่ละครั้งสำเร็จ เขาจะฉีกหน้าและซ่อนไว้บนหญ้าใกล้ ๆ พร้อมด้วยเครื่องมือก่ออาชญากรรม ทำให้การสืบสวนของตำรวจเข้าใจผิดคิดว่าเป็นบุคคลอื่นและไม่คาดคิดว่าจะเป็นบุคคลคนเดียวกัน ก่อนจะถูกจับได้และพบหน้ากากปลอมแปลงใบหน้าในบ้านเช่าของเขาจำนวน 5 ชิ้น
งานนี้ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าอาจนำไปสู่การก่ออาชญากรรมมากยิ่งขึ้นได้ หากไม่ควบคุมการขายหน้ากากซิลิโคนที่ดูสมจริง “การทำหน้ากากอนามัยไม่ใช่เรื่องผิด สิ่งสำคัญอยู่ที่การควบคุมการใช้งาน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรประเมินความสมจริงของการใช้หน้ากากอนามัย” ทนายความหลิวเจียงจากมหาวิทยาลัยเซี่ยเหมือนกล่าว
————————————————————————————————————————————————————————–
ที่มา : ข่าวสดออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 15 ก.ค.67
Link : https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_777777833154