ชวนทำความรู้จัก ZeroEyes บริษัทเทคโนโลยีสัญชาติอเมริกา มุ่งมั่นพัฒนาระบบ AI อัจฉริยะเพื่อป้องกันเหตุร้ายแรง ซอฟต์แวร์วิเคราะห์วิดีโออัจฉริยะ ที่สามารถตรวจจับอาวุธปืนได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
ZeroEyes บริษัทเทคโนโลยีสัญชาติอเมริกาที่ได้พัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อช่วยวิเคราะห์ภาพจากวิดีโอ โดยซอฟต์แวร์ของ ZeroEyes สามารถใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลจากกล้องวงจรปิด เพื่อส่งการแจ้งเตือนไปยังศูนย์ปฏิบัติการที่มีเจ้าหน้าที่ดูแลอยู่ตลอด 24 ชม. ชวนมาดูขั้นตอนการทำงานของเทคโนโลยีนี้กันว่าจะน่าสนใจแค่ไหน
ขั้นตอนการตรวจจับอาวุธปืนของ ZeroEyes คือหาก AI ตรวจจับได้ว่าเป็นอาวุธปืน เจ้าหน้าที่จะส่งสัญญาณเตือนพร้อมกับโทรแจ้งเหตุฉุกเฉินกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยระบบจะส่งหลักฐานซึ่งเป็นภาพบุคคลต้องสงสัยรวมถึงรายละเอียดและประเภทของอาวุธ ซึ่งนี่จะช่วยให้รับมือกับเหตุการณ์ร้ายแรง เช่น การกราดยิง ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตามสำหรับสถานที่ขนาดใหญ่ ยังมีเทคโนโลยีจาก Evolv Technology ซึ่งใช้เซ็นเซอร์วัดคลื่นระดับมิลลิเมตร พร้อมเทคโนโลยีตรวจจับปืนและอาวุธอื่น ๆ ซึ่งสามารถคัดกรองได้นับพันคน
ในปี 2022 ประเทศสหรัฐฯ ได้มีเหตุกราดยิงไปแล้วมากกว่า 300 ครั้ง ซึ่งเทคโนโลยีอาจยังไม่สามารถช่วยเหลือผู้คนได้ทั้งหมด แต่ในอนาคตเชื่อว่าเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) อาจเข้ามาทำให้ชีวิตผู้คนปลอดภัยได้มากยิ่งขึ้น
ล่าสุด สจล. ชี้ควรใช้เทคโนโลยี AI เชื่อมต่อเครือข่ายกล้อง CCTV ในกรุงเทพฯ พัฒนาระบบ SMS เพื่อแจ้งข่าวสารและเหตุฉุกเฉิน พร้อม 6 ข้อเสนอแนะในการลดปัญหาการก่อเหตุร้ายในที่สาธารณะ
รศ.ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี สจล. อธิบายว่า กรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่มีความคึกคัก เต็มไปด้วยผู้คน กิจกรรม และนักท่องเที่ยว ความปลอดภัยในที่สาธารณะจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เทคโนโลยีที่มีอยู่สามารถนำมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาความปลอดภัยได้ดังนี้
1.ใช้ AI เชื่อมต่อกล้อง CCTV นำ AI วิเคราะห์ข้อมูลจากกล้อง CCTV กว่า 50,000 ตัวในกรุงเทพฯ ตรวจจับความผิดปกติ เช่น ผู้มีพฤติกรรมน่าสงสัย พกพาอาวุธปืน แจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ได้ทันท่วงที
2.พัฒนาระบบ SMS แจ้งเตือนเหตุฉุกเฉิน ใช้ SMS แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เกิดเหตุ ลดความตื่นตระหนก ช่วยให้ผู้คนทราบแนวทางปฏิบัติ รองรับโทรศัพท์มือถือทุกระบบ ใช้งานง่าย เข้าถึงได้ทุกวัย
3.นำเทคโนโลยีแจ้งเตือนฉุกเฉินรูปแบบอื่นมาใช้ Wireless Emergency Alerts (WEA) ส่งข้อความเตือนไปยังมือถือในพื้นที่เฉพาะ, ระบบแจ้งเตือนบนป้ายสาธารณะ เช่น AMBER Alert ในสหรัฐอเมริกา, แอปพลิเคชันแจ้งเตือน เช่น FEMA, Zello
4.ออกแบบพื้นที่ปลอดภัยในอาคารและห้างสรรพสินค้า สร้างบังเกอร์ หรือจุดซ่อนตัว, กำหนดเส้นทางหลบหนี, ฝึกอบรมพนักงานและประชาชนให้รู้วิธีการ
5.ใช้ซอฟต์แวร์ AI เชื่อมต่อกล้อง CCTV ในสถานประกอบการ เฝ้าระวังบริเวณทางเข้า-ออก จอดรถ, บันทึกข้อมูล วิเคราะห์สถานการณ์, แจ้งเตือนเมื่อพบเหตุการณ์ผิดปกติ
6.ร่วมมือกันทุกภาคส่วน ครอบครัว ชุมชน สถาบันการศึกษา ภาคธุรกิจ ภาครัฐ, ดูแลสุขภาพจิต ควบคุมอาวุธปืน ป้องกันเยาวชนจากสื่อรุนแรง, พัฒนาระบบความปลอดภัย เพิ่มเทคโนโลยีแจ้งเตือน, ฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุ
ที่มา : ZeroEyes
————————————————————————————————————————————————————————–
ที่มา : Spring News / วันที่เผยแพร่ 14 ก.ค.67
Link : https://www.springnews.co.th/digital-tech/technology/851505