ไขปริศนา ทำไม “แฟลตตำรวจ” เป้าหมายคาร์บอมบ์

เป็นที่น่าสังเกตว่า “แฟลตตำรวจ” ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ กลายเป็นเป้าหมายของผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ในการนำ “คาร์บอมบ์” เข้าไปโจมตีมาแล้วหลายครั้ง

ล่าสุด 30 มิ.ย.67 เป็นเหตุการณ์ที่หน้าแฟลตตำรวจ สภ.บันนังสตา จ.ยะลา มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บมากกว่า 20 คน

ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 22 พ.ย.65 คนร้ายใช้ “คาร์บอมบ์” โจมตีบริเวณแฟลตตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส ทำให้ ร.ต.อ.สุทธิรักษ์ พันธะนิยะ รองสารวัตรจราจร สภ.เมืองนราธิวาส เสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 30 คน ที่พักข้าราชการตำรวจเสียหายยับเยิน ต้องอพยพไปอยู่สถานที่ใหม่ชั่วคราวนานนับเดือน

ย้อนกลับไปอีก วันที่ 12 มี.ค.64 คนร้ายปล้นชิงรถขนพัสดุไปรษณีย์ ของบริษัทขนส่งชื่อดังแห่งหนึ่ง แล้วนำไปบรรทุกระเบิดเป็น “คาร์บอมบ์” ก่อนนำไปจอดเตรียมจุดระเบิดบริเวณแฟลตตำรวจ หลัง สภ.รามัน จ.ยะลา แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ติดตามจนเจอรถ และกู้ระเบิดได้ก่อนอย่างหวุดหวิด จึงไม่เกิดเหตุรุนแรงขนาดใหญ่ตามมา

คำถามคือ ทำไม “แฟลตตำรวจ” ที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงกลายเป็นเป้าหมายของ “คาร์บอมบ์”

“ทีมข่าวอิศรา” สรุปข้อสันนิษฐานจากฝ่ายความมั่นคง และผู้ติดตามปัญหาชายแดนใต้มาได้ดังนี้

1.แฟลตตำรวจ เป็นสัญลักษณ์ของเจ้าหน้าที่รัฐ มีสถานะเดียวกับ “หน่วยราชการ” เป็นเหมือนตัวแทนเจ้าหน้าที่รัฐ การโจมตีแฟลตำรวจ จึงเท่ากับการโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐ หรือสถานที่ราชการ ซึ่งฝ่ายผู้ก่อความไม่สงบมองว่าเป็นศัตรู

2.แฟลตตำรวจ มีมาตรการรักษาความปลอดภัยต่ำ ความพร้อมในการป้องกันตนเองก็ไม่เข้มข้นเหมือนหน่วยทหาร หรือที่พักทหาร แฟลตตำรวจแต่ละแห่งมักไม่มีป้อมยามรักษาการณ์ หรือแม้จะมี ก็ไม่ค่อยมีเจ้าหน้าที่เฝ้า เพื่อคอยระแวดระวังภัย

3.แฟลตำรวจในต่างจังหวัด มักอยู่ใกล้กับโรงพัก ซึ่งมีรถราสัญจรเข้าออกค่อนข้างมาก และไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ตรวจสอบยากว่าเป็นรถของคนร้าย หรือผู้มาติดต่อราชการ หรือมาแจ้งความ ประกอบกับมีรถของกลางในคดีจอดทิ้งระยะยาวจำนวนมาก จึงแฝงตัวหรือนำรถอื่นไปอำพรางก่อเหตุได้ง่าย

ที่ผ่านมาเคยนำมีการนำรถยนต์ติดตั้งระเบิด หรือ “คาร์บอมบ์” ไปจอดเนียน ๆ ในลานจอดรถของกลางของ สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มาแล้ว และเกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง เมื่อวันที่ 6 พ.ค.57

4.แฟลตตำรวจตั้งอยู่ใกล้โรงพัก ด้านหลังบ้าง ตรงกันข้ามกับโรงพักบ้าง และเป็นที่ดินของตำรวจ จึงไม่ค่อยมีบ้านเรือนประชาชน การก่อเหตุแต่ละครั้ง ประชาชนจึงไม่ค่อยได้รับผลกระทบ ทำให้กลุ่มก่อความไม่สงบ ไม่เสียมวลชน

ย้อนเหตุคาร์บอมบ์พุ่งเป้า “ที่ตั้งฝ่ายรัฐ”

เหตุการณ์ลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์อย่างอุกอาจบริเวณหน้าแฟลตตำรวจ สภ.บันนังสตา จ.ยะลา จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นครูสอนตาดีกาผู้หญิงที่กำลังหาซื้ออาหารเพื่อไปทำกับข้าวให้เด็กนักเรียน และยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจกับครอบครัว รวมถึงประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่ใกล้เคียง บาดเจ็บอีก 21 รายนั้น

ถือเป็นเหตุการณ์รุนแรงอีกครั้งหนึ่งที่เกิดขึ้นในพื้นที่ และสมควรต้องถอดรหัสความเชื่อมโยง

เพราะเป็นเหตุโจมตีด้วย “คาร์บอมบ์” ซึ่งเป็นรูปแบบแผนประทุษกรรมที่ร้ายแรงที่สุดในพื้นที่ชายแดนใต้ โดยพุ่งเป้าต่ออาคารที่ตั้งของเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ว่าจะเป็นโรงพัก จุดตรวจ ฐานปฏิบัติการของกองกำลังฝ่ายความมั่นคง รวมถึงสถานที่ราชการต่าง ๆ ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เสมือนหนึ่งเป็นเป้าหมายหลักของกลุ่มผู้ก่อการร้าย

“ทีมข่าวอิศรา” จึงรวบรวมเหตุการณ์ย้อนหลังเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งผู้ก่อเหตุรุนแรงพุ่งเป้ากระทำต่อฐานปฏิบัติการ หรือที่ตั้งอาคารสถานที่ของทางราชการ ตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา

วันที่ 28 ก.พ.60 คนร้ายนำรถยนต์ประกอบเป็นคาร์บอมบ์ไปจอดใกล้ฐานปฎิบัติการ ตชด.ที่ 433 บ้านตาแปด ต.ปากบาง อ.เทพา จ.สงขลา เจ้าหน้าที่เก็บกู้ได้

วันที่ 17 ส.ค.60 คาร์บอมบ์ริมถนนหน้าบ้านพักข้าราชการตำรวจ สภ.มายอ อ.มายอ จ.ปัตตานี ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

วันที่ 8 ม.ค.62 คนร้ายลอบวางคาร์บอมบ์ริมถนนใกล้ฐาน ฉก.สงขลา กับ สภ.ห้วยปลิง ในพื้นที่ ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา ตำรวจบาดเจ็บ 2 นาย

วันที่ 31 ต.ค.62 คนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ บริเวณหน้าอาคาร สภ.ไม้แก่น หลังเก่า ในพื้นที่ ต.ไทรทอง อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

วันที่ 17 มี.ค.63 คนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ริมถนนหน้าศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ถนนสุขยางค์ ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา แรงระเบิดทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นเจ้าหน้าที่ ผู้สื่อข่าว และประชาชน รวม 25 ราย

————————————————————————————————————————————————————————–
ที่มา : สำนักข่าวอิศรา / วันที่เผยแพร่ 1 ก.ค.67
Link : https://www.isranews.org/article/south-news/south-slide/129734-carbombpastbt.html

ไขปริศนา ทำไม “แฟลตตำรวจ” เป้าหมายคาร์บอมบ์

ย้อนเหตุคาร์บอมบ์พุ่งเป้า “ที่ตั้งฝ่ายรัฐ”

Author: ผู้นำลงบทความ 01

Related posts