ผู้ประท้วงชาวบังกลาเทศจำนวนมากฝ่าฝืนมาตรการเคอร์ฟิว ออกมาร่วมการชุมนุมประท้วงอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 100 รายและบาดเจ็บอีกจำนวนมาก เป็นความท้าทายครั้งใหญ่ที่สุดสำหรับนายกรัฐมนตรี เชค ฮาซีนา นับตั้งแต่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อเดือนมกราคม อยู่ในตำแหน่งเป็นสมัยที่สี่ติดต่อกัน
สื่อบังกลาเทศรายงานว่า ในปี 2561 เคยมีการประท้วงใหญ่เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยุติระบบโควตาที่สงวนตำแหน่งงานของภาครัฐไว้ถึงร้อยละ 30 ให้กับญาติของทหารผ่านศึกที่ต่อสู้ในสงครามประกาศเอกราชในปี 2514 ถือเป็นการเลือกปฏิบัติและเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้สนับสนุนนางฮาซีนา ซึ่งพรรคอวามีลีกเป็นผู้นำการเคลื่อนไหวเพื่อเอกราช ต่อมารัฐบาลได้ยุติระบบโควตาตามข้อเรียกร้อง แต่ในเดือนมิถุนายนของปีนี้ (2567) ศาลสูงของบังกลาเทศมีคำตัดสินให้นำระบบโควตากลับมาใช้อีกครั้งตามคำร้องของญาติของทหารผ่านศึก ทำให้ผู้ประท้วงกลับมาร่วมการชุมนุมอีกครั้ง และทวีความรุนแรงมากขึ้นนับตั้งแต่วันอังคาร (16 ก.ค.67) ที่มีผู้เสียชีวิตจากการประท้วง
รัฐบาลออกคำสั่งห้ามการชุมนุมในที่สาธารณะ ปิดเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และสายสื่อสาร แต่สถานการณ์ทั่วไปยังลุกลาม ทำให้รัฐบาลออกมาตรการเคอร์ฟิวเพิ่มเติม เริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนและจะผ่อนปรนตั้งแต่เที่ยงวันถึง 14.00 น. เพื่อให้ประชาชนสามารถซื้อของใช้จำเป็น และมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่สามารถยิงใส่ผู้ประท้วงได้หากเผชิญกับสถานการณ์ร้ายแรง ซึ่งในเวลาเดียวกัน นายกรัฐมนตรีฮาซีนา ขอให้ผู้ประท้วงอยู่ในความสงบ ขณะนี้กระบวนการต่างๆ ยังอยู่ในชั้นของการพิจารณาอุทธรณ์ โดยจะมีการพิจารณาต่อในวันอาทิตย์ (21 ก.ค.) นางฮาซีนาเรียกร้องให้ผู้ประท้วงรอฟังคำตัดสินของศาล
สถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงธากาเปิดเผยว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ “หลายร้อยถึงหลายพันคน” ทั่วประเทศและสถานการณ์โดยทั่วไปมีความ “ไม่มั่นคงอย่างยิ่ง”
สื่อในบังกลาเทศ รายงานด้วยว่านักโทษราว 800 คนหลบหนีออกจากเรือนจำในนาร์ซิงดี ทางเหนือของกรุงธากา ส่วนเว็บไซต์ของรัฐบาล รวมถึงธนาคารกลางของบังกลาเทศและสำนักงานนายกรัฐมนตรี ถูกแฮ็กเกอร์โจมตี
———————————————————————————————————————————————————————————
ที่มา : จส.100 / วันที่เผยแพร่ 20 ก.ค.67
Link : https://www.js100.com/en/site/news/view/142083