การอพยพย้ายถิ่นฐาน เป็นปัญหาอันดับหนึ่งที่ชาวสหราชอาณาจักรถือว่า “มีความสำคัญมากที่สุด” เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2559 หลังเกิดเหตุจลาจลในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งมุ่งเป้าไปที่ชาวมุสลิมและผู้อพยพ
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ว่า ดัชนีปัญหารายเดือน ที่จัดทำโดยศูนย์วิจัยอิปซอส ประจำเดือน ส.ค. เผยให้เห็นว่า ชาวสหราชอาณาจักรในสัดส่วนประมาณ 34% ระบุว่า การอพยพย้ายถิ่นฐานเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดของประเทศ
รองลงมาคือ ปัญหาด้านสาธารณสุข, เศรษฐกิจ, อาชญากรรม, ภาวะเงินเฟ้อ และความสัมพันธ์ทางเชื้อชาติ ซึ่งอยู่ที่ 30%, 29%, 25%, 20% และ 11% ตามลำดับ
ทั้งนี้ สหราชอาณาจักรมีอัตราการย้ายถิ่นฐานสุทธิ ซึ่งเป็นความแตกต่างระหว่างจำนวนคนที่เข้าประเทศ กับคนที่ออกจากประเทศ แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 764,000 คน เมื่อปี 2565 ก่อนลดลงเล็กน้อยเหลือ 685,000 คนในปีถัดมา
อิปซอส ระบุว่า ความกังวลของสาธารณชนเกี่ยวกับการย้ายถิ่นฐาน เพิ่มขึ้นหลังเกิดการจลาจลในเมืองต่าง ๆ ของสหราชอาณาจักร ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านการอพยพ พุ่งเป้าโจมตีโรงแรมที่พักของผู้ขอลี้ภัย และมัสยิดหลายแห่งในประเทศ
“ผลกระทบของการจลาจลครั้งล่าสุดทั่วสหราชอาณาจักร มีความชัดเจนในข้อมูลของเดือนนี้ ซึ่งระดับความกังวลเกี่ยวกับอาชญากรรม และความสัมพันธ์ทางเชื้อชาติ ก็พุ่งสูงในช่วงที่ผ่านมาเช่นกัน” นายไมค์ คลีเมนซ์ นักวิจัยของอิปซอส กล่าวทิ้งท้าย
เครดิตภาพ : AFP
————————————————————————————————————————————————————————–
ที่มา : เดลินิวส์ออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 18 ส.ค.67
Link : https://www.dailynews.co.th/news/3765964/
