สภาล่างมะกัน-หน่วยอารักขา เปิดสอบความปลอดภัยหละหลวม ปล่อยมือปืนใกล้ทรัมป์ระยะเผาขน
สำนักข่าวรอยเตอร์และเอเอฟพีรายงานว่า สมาชิกสภานิติบัญญัติของพรรครีพับลิกันจะเปิดการสอบสวนถึงการที่มีมือปืนสามารถหลบหลีกเจ้าหน้าที่หน่วยอารักขา ปีนขึ้นไปบนหลังคาของอาคารใกล้เคียงกับจุดที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐกำลังหาเสียงในรัฐเพนซิลเวเนีย เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนที่จะสาดกระสุนหลายนัดจนทำให้ทรัมป์ถูกยิงจนได้รับบาดเจ็บที่หูขวา และมีผู้ร่วมฟังการปราศรัยเสียชีวิต 1 ราย ขณะที่มือปืนถูกยิงเสียชีวิตแล้ว
นายไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐระบุว่า คณะกรรมการของสภาล่างจะเรียกตัวเจ้าหน้าที่หน่วยอารักขา กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ และสำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐอเมริกา (เอฟบีไอ) มาชี้แจงต่อคณะกรรมการในวันที่ 22 กรกฎาคมนี้
ในช่วงแรกหลังเกิดเหตุการณ์ลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ สื่อหลายสำนักได้รายงานว่ามือปืนผู้ก่อเหตุอยู่บริเวณนอกขอบเขตการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่หาเสียง ผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่งกล่าวว่า เขาพบเห็นชายถือปืนและพยายามบอกเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยอารักขาแต่ไม่เป็นผล ผู้สนับสนุนทรัมป์หลายคนได้กล่าวโจมตีหน่วยอารักขา ที่มีหน้าที่คุ้มครองความปลอดภัยของทรัมป์ในฐานะอดีตประธานาธิบดี Jack Posobiec นักเคลื่อนไหวสายอนุรักษนิยมกล่าวบนแพลตฟอร์มออนไลน์ X ว่า สไนเปอร์พร้อมปืนไรเฟิลครบชุดปีนขึ้นไปบนหลังคาอาคารที่ใกล้ตัวผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐได้อย่างไร
Kevin Rojek เจ้าหน้าที่พิเศษของเอฟบีไอกล่าวในการแถลงข่าวว่า เป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่มือปืนสามารถยิงกระสุนออกไปได้มากขนาดนั้น ด้านหน่วยอารักขากำลังสอบสวนว่ามือปืนเข้าไปใกล้พอที่จะยิงทรัมป์จนได้รับบาดเจ็บได้อย่างไร สำนักข่าวเอพีได้วิเคราะห์วิดีโอและภาพถ่ายจำนวนมาก รวมถึงภาพถ่ายดาวเทียมของจุดเกิดเหตุ พบว่ามือปืนสามารถเข้าใกล้เวทีหาเสียงของทรัมป์มาก
เอพีได้ตรวจสอบภาพวิดีโอที่เผยแพร่ในโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นร่างมือปืนใส่เสื้อสีเทานอนนิ่งอยู่บนหลังคาโรงงานทางทิศเหนือของบัตเลอร์ ฟาร์มโชว์ที่ทรัมป์ใช้เป็นพื้นที่หาเสียง อยู่ห่างจากจุดที่ทรัมป์กำลังยืนปราศรัยไม่ถึง 150 เมตร ใกล้พอที่มือยิงจะสามารถเล็งวัตถุขนาดเท่าตัวมนุษย์ได้ เอฟบีไอได้เปิดเผยชื่อมือปืนก่อเหตุแล้วคือ นายโธมัส แมทธิว ครุกส์ วัย 20 ปีชาวรัฐเพนซิลเวเนีย และลงทะเบียนเป็นรีพับลิกัน ตามข้อมูลของบันทึกผู้มีสิทธิเลือกตั้งของเพนซิลเวเนีย ด้านสื่อสหรัฐรายงานว่าผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติ AR-15 แต่ยังไม่สามารถระบุถึงมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุ
ทั้งนี้ การหาเสียงส่วนใหญ่ของทรัมป์จะมีผู้รับฟังการปราศรัยหลายพันคน จะมีการจัดงานขึ้นกลางแจ้ง และกินระยะเวลานานหลายชั่วโมง โดยจะมีตำรวจในพื้นที่ เจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาคอยรักษาความปลอดภัยในสถานที่จัดงาน รวมถึงมีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิมาช่วยงานบ้างเป็นบางครั้ง และก่อนที่การปราศรัยจะเริ่มขึ้นจะมีการตรวจหาวัตถุระเบิดหรืออาวุธอื่นๆ เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายมักตั้งแนวแบริเออร์ และให้ผู้เข้าร่วมงานทุกคนต้องเข้าเครื่องตรวจจับโลหะก่อนเข้าไปในพื้นที่ปราศรัย โดยมีเจ้าหน้าที่คุ้มกันตรวจค้นกระเป๋าและตรวจค้นอาวุธบนตัวผู้เข้าร่วมงานด้วยมือ โดยในงานหาเสียงของทรัมป์ครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่ทีมสไนเปอร์และทีมหน่วยตอบโต้การโจมตีอยู่ภายในงานด้วยเช่นกัน
นายพอล เอคลอฟฟ์ อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยอารักขากล่าวว่า เจ้าหน้าที่อาจทำการตรวจตราหลังคาอาคารใกล้เคียงก่อนเวลาเริ่มปราศรัยแล้ว แต่ผู้ก่อเหตุอาจหลบซ่อนตัวจนสามารถเริ่มทำอันตรายได้ หรืออาจไม่เป็นภัยคุกคามอันตรายจนกระทั่งหยิบอาวุธขึ้นมา
————————————————————————————————————————————————————————–
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 19 มิ.ย.67
Link : https://www.thairath.co.th/news/foreign/2794346