ตำรวจยิงตอบโต้หลังจากมีการยิงปืนในขณะที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน กำลังกล่าวสุนทรพจน์ในงานหาเสียงที่เมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย เมื่อ 13 ก.ค. 67 (ภาพโดย สนข.AP/Gene J. Puskar)
เว็บไซต์ AP News รายงานเมื่อ 15 ก.ค.67 ว่า หน่วยอารักขาประธานาธิบดีกำลังสืบสวนว่า เมื่อ 13 ก.ค.67 มือปืน สามารถเข้าถึงพื้นที่พร้อมอาวุธปืนไรเฟิล AR-15 ในระยะที่สามารถยิงนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้อย่างไร ซึ่งถือเป็นความล้มเหลวต่อการปฏิบัติหน้าที่อย่างร้ายแรงของหน่วยงาน โดยมือปืนซุ่มยิงหลายนัดจากนอกเวทีก่อนถูกวิสามัญ และในวันต่อมาสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) สามารถระบุตัวผู้ก่อเหตุ นาย Thomas Matthew Crooks อายุ 20 ปี จากเมือง Bethel Park รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐฯ
สนข. AP ได้วิเคราะห์วิดีโอและภาพถ่ายกว่าหลายสิบภาพงานปราศรัยของนายทรัมป์ รวมถึงภาพถ่ายดาวเทียมของสถานที่ดังกล่าว พบว่ามือปืนสามารถเข้าใกล้เวทีได้อย่างน่าประหลาดใจ ผู้สื่อข่าว AP เผยถึงร่างของนาย Crooks นอนนิ่งบนหลังคาโรงงานทางทิศเหนือของพื้นที่จัดงานในบัตเลอร์ฟาร์ม นาย Crooks สวมเสื้อที่มีภาพธงชาติสหรัฐฯ สีดำที่แขนขวาและมีเลือดที่ศีรษะ ทั้งนี้ มือปืนอยู่ห่างจากจุดที่นายทรัมป์กำลังกล่าวสุนทรพจน์เพียง 150 เมตร ซึ่งเป็นระยะที่พลแม่นปืนสามารถยิงเป้าได้ โดยทหารใหม่ของสหรัฐฯ จะต้องฝึกยิงเป้าขนาดเท่าคนจริงในระยะ 150 เมตรด้วยปืนไรเฟิล M16 ซึ่งคล้ายกับปืนไรเฟิล AR-15 ที่มือปืนใช้
ที่มา: รายงานจาก สนข.AP
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สองนายขอไม่เปิดเผยชื่อ เนื่องจากไม่ได้รับอนุญาตให้พูดคุยรายละเอียดของการสืบสวน กล่าวว่า หน่วยอารักขาประธานาธิบดีใช้ทีมต่อต้านการจู่โจม ชื่อรหัสว่า “ฮอว์คอาย” (Hawkeye) มีหน้าที่คุ้มกันเจ้าหน้าที่อารักขาคนอื่นให้สามารถป้องกันตัวบุคคลสำคัญในขณะเกิดเหตุได้ และทีมต่อต้านการซุ่มยิง ชื่อรหัสว่า “เฮอร์คิวลิส” (Hercules) ใช้กล้องส่องทางไกลและปืนไรเฟิลซุ่มยิงเพื่อจัดการภัยคุกคามจากระยะไกล
นาย Alejandro Mayorkas รมว.กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ กล่าวว่า กระทรวงฯ และหน่วยอารักขาประธานาธิบดีกำลังทำงานประสานกับหน่วยงานตำรวจเพื่อสอบสวนเหตุลอบยิงดังกล่าว การรักษาความปลอดภัยผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีและกิจกรรมหาเสียงของพวกเขา ซึ่งถือเป็นหนึ่งในภารกิจที่มีความสำคัญสูงสุดของหน่วยอารักขาประธานาธิบดี
นาย Stephen Colo อดีตรอง ผอ.หน่วยอารักขาประธานาธิบดี กล่าวว่า ปกติแล้วอดีตประธานาธิบดีจะไม่ได้รับการอารักขาในระดับเดียวกันกับประธานาธิบดี เขารู้สึกประหลาดใจที่มี จนท.อารักขา รวมถึงมีทีมต่อต้านการซุ่มยิงอีกด้วย ซึ่งจะสงวนไว้สำหรับอารักขาประธานาธิบดีเท่านั้น เจ้าหน้าที่ไม่ควรอนุญาตให้ใครเข้าไปบนหลังคา ซึ่งเป็นจุดที่ได้เปรียบ ทั้งนี้ หน่วยอารักขาประธานาธิบดีจะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้นและหาคำตอบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร ความผิดพลาดดังกล่าวอาจเกิดจากเจ้าหน้าที่ละเลยหน้าที่ หรือเกิดจากข้อบกพร่องในแผนรักษาความปลอดภัย
ทั้งนี้ นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวเมื่อ 14 ก.ค.67 ว่า เขาได้สั่งการให้ตรวจสอบมาตรการรักษาความปลอดภัยในงานหาเสียงดังกล่าวอย่างอิสระ และทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัยทั้งหมดสำหรับการประชุมใหญ่แห่งชาติของพรรครีพับลิกัน (RNC) ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันที่ 15 ก.ค.67 ที่ในเมือง Milwaukee ออเดรย์ กิ๊บสัน-ชิคชิโน
เจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาประธานาธิบดีสหรัฐฯ คอยติดตามผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีพรรครีพับลิกันระหว่างการหาเสียงเมื่อวันที่ 13 ก.ค.67 ในเมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย (ภาพโดย สนข.AP/Evan Vucci)
อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน ถูกล้อมรอบด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ที่งานรณรงค์หาเสียงเมื่อวันเสาร์ที่ 13 ก.ค.67 ในเมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย (ภาพโดย สนข.AP/ Evan Vucci) .
————————————————————————————————————-
ที่มา : เว็บไซต์ AP News / วันที่เผยแพร่ 15 ก.ค.67
Link : https://apnews.com/article/secret-service-trump-rally-4e3415b1461f5acefbc8e1fadad0375b
