ความรุนแรงเพิ่มขึ้น จากเหตุผู้ประท้วงจำนวนมากปะทะกับตำรวจ ในกรุงธากา บังกลาเทศ ทำให้ตำรวจ ยิงแก๊สน้ำตาและขว้างระเบิดควัน สลายการชุมนุมที่เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีชีค ฮาซีนา ของบังกลาเทศลาออก
นางฮาซีนา ผู้นำพรรคสันนิบาตอาวามี ชนะการเลือกตั้งสมัยที่ 4 ติดต่อกันในการเลือกตั้งเมื่อเดือนม.ค.67 พรรคแกนนำฝ่ายค้าน คือ พรรคบังกลาเทศ เนชันแนลลิสต์ ปาร์ตี ประท้วงด้วยการไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งแข่งกับพรรครัฐบาล
เมื่อวันอาทิตย์ (4 ส.ค.67) ผู้ประท้วงปิดทางหลวงสายหลัก ทำให้ความรุนแรงขยายวงกว้างไปทั่วประเทศ อาซิฟ มาห์มุด ผู้นำในการรณรงค์ต่อต้าน เรียกร้องให้ผู้ประท้วงเดินขบวนในกรุงธากา ถึงเวลาแล้วสำหรับการประท้วงครั้งสุดท้าย เรียกร้องให้ประชาชนไม่ต้องจ่ายภาษีหรือค่าสาธารณูปโภค เรียกร้องให้ปิดโรงงานและการขนส่งสาธารณะทั้งหมด
นางฮาซีนา ประชุมคณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวว่า คนที่ออกมาประท้วงตามท้องถนนในเวลานี้ไม่ใช่นักศึกษา แต่เป็นผู้ก่อการร้ายที่มุ่งทำลายเสถียรภาพของประเทศ ขอเรียกร้องให้ปราบปรามผู้ก่อการร้ายเหล่านี้
กระทรวงมหาดไทยบังกลาเทศ ประกาศเคอร์ฟิวทั่วประเทศเริ่มเวลา 18.00 น. วันอาทิตย์ สำนักข่าวต่างประเทศ รายงาน ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 90 ราย บาดเจ็บอีกประมาณ 200 คน
อานีซุล ฮัก รัฐมนตรีกระทรวงกฎหมายและยุติธรรม กล่าวว่า ทางการพยายามที่จะควบคุมสถานการณ์
ด้าน ซามานตา ลาล เซน รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ไม่สามารถยอมรับเรื่องการโจมตีโรงพยาบาลได้ หลังจากคนกลุ่มหนึ่งบุกทำลายโรงพยาบาลวิทยาลัยแพทย์แห่งหนึ่งในกรุงธากา
รัฐบาลสั่งปิดระบบอินเตอร์เน็ต นับตั้งแต่เกิดกระแสการประท้วงขับไล่รัฐบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าวว่า การประท้วงของนักศึกษาเริ่มต้นจากการเรียกร้องให้ยกเลิกโควต้างานราชการเมื่อเดือนที่แล้ว แต่ปัจจุบันกลายเป็นขบวนการต่อต้านรัฐบาลในวงกว้างขึ้น
เมื่อเดือน ก.ค.67 กลุ่มนักศึกษาเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกโควตาตำแหน่งงานภาครัฐที่สงวนไว้สำหรับครอบครัวของอดีตทหารผ่านศึกที่เคยสู้รบในช่วงเรียกร้องเอกราชจากปากีสถานในปี 2514 ทำให้คนหนุ่มสาวและนักศึกษาจบใหม่หางานทำลำบาก ทำให้มีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ และ ถูกจับจำนวนมาก
ทำให้ศาลสูงสุดของบังกลาเทศ มีคำสั่งให้รัฐบาลปฏิรูประบบรับสมัครงานใหม่ โดยร้อยละ 93 ของตำแหน่งงานให้รับสมัครโดยใช้เกณฑ์วัดจากความรู้ความสามารถเป็นหลัก ให้ปรับลดโควตางานในภาครัฐสำหรับครอบครัวอดีตทหารผ่านศึกลงมาเหลือเพียงร้อยละ 5 ส่วนอีกร้อยละ 2 สงวนไว้สำหรับชนกลุ่มน้อยและผู้พิการ ทำให้สถานการณ์คลี่คลายลงพอสมควร แต่แกนนำผู้ประท้วงบางคนประกาศจะเดินหน้าประท้วงเพื่อขอให้ปล่อยแกนนำนักศึกษาที่ถูกจับไป
ชุมนุมประท้วงต่อ! นายกฯบังกลาเทศยอมลาออก-เดินทางออกนอกประเทศแล้ว
บีบีซีรายงานว่า นายกรัฐมนตรีชีค ฮาซีนา วัย 76 ปี ของบังกลาเทศลาออกแล้วในวันนี้ (5 ส.ค.) พร้อมเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ไปยังเมืองอัครตละ เมืองเอกของรัฐตริปุระ อินเดีย ประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมน้องสาว หลังเหตุชุมนุมประท้วงในกรุงธากา บังกลาเทศ นำโดยกลุ่มนักศึกษา เพื่อขับไล่รัฐบาลของนางฮาซีนา หลังบริหารประเทศมา 4 สมัย ติดต่อกันนับตั้งแต่ชนะเลือกตั้งในวันที่ 11 ม.ค.2567 มีรายงานว่า กลุ่มผู้ประท้วงหลายพันคนบุกเข้าไปยังบ้านพักประจำตำแหน่งของนางฮาซีนาในกรุงธากา และปล้นสะดมสิ่งของในบ้านพักของนายกรัฐมนตรีด้วย
ก่อนหน้านี้ เหตุปะทะกันอีกจุดหนึ่งระหว่างตำรวจกับผู้ประท้วงในย่านจาทราบารี (Jatrabari) กรุงธากา มีผู้เสียชีวิตอีก 6 ราย เบื้องต้นยังไม่มีความชัดเจนว่า ผู้เสียชีวิตเป็นผู้ประท้วงหรือตำรวจ ทำให้ตัวเลขรวมของผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 97 รายนับตั้งแต่เมื่อวานนี้ และมีเหตุปะทะในย่านชุมชนอีก 3 จุดในกรุงธากา คือ ย่านบัคชี บาซาร์,ย่านบานัสรี และย่านบาซุนธารา
การประท้วงใหญ่เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยุติระบบโควตาที่สงวนตำแหน่งงานของภาครัฐไว้ถึงร้อยละ 30 ให้กับญาติของทหารผ่านศึกที่ต่อสู้ในสงครามประกาศเอกราชในปี 2514 ถือเป็นการเลือกปฏิบัติและเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้สนับสนุนนางฮาซีนา ซึ่งพรรคอวามีลีกเป็นผู้นำการเคลื่อนไหวเพื่อเอกราช ต่อมารัฐบาลได้ยุติระบบโควตาตามข้อเรียกร้อง แต่ในเดือนมิถุนายนของปีนี้ (2567) ศาลสูงของบังกลาเทศมีคำตัดสินให้นำระบบโควตากลับมาใช้อีกครั้งตามคำร้องของญาติของทหารผ่านศึก ทำให้ผู้ประท้วงกลับมาร่วมการชุมนุมอีกครั้ง และทวีความรุนแรงมากขึ้นนับตั้งแต่วันอังคาร (16 ก.ค.67) ที่มีผู้เสียชีวิตจากการประท้วง
รัฐบาลออกคำสั่งห้ามการชุมนุมในที่สาธารณะ ปิดเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และสายสื่อสาร แต่สถานการณ์ทั่วไปยังลุกลาม ทำให้รัฐบาลออกมาตรการเคอร์ฟิวเพิ่มเติม
จนถึงขณะนี้ ตำรวจและทหารซึ่งสนธิกำลังเข้ามาดูแลความสงบ ประจำอยู่ตามสี่แยกต่าง ๆในกรุงธากา มีการเรียกตรวจยานพาหนะเช่น รถที่แล่นผ่าน และใช้ลวดกั้นปิดจราจรบนถนนหลายแห่ง เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในสถานที่สำคัญ ๆ รวมทั้ง มหาวิทยาลัยกรุงธากา สำนักงานของสถานีโทรทัศน์บังกลาเทศ เทเลวิชั่น และบริษัทรถไฟใต้ดินในกรุงธากา ตลอดถึงสถานีตำรวจต่างๆเนื่องจากอาจเป็นเป้าหมายการการโจมตีจากผู้ประท้วง พร้อมสั่งตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ตและสัญญาณโทรศัพท์มือถือ เพื่อไม่ให้ผู้ประท้วงใช้สื่อออนไลน์นัดรวมพล เพื่อต่อต้านรัฐบาล
ท้องถนนส่วนใหญ่ในกรุงธากาแทบจะไม่มีผู้คนสัญจร มีรถลากและรถจักรยายนต์ไม่กี่คัน แทบจะไม่มีรถยนต์แล่นตามท้องถนน ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้ประท้วงหลายพันคน ซึ่งมีกลุ่มนักศึกษาเป็นแกนนำนัดชุมนุมกันอีกในเวลา 14.00น.ของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อเดินขบวนมุ่งหน้าไปยังย่านชาห์บักห์ (Shahbagh) ใจกลางกรุงธากา
นายซาเย็ม ฟารุก หนึ่งในแกนนำนักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงธากา คาดว่า ประชาชนจากหลายสาขาอาชีพทั้งในกรุงธากาและจากพื้นที่ชานเมืองจะเดินทางมาสมทบกับกลุ่มนักศึกษาหลายพันในกรุงธากาในวันนี้ ขณะเดียวกัน โรงเรียน วิทยาลัย หน่วยงานรัฐและศาลปิดทำการ อีกทั้งไม่มีระบบขนส่งสาธารณะ เช่น รถประจำทางในวันนี้
กองทัพบังกลาเทศหารือ ประธานาธิบดีตั้งรัฐบาลเฉพาะกาล หลังนายกฯ ลาออกหลบหนีออกนอกประเทศ
พลเอกเวเกอร์ อุซซามาน ผู้บัญชาการกองทัพบังกลาเทศ ประกาศในวันนี้ว่า ทางกองทัพจะจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลขึ้นเพื่อบริหารประเทศ หลังการลาออกของนางชีค ฮาสินา นายกรัฐมนตรี บังกลาเทศ
ทั้งนี้ พลเอกซามานกล่าวว่า เขาจะเข้าพบนายโมฮัมเหม็ด ชาฮาบุดดิน ประธานาธิบดีบังกลาเทศ รวมทั้งเชิญผู้นำทางการเมืองเข้าประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาล โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในคืนนี้
สื่อรายงานว่า นางฮาสินาได้ลาออกจากตำแหน่ง พร้อมกับหลบหนีไปยังอินเดีย หลังจากที่ประชาชนได้ลุกฮือชุมนุมประท้วงขับไล่รัฐบาล ท่ามกลางความไม่พอใจเกี่ยวกับการสงวนโควตาตำแหน่งงานในภาครัฐจำนวน 30% สำหรับลูกหลานของ “นักต่อสู้เพื่ออิสรภาพ” ในปี 2514 และอีก 26% สำหรับ “กลุ่มเปราะบาง” ขณะที่ผู้ประท้วงกล่าวโจมตีว่า ระบบโควตาดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อผู้สนับสนุนรัฐบาลเท่านั้น
อย่างไรก็ดี แม้ว่าต่อมาศาลฎีกามีคำสั่งให้ลดโควตาสงวนตำแหน่งงานในภาครัฐสำหรับกลุ่มคนประเภทต่าง ๆ ให้เหลือเพียง 7% จากเดิมกำหนดอยู่ที่ 56% แต่การชุมนุมประท้วงก็ยังคงมีความรุนแรง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 91 ราย และบาดเจ็บอีกหลายร้อยราย
————————————————————————————————————————————————————————–
ที่มา : จ.ส.100 / วันที่เผยแพร่ 5 ส.ค.67
Link : https://www.js100.com/en/site/news/view/142525 , https://www.js100.com/en/site/news/view/142544 , https://www.js100.com/en/site/news/view/142549