เจ้าหน้าที่ความมั่นคงสหรัฐฯ เผย ยกระดับการรักษาความปลอดภัยให้นายทรัมป์ ตั้งแต่หลายสัปดาห์ก่อนแล้ว หลังได้ข่าวว่าอิหร่านกำลังวางแผนสังหารอดีตประธานาธิบดีผู้นี้
สำนักข่าว บีบีซี รายงานเมื่อ 16 ก.ค. 2567 อ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ว่า หน่วยตำรวจลับและทีมหาเสียงของ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับแจ้งว่าอิหร่านกำลังมีแผนการสังหารอดีตประธานาธิบดีผู้นี้ ส่งผลให้การรักษาความปลอดภัยของเขา ถูกเพิ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อหลายสัปดาห์ก่อนแล้ว
ขณะที่แหล่งข่าวในหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ บอกกับสำนักข่าว ซีบีเอส ว่า หน่วยตำรวจลับเพิ่มการรักษาความปลอดภัยตั้งแต่เดือนมิถุนายน รวมถึงเพิ่มเจ้าหน้าที่ต่อต้านการจู่โจมและการซุ่มยิง, โดรน และหุ่นยนต์สุนัข เพื่อตอบสนองต่อภัยคุกคามจากอิหร่าน
ซีบีเอส รายงานอีกว่า เจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับแผนของอิหร่านผ่านแหล่งข่าวที่เป็นมนุษย์ และมันยังเกิดขึ้นในขณะที่ในอิหร่านมีการพูดถึงการโจมตี โดนัลด์ ทรัมป์ มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่พบการเชื่อมโยงระหว่างแผนการดังกล่าวของอิหร่าน กับการลอบยิงนายทรัมป์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา และการเปิดเผยเรื่องการเพิ่มความคุ้มครอง ยิ่งทำให้เกิดคำถามตามมามากขึ้นว่า นายโทมัส แมทธิว ครูกส์ วัย 20 ปี สามารถปีนอาคารและเข้าใกล้พอลอบยิงนายทรัมป์ได้อย่างไร
ผู้อำนวยการหน่วยตำรวจลับยอมรับว่า มีตำรวจของเมืองบัตเลอร์อยู่ภายในอาคารที่นายครูกส์ปีนขึ้นไปบนหลังคา เพื่อลอบยิงนายทรัมป์ที่อยู่ห่างออกไปเพียง 130 ม. ขณะที่ ซีบีเอส ถึงกับรายงานว่า ในอาคารมีพลซุ่มยิงของตำรวจ 3 นาย และพวกเขาเห็นนายครูกส์ขึ้นไปบนหลังคาด้วย
ทั้งนี้ นายทรัมป์กับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ หลายคน รวมถึง นายไมค์ ปอมเปโอ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ เผชิญภัยคุกคามจากอิหร่านมาตลอด นับตั้งแต่สหรัฐฯ ภายใต้การบริหารของนายทรัมป์ ส่งโดรนลอบสังหาร นายคาสซิม โซเลมานี ผู้บัญชาการระดับสูงของอิหร่าน ที่ประเทศอิหร่าน เมื่อปี 2563
ตำรวจสหรัฐฯ ยิงสังหารชายถือมีดคู่ใกล้ที่ประชุมใหญ่พรรครีพับลิกัน
เจ้าหน้าที่ตำรวจสหรัฐฯ ยิงปืนสังหารผู้ต้องสงสัยถือมีดคู่กำลังจะทำร้ายชายอีกคนใกล้ที่ประชุมใหญ่พรรครีพับลิกันในเมืองมิลวอกี รัฐวิสคอนซิน
เมื่อวันที่ 16 ก.ค. ที่ผ่านมาเป็นวันที่ 2 ของการประชุมใหญ่พรรครีพับลิกันที่เมืองมิลวอกี รัฐวิสคอนซิน ซึ่งอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เข้าร่วมด้วย หลังจากเกิดเหตุถูกลอบยิงระหว่างการปราศรัยหาเสียงที่เมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย
เหตุที่เกิดขึ้นกับทรัมป์ทำให้มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาคุ้มกันและรักษาความปลอดภัยสถานที่จัดการประชุมและบริเวณใกล้เคียง รวมถึงขอกำลังเสริมจากตำรวจเมืองอื่น ๆ มาช่วย
แต่ขณะที่กำลังมีการประชุมอยู่ กลับเกิดเหตุที่สวนคิงพาร์กซึ่งอยู่ใกล้ ๆ เมื่อชายคนหนึ่งถือมีดคู่อยู่ใกล้สถานที่จัดการประชุม และพุ่งเข้าใส่ชายอีกคนที่ไม่มีอาวุธ
นั่นทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ 5 นายจากเมืองโคลัมบัส รัฐโอไฮโอ ที่มาช่วยงานคุ้มกันตัดสินใจยิงชายถือมีดจนเสียชีวิต
เจฟฟรีย์ นอร์แมน หัวหน้าตำรวจเมืองมิลวอกีกล่าวว่า หลังเกิดเหตุ พบหลักฐานเป็นมีด 2 เล่มของผู้เสียชีวิต ขณะที่ภาพจากกล้องติดตัวตำรวจที่เผยให้เห็นว่า ขณะเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังคุยกันอยู่ ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะพูดว่า “เขามีมีด”
จากนั้นเจ้าหน้าที่หลายคนตะโกนว่า “วางมีดลง!” ขณะที่พวกเขาวิ่งไปหาชายสองคนที่ยืนอยู่บนถนน เมื่อชายถือมีดคู่เคลื่อนตัวไปหาชายที่ไม่มีอาวุธ ตำรวจจึงยิงปืนเพื่อระงับเหตุ
“ชีวิตของใครบางคนตกอยู่ในอันตราย เจ้าหน้าที่เหล่านี้ซึ่งไม่ได้มาจากพื้นที่นี้ ได้ลงมือปฏิบัติและช่วยชีวิตใครบางคนในวันนี้” นอร์แมนกล่าว
เขาเสริมว่า “เจ้าหน้าที่สังเกตเห็นผู้ต้องสงสัยซึ่งมีมีดอยู่ในมือแต่ละข้าง กำลังทะเลาะวิวาทกับบุคคลอื่นที่ไม่มีอาวุธ พวกเขาจำเป็นต้องยิงหลังจากที่ชายติดอาวุธเพิกเฉยต่อคำสั่งให้หยุด และเคลื่อนตัวเข้าหาชายที่ไม่มีอาวุธ หัวหน้ากล่าว “นี่เป็นสถานการณ์ที่ชีวิตของใครบางคนตกอยู่ในอันตราย”
อย่างไรก็ดี เหตุวิสามัญฯ นี้ทำให้เกิดความโกรธเกรี้ยวจากประชาชนที่ตั้งคำถามว่า ทำไมเจ้าหน้าที่จากรัฐอื่นจึงไปอยู่ในละแวกใกล้เคียงสถานที่จัดการประชุมใหญ่พรรครีพับลิกัน
ประชาชนและนักเคลื่อนไหวในเมืองมิลวอกีมารวมตัวกันอย่างรวดเร็วในสถานที่เกิดเหตุ หลายคนแสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับการลงมือของตำรวจที่อาจลงมือรุนแรงเพราะการประชุมของพรรครีพบลิกัน
ต่อมามีการระบุตัวผู้ที่ถูกสังหารคือ ซามูเอล ชาร์ป วัย 43 ปี
ลินดา ชาร์ป ลูกพี่ลูกน้องของชายที่ถูกสังหารกล่าว “พวกเขาเข้ามาในชุมชนของเราและยิงครอบครัวของเราเสียชีวิตที่สวนสาธารณะ” “คุณกำลังทำอะไรในเมืองของเรา”
ลินดากล่าวว่า ลูกพี่ลูกน้องของเธออาศัยอยู่ในเต็นท์ฝั่งตรงข้ามถนนจากสวนคิงพาร์ก และเจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองมิลวอกีคุ้นเคยกับผู้คนจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในเต็นท์และอาจสามารถคลี่คลายสถานการณ์ได้
เดวิด พอร์เตอร์ ซึ่งบอกว่าเขารู้จักซามูเอล รู้สึกโกรธที่เจ้าหน้าที่จากต่างเมืองมาอยู่ในละแวกบ้านของเขา “ถ้าตำรวจมิลวอกีอยู่ที่นั่น ชายคนนั้นก็จะยังมีชีวิตอยู่ในขณะนี้”
กองตำรวจโคลัมบัส ตลอดจนเสนาธิการของนายกเทศมนตรีเมืองมิลวอกี และโฆษกศูนย์บัญชาการร่วมของการประชุม ต่างกล่าวว่า ไม่มีอะไรบ่งชี้ว่าเหตุการณ์มีความเกี่ยวข้องกับการประชุมของพรรค
เรียบเรียงจาก Associated Press
————————————————————————————————————————————————————————–
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ , PPTV / วันที่เผยแพร่ 17 ก.ค.67
Link : https://www.thairath.co.th/news/foreign/2801223 , https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/228628