ชายชาวปากีสถานรายหนึ่งถูกจับกุมหลังพยายามวางแผนลอบสังหาร “ทรัมป์” และเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลสหรัฐฯ ไม่พบเกี่ยวข้องคดีลอบยิงทรัมป์ที่เพนซิลเวเนีย
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ได้ตั้งข้อกล่าวหาชายชาวปากีสถานคนหนึ่งซึ่งมีสายสัมพันธ์กับรัฐบาลอิหร่าน ฐานวางแผนพยายามลอบสังหารนักการเมือง โดยเจ้าหน้าที่สอบสวนเอฟบีไอเชื่อว่า เป้าหมายของแผนการนี้มีทั้ง “โดนัลด์ ทรัมป์” และเจ้าหน้าที่ในปัจจุบันและอดีตเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลสหรัฐฯ
ตามข้อกล่าวหาที่อัยการของรัฐบาลกลางยื่นฟ้องในบรูกลิน ระบุว่า อาซิฟ เมอร์แชนต์ วัย 46 ปี ถูกกล่าวหาว่า เดินทางไปกรุงนิวยอร์กซิตีและติดต่อมือปืน เพื่อลอบสังหาร “เป้าหมาย” ในช่วงปลายเดือน ส.ค. หรือต้นเดือน ก.ย.
อัยการกล่าวว่า เมอร์แชนต์ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 12 ก.ค. ขณะเตรียมตัวเดินทางออกจากสหรัฐฯ โดยก่อนหน้านั้น เมอร์แชนต์เดินทางมาถึงนิวยอร์กซิตีในเดือน เม.ย. และตั้งใจจะจ้างมือปืนที่จะลอบสังหารเจ้าหน้าที่บนแผ่นดินสหรัฐฯ โดยแม้ว่าเมอร์แชนต์จะเป็นคนสัญชาติปากีสถาน แต่ทางอัยการกล่าวว่า เขาเคยใช้เวลาอยู่ที่อิหร่านและมีครอบครัวอยู่ที่นั่น
เมื่อมาถึงสหรัฐฯ เมอร์แชนต์ได้ติดต่อใครบางคนซึ่งเขาเชื่อว่าจะช่วยเหลือเขาในการวางแผนจ้างวานฆ่าได้ อย่างไรก็ตาม บุคคลดังกล่าวได้ติดต่อเอฟบีไอและเริ่มทำงานให้กับผู้สืบสวนในฐานะสายข่าว
อัยการกล่าวว่า เมอร์แชนต์ได้พบกับสายข่าวดังกล่าวในช่วงต้นเดือน มิ.ย. และกล่าวว่า เขาต้องการหาคนในนิวยอร์กเพื่อทำ 3 สิ่ง ได้แก่ ขโมยเอกสารหรือยูเอสบีไดรฟ์จากบ้านของเหยื่อรายหนึ่ง, วางแผนประท้วงในการชุมนุมทางการเมือง และลอบสังหาร
เมอร์แชนต์บอกกับสายข่าวว่า งานนี้ไม่ใช่โอกาสเพียงครั้งเดียว และยื่นมือทำท่า “ยิงปืน” ด้วยมือของเขาเอง
ในระหว่างการประชุมวางแผน เมอร์แชนต์ยังพูดถึง “กลุ่ม” ซึ่งเขาทำงานด้วย และเริ่มวางแผนสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น และถามสายข่าวด้วยว่า ต้องทำอย่างไรบุคคลที่ได้รับการอารักษาอยู่โดยรอบจึงจะเสียชีวิต
ต่อมาในเดือนนั้น เมอร์แชนต์ได้เข้าพบกับเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายนอกเครื่องแบบที่ปลอมตัวเป็นมือปืน และกล่าวว่า เขาต้องการให้ฆ่า “บุคคลทางการเมืองในช่วงปลายเดือน ส.ค. หรือต้นเดือน ก.ย.” และได้จัดเตรียมเงินค่าจ้างล่วงหน้าไว้ 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 178,000 บาท) สำหรับการลอบสังหารครั้งนี้
นอกจากนี้ เขายังกล่าวกับมือปืนให้ติดต่อสื่อสารเกี่ยวกับแผนการของพวกเขาด้วยรหัส โดยบอกว่า “คำว่า ‘เสื้อยืด’ จะหมายถึง ‘การประท้วง’ ส่วนคำว่า ‘เสื้อฟลานเนล’ จะหมายถึง ‘การขโมย’ และคำว่า ‘เสื้อแจ็กเก็ตขนแกะ’ จะหมายถึง ‘การสังหารเป้าหมาย’
อัยการกล่าวว่า เมอร์แชนต์วางแผนที่จะออกจากสหรัฐฯ ก่อนที่เป้าหมายจะถูกลอบสังหาร แต่ถูกจับกุมเสียก่อน ขณะนี้เขาถูกควบคุมตัวอยู่ในความควบคุมตัวของรัฐบาลกลาง
เมอร์แชนต์กล่าวว่า เขาต้องการกำหนดเป้าหมายบุคคลในสหรัฐฯ ที่กำลัง “ทำร้ายปากีสถานและโลกมุสลิม]” และเสริมว่า “พวกเขาไม่ใช่คนธรรมดา”
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ไม่พบหลักฐานที่แสดงว่า เมอร์แชนต์มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีพยายามลอบสังหารอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันที่ 13 ก.ค. ที่เมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย
เอฟบีไอเชื่อว่า สามารถขัดขวางแผนการของเมอร์แชนท์ก่อนที่จะมีการโจมตีใด ๆ และในช่วงไม่กี่สัปดาห์นับตั้งแต่ที่เขาถูกจับกุม เขาได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่สืบสวน แต่การที่รัฐบาลอิหร่านขู่คุกคามทรัมป์อย่างเปิดเผย ทำให้เอฟบีไอต้องส่งต่อข้อมูลข่าวกรองดังกล่าวไปยังหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ ซึ่งช่วยเพิ่มระดับการคุ้มครองความปลอดภัยให้กับอดีตประธานาธิบดี
อัยการกล่าวว่า ในแผนการของเมอร์แชนต์ เขาต้องการมือลอบสังหาร ผู้หญิงที่จะทำหน้าที่ดูลาดเลา และคนประมาณ 25 คนที่จะทำหน้าที่เบี่ยงเบนความสนใจหลังจากเกิดเหตุฆาตกรรม
อย่างไรก็ตาม ทนายความของเมอร์แชนต์ปฏิเสธว่า เขาไม่ได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ โดยระบุว่าคำกล่าวอ้างนั้น “ไม่ถูกต้อง” และ “ไม่มีความรับผิดชอบ”
รัฐบาลสหรัฐฯ ได้แสดงความกังวลซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าอิหร่านอาจพยายามตอบโต้การโจมตีด้วยโดรนของสหรัฐฯ ในปี 2020 ซึ่งสังหาร พลเอก กัสเซม โซเลมานี นายพลระดับสูงของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน (IRGC) ด้วยการพยายามลอบสังหารทรัมป์หรืออดีตที่ปรึกษาของเขา
ด้านโฆษกของคณะผู้แทนถาวรของอิหร่านประจำสหประชาชาติ กล่าวว่า “เราไม่ได้รับรายงานใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้จากรัฐบาลสหรัฐฯ … อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่าวิธีดำเนินการดังกล่าวขัดแย้งกับนโยบายของรัฐบาลอิหร่านในการดำเนินคดีกับฆาตกรที่สังหารนายพลโซไลมานี”
อัยการสหรัฐฯ เคยตั้งข้อกล่าวหาบุคคลอื่นในความพยายามลอบสังหารในลักษณะเดียวกันมาแล้วหลายครั้ง รวมถึงข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้นในปี 2022 ต่อชายชาวอิหร่านวัย 45 ปีและสมาชิก IRGC ซึ่งถูกกล่าวหาว่าพยายามจ่ายเงิน 300,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับบุคคลในสหรัฐฯ เพื่อสังหาร จอห์น โบลตัน อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ ในกรณีดังกล่าว อัยการกล่าวหาว่าแผนการดังกล่าว “น่าจะเกิดขึ้นเพื่อตอบโต้” การเสียชีวิตของโซเลมานี
อัยการสูงสุด เมอร์ริก การ์แลนด์ กล่าวว่า สหรัฐฯ “จะไม่ยอมให้ระบอบเผด็จการพยายามลอบสังหารเจ้าหน้าที่สาธารณะของสหรัฐฯ และก่อให้เกิดอันตรายต่อความมั่นคงของชาติของสหรัฐฯ”
เรียบเรียงจาก CNN
————————————————————————————————————————————————————————–
ที่มา : PPTV / วันที่เผยแพร่ 7 ส.ค.67
Link : https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/230059
