รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศแผนจะเปิดตัวระบบอนุญาตเข้าประเทศอิเล็กทรอนิกส์ ให้นักเดินทางจากประเทศฟรีวีซ่า รวมถึงไทย ต้องกรอกข้อมูลออนไลน์ก่อนเข้าประเทศ
ประเทศไทยเป็น 1 ใน 71 ประเทศ/ภูมิภาคที่ได้รับการยกเว้นวีซ่าจากญี่ปุ่น ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปญี่ปุ่นได้ง่ายเพราะไม่ต้องขอวีซ่า ส่งผลให้ในช่วงที่ผ่านมา มีคนไทยจำนวนมากขึ้นเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น ประกอบกับเงินเยนอ่อนค่า และคนเที่ยวเกาหลีใต้น้อยลงจากระบบตรวจคนเข้าเมืองที่เข้มงวด
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้กำลังจะเปลี่ยนไปในอนาคต เนื่องจากรัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศแผนที่จะเปิดตัวระบบอนุญาตเข้าประเทศใหม่ ซึ่งจะกำหนดให้ผู้มาเยือนจากประเทศที่ฟรีวีซ่าต้องแจ้งข้อมูลส่วนบุคคลทางออนไลน์ก่อนเข้าประเทศ
ระบบใหม่นี้ทำงานในลักษณะเดียวกับ ESTA ระบบอนุญาตการเดินทางทางอิเล็กทรอนิกส์ของสหรัฐฯ ซึ่งนำมาใช้กับนักท่องเที่ยวจากประเทศที่ได้รับฟรีวีซ่าเช่นกัน เป็นมาตรการต่อต้านการก่อการร้าย
สำหรับระบบใหม่ของญี่ปุ่น ซึ่งรัฐบาลได้ตั้งชื่อชั่วคราวว่า JESTA ก็จะคัดกรองผู้มาเยือนก่อนเข้าประเทศโดยใช้ระบบออนไลน์ที่คล้ายกัน
รัฐบาลญี่ปุ่นกล่าวว่า เป้าหมายของระบบใหม่คือ การลดจำนวนผู้อพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายที่เดินทางมาญี่ปุ่นจากประเทศและภูมิภาคที่ได้รับยกเว้นวีซ่าและอยู่เกินระยะเวลาพำนักซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่าง 14-90 วัน ขึ้นอยู่กับหนังสือเดินทาง
ภายใต้ระบบปัจจุบัน สายการบินระหว่างประเทศจะเป็นผู้ให้ข้อมูลผู้โดยสารแก่รัฐบาลเพื่อใช้ในการคัดกรองในช่วงสั้น ๆ หลังจากเครื่องขึ้น ซึ่งหมายความว่า นักเดินทางที่ไม่ผ่านการคัดกรองยังคงเดินทางมาถึงญี่ปุ่น และแม้ว่าพวกเขาจะได้รับคำสั่งอย่างเป็นทางการให้ออกจากประเทศ แต่หลายคนไม่ทำเช่นนั้น
ตามข้อมูลของรัฐบาล จำนวนผู้คนที่ใช้ระบบในทางที่ผิดและอยู่ในประเทศอย่างผิดกฎหมายนั้นมีอยู่มาก โดยในเดือน ม.ค. 2024 จากนักท่องเที่ยวระยะสั้น 49,801 รายที่อยู่เกินเวลาอย่างผิดกฎหมาย พบว่ามากกว่า 28,000 รายมาจากประเทศและภูมิภาคที่ยกเว้นวีซ่า
JESTA จะกำหนดให้ชาวต่างชาติที่ยกเว้นวีซ่าต้องแจ้งจุดประสงค์ในการเข้าประเทศและสถานที่พำนักทางออนไลน์ เพื่อให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองตรวจสอบก่อนเดินทาง
หากข้อมูลถูกระบุว่ามีความเสี่ยงที่จะพำนักอย่างผิดกฎหมาย จะไม่มีการอนุมัติการเดินทางที่จำเป็นในการออกจากประเทศ และจะแนะนำให้ผู้เดินทางขอวีซ่าอย่างเป็นทางการผ่านสถานทูตในพื้นที่แทน
เมื่อระบบนี้เปิดใช้งาน ผู้เดินทางจากประเทศและภูมิภาคที่ยกเว้นวีซ่า 71 แห่งต่อไปนี้จะต้องแจ้งรายละเอียดของตนโดยใช้ JESTA
– อันดอร์รา
– อาร์เจนตินา
– ออสเตรเลีย
– ออสเตรีย
– บาฮามาส
– บาร์เบโดส
– เบลเยียม
– บราซิล
– บรูไน
– บัลแกเรีย
– แคนาดา
– ชิลี
– คอสตาริกา
– โครเอเชีย
– ไซปรัส
– สาธารณรัฐเช็ก
– เดนมาร์ก
– สาธารณรัฐโดมินิกัน
– เอลซัลวาดอร์
– เอสโตเนีย
– ฟินแลนด์
– ฝรั่งเศส
– เยอรมนี
– กรีซ
– กัวเตมาลา
– ฮอนดูรัส
– ฮ่องกง
– ฮังการี
– ไอซ์แลนด์
– อินโดนีเซีย
– ไอร์แลนด์
– อิสราเอล
– อิตาลี
– ลัตเวีย
– เลโซโท
– ลิกเตนสไตน์
– ลิทัวเนีย
– ลักเซมเบิร์ก
– มาเก๊า
– มาเลเซีย
– มอลตา
– มอริเชียส
– เม็กซิโก
– โมนาโก
– เนเธอร์แลนด์
– นิวซีแลนด์
– มาซิโดเนียเหนือ
– นอร์เวย์
– ปานามา
– โปแลนด์
– โปรตุเกส
– กาตาร์
– สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้)
– โรมาเนีย
– ซาน มาริโน
– เซอร์เบีย
– สิงคโปร์
– สโลวาเกีย
– สโลวีเนีย
– สเปน
– ซูรินามี
– สวีเดน
– สวิตเซอร์แลนด์
– ไต้หวัน
– ไทย
– ตูนิเซีย
– ตุรกี
– สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
– สหราชอาณาจักร
– สหรัฐอเมริกา
– อุรุกวัย
รัฐบาลมีแผนที่จะนำระบบ JESTA มาใช้ภายในปี 2030 นอกจากนี้ จะมีการเปิดตัวระบบอื่นในลักษณะทดลองใช้ในปีงบประมาณนี้ โดยข้อมูลผู้โดยสารจะถูกส่งไปยังสำนักงานบริการตรวจคนเข้าเมืองหลังจากขั้นตอนการขึ้นเครื่องเสร็จสิ้นแล้ว
ข้อมูลเหล่านี้จะถูกตรวจสอบกับ “บัญชีดำ” รวมถึงชาวต่างชาติที่ต้องจับตาและผู้ที่มีประวัติอาชญากรรม ซึ่งจากนั้นจะแจ้งให้สายการบินทราบเพื่อปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่องและป้องกันไม่ให้บุคคลเหล่านี้เดินทางไปญี่ปุ่น
แม้ว่า JESTA จะออกแบบมาเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับประเทศญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยว แต่ก็อาจสร้างความปวดหัวให้กับนักท่องเที่ยวที่เคยชินกับความสะดวกในการเดินทางเข้าประเทศภายใต้ข้อตกลงยกเว้นวีซ่า
———————————————————————————————
ที่มา : PPTV / วันที่เผยแพร่ 29 ส.ค.67
Link: https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/231510