สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงการากัส ประเทศเวเนซุเอลา เมื่อวันที่ 9 ส.ค. ว่า มาดูโรประกาศว่า รัฐบาลของเขาดำเนินการบล็อกแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ “เอ็กซ์” พร้อมกับกล่าวหาว่า นายอีลอน มัสก์ ซึ่งเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มดังกล่าว “ยุยงปลุกปั่นความเกลียดชังและลัทธิฟาสซิสต์” ในเวเนซุเอลา
แม้คณะกรรมการการเลือกตั้งเวเนซุเอลา (ซีเอ็นอี) ประกาศให้มาดูโร เป็นผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา แต่หน่วยงานยังไม่เผยแพร่ผลการเลือกตั้งโดยละเอียดแต่อย่างใด ส่งผลให้ประเทศพันธมิตรฝ่ายซ้ายอย่างบราซิล, โคลอมเบีย และเม็กซิโก เน้นย้ำว่าจะร่วมกันเรียกร้องให้ซีเอ็นอี เปิดเผยผลการเลือกตั้งที่แท้จริง
ด้านกลุ่มสิทธิมนุษยชนหลายกลุ่มระบุว่า การประท้วงคัดค้านชัยชนะของมาดูโร ซึ่งปะทุขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 24 ราย และมีผู้ถูกจับกุมอีกหลายพันคน ขณะที่ฝ่ายค้านของเวเนซุเอลา อ้างว่าได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย และเตือนว่าอาจเกิดการอพยพครั้งใหญ่ หากมาดูโรยังอยู่ในอำนาจต่อไป
อนึ่ง ความเคลื่อนไหวล่าสุดของรัฐบาลการากัส เกิดขึ้นหลังจากช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มาดูโรได้ปะทะคารมอย่างดุเดือดกับมัสก์ ซึ่งเขากล่าวหาว่า มัสก์อยู่เบื้องหลัง “การโจมตีเวเนซุเอลา” และอาจเป็นผู้วางแผน “แฮ็กคอมพิวเตอร์” ของซีเอ็นอี
ขณะเดียวกัน มัสก์ได้ต่อว่ามาดูโรด้วยคำพูดซึ่งรุนแรงและหยาบคาบ ตลอดจนโพสต์การประกาศของสำนักงานปราบปรามยาเสพติดของสหรัฐ (ดีอีเอ) เมื่อปี 2563 เกี่ยวกับข้อหาทางอาญาต่อมาดูโร ในคดีค้ายาเสพติดด้วย
แม้บุคคลสำคัญในฝ่ายค้าน และผู้สังเกตการณ์หลายคน ยังไม่พบหลักฐาน และไม่เชื่อว่ามีการแฮ็กเกิดขึ้นจริง แต่ทางการเวเนซุเอลาทำลายระบบดังกล่าวด้วยตัวเอง เพื่อไม่ต้องเปิดเผยผลการเลือกตั้งที่แท้จริง
ตุรกีอันบล็อกอินสตาแกรม หลังระงับการเข้าถึงนาน 9 วัน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงอังการา ประเทศตุรกี เมื่อวันที่ 11 ส.ค. ว่ากระทรวงคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานของตุรกีออกแถลงการณ์ ว่าประชาชนสามารถเข้าถึง และใช้งานอินสตาแกรมได้ตามปกติ ตั้งแต่คืนวันเสาร์ที่ผ่านมา และระบุด้วยว่า การปิดกั้นการเข้าถึงแพลตฟอร์มดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค. ที่ผ่านมา มีวัตถุประสงค์ต้องการให้อีกฝ่าย “เคารพกฎหมายของตุรกี”
ทั้งนี้ ตุรกียังคงกล่าวว่า อินสตาแกรมยังคงเพิกเฉยต่อคำร้องของรัฐบาล ซึ่งต้องการให้มีการลบเนื้อหาผิดกฎหมาย “ที่เกี่ยวข้องกับการพนัน ยาเสพติด และการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก”
ด้านเมตาซึ่งเป็นบริษัทแม่ของอินสตาแกรม ปฏิเสธให้ความเห็นเกี่ยวกับการปิดกั้นอินสตาแกรมที่ยาวนานกว่า 1 สัปดาห์ แต่ยืนยันว่า ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลอังการามาตลอด โดยลบเนื้อหาที่ผิดกฎหมายไปแล้วเกือบ 2,500 รายการ นับตั้งแต่ต้นปีนี้
อย่างไรก็ตาม การปิดกั้นการเข้าถึงอินสตาแกรมของตุรกีในครั้งนี้ เกิดขึ้นภายในเวลาไม่นาน หลังนายฟาห์เรตติน อัลตุน หนึ่งในที่ปรึกษาของประธานาธิบดีเรเซป เทย์ยิป เออร์โดกัน ผู้นำตุรกี แสดงความไม่พอใจอย่างหนัก ที่อินสตาแกรม ไม่อนุญาตให้มีการโพสต์ภาพและข้อความ เพื่อแสดงความเสียใจและไว้อาลัยต่อการเสียชีวิตของนายอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำสูงสุดฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮามาส ซึ่งเสียชีวิตจากปฏิบัติการโจมตีในอิหร่าน และทุกฝ่ายพุ่งเป้าไปที่อิสราเอล
ปัจจุบัน ราว 60%-70% ของประชากรราว 65 ล้านคนในตุรกี มีบัญชีอินสตาแกรมเป็นของตัวเอง สร้างรายได้ให้แก่แพลตฟอร์มวันละประมาณ 57 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 2,009.42 ล้านบาท ) ตามข้อมูลของสมาคมอี-คอมเมิร์ซแห่งชาติตุรกี
เครดิตภาพ: AFP & GETTY IMAGES
————————————————————————————————————————————————————————–
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 9, 11 ส.ค. 67
Link : https://www.dailynews.co.th/news/3738015 , https://www.dailynews.co.th/news/3743084