ประเทศแรกในโลก เกาหลีใต้เตรียมนำอาวุธเลเซอร์ใช้ในกองทัพ ตอบโต้โดรนเกาหลีเหนือ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา สำนักงานจัดซื้ออาวุธของประเทศของเกาหลีใต้ (DAPA) ประกาศเตรียมติดตั้งอาวุธเลเซอร์ภายในปีนี้ เพื่อยิงโดรนของเกาหลีเหนือ ซึ่งถือเป็นประเทศแรกของโลกที่ติดตั้งและใช้งานอาวุธประเภทนี้ในกองทัพ
โดยเกาหลีใต้เรียกโครงการอาวุธเลเซอร์ของตนว่า “โครงการสตาร์วอร์ส” ซึ่ง DAPA เผยในแถลงการณ์ว่าอาวุธเลเซอร์สำหรับยิงโดรนของกองทัพเกาหลีใต้ได้พัฒนาขึ้นร่วมกับบริษัท ฮันวา แอโรสเปซ นั้น มีประสิทธิภาพ และราคาถูก โดยมีราคานัดละ 2,000 วอน หรือราว 52 บาท ทั้งนี้ ยังโจมตีแบบเงียบ และมองไม่เห็น
“ประเทศของเรากำลังเป็นประเทศแรกในโลกที่ติดตั้งและใช้งานอาวุธเลเซอร์ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของความสามารถในการตอบสนองของกองทัพเราต่อการยั่วยุจากโดรนของเกาหลีเหนือ” DAPA ชี้แจง ทั้งนี้ ยังเรียกอาวุธเลเซอร์เหล่านี้ว่าจะเป็นปัจจัยเปลี่ยนเกมในสนามรบแห่งอนาคต โดยอาวุธเลเซอร์จะยิงโดรนที่กำลังบินด้วยการเผาเครื่องยนต์หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดอื่น ๆ ในโดรน ด้วยการยิงลำแสงใส่เป็นเวลา 10-20 วินาที
ก่อนหน้านี้ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา มีโดรน 5 ลำของเกาหลีเหนือบินข้ามเข้าไปในเกาหลีใต้ซึ่งถือเป็นการบุกรุกครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2017 ส่งผลให้ทางเกาหลีใต้ต้องส่งเครื่องบินขับไล่ และเฮลิคอปเตอร์โจมตีเป็นการตอบโต้ โดยได้ยิงโดรนจากเกาหลีเหนือตก
ทั้งนี้ การสู้รบในสงครามเกาหลีปี ค.ศ.1950-1953 สิ้นสุดลงด้วยข้อตกลงสงบศึกซึ่งนำไปสู่การก่อตั้งเขตปลอดทหาร (DMZ) ระหว่างสองเกาหลี แต่ไม่ใช่สนธิสัญญาสันติภาพอย่างเป็นทางการ ซึ่งทางการสหรัฐเผยว่า ทั้งเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ต่างละเมิดข้อตกลงสงบศึก ด้วยการส่งโดรนเข้าไปในน่านฟ้าของกันและกัน
ตามรายงานของ แรนด์ คอร์ปอเรชั่น องค์กรวิจัยไม่แสวงหากำไรของสหรัฐ เผยว่าประเทศต่างๆ รวมถึง เกาหลีใต้ จีน และสหราชอาณาจักร ต่างแข่งขันกันพัฒนาและติดตั้งอาวุธเลเซอร์
สถาบันวิจัยดังกล่าวยังได้ระบุอีกว่า มีการให้ความสนใจอย่างมากในอาวุธเลเซอร์ ในวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการต่อต้านอาวุธที่ใช้ระบบไร้คนขับ รวมถึงความเป็นไปได้ในศักยภาพของอาวุธเลเซอร์ ในการโจมตีเป้าหมายขีปนาวุธที่บินอยู่ รวมไปถึงดาวเทียมที่โคจรอยู่
————————————————————————————————————————————————————————–
ที่มา : มติชนออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 11 ก.ค.67
Link : https://www.matichon.co.th/foreign/news_4675546