นางอลิซ กัว อดีตนายกเทศมนตรีฟิลิปปินส์ ที่หลบหนีการจับกุมมาหลายสัปดาห์ หลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็นสายลับให้กับจีน ถูกจับกุมตัวแล้วในอินโดนีเซีย
นางอลิซ กัว อดีตนายกเทศมนตรีฟิลิปปินส์ ที่หลบหนีการจับกุมมาหลายสัปดาห์ หลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็นสายลับให้กับจีน ถูกจับกุมตัวแล้วในอินโดนีเซีย แถลงการณ์ของกระทรวงยุติธรรมฟิลิปปินส์ระบุว่า ทางการอินโดนีเซียแจ้งยืนยันว่า ขณะนี้นางอลิซ กัว ถูกควบคุมตัวไว้โดยตำรวจอินโดนีเซีย เธอถูกจับกุมได้ช่วงใกล้เที่ยงคืนวันอังคาร (3 ก.ย.) ในเมืองตังเกอรัง จังหวัดบันเติน ทางตะวันตกของกรุงจาการ์ตา
ทางการฟิลิปปินส์ได้ติดตามตัวนางอลิซ กัว ไปใน 4 ประเทศ นับตั้งแต่เธอหายตัวไปเมื่อเดือนกรกฎาคม หลังจากการสืบสวนเกี่ยวกับกิจกรรมทางอาญาที่เธอถูกกล่าวหา นางกัวเป็นที่ต้องการตัวของวุฒิสภาฟิลิปปินส์ เนื่องจากปฏิเสธที่จะเข้าร่วมการสอบสวนของรัฐสภาเกี่ยวกับความเกี่ยวข้องทางอาญา ซึ่งเธอปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยยืนกรานว่าเธอเป็นพลเมืองฟิลิปปินส์โดยกำเนิด ที่ถูกกล่าวหา “โดยมีประสงค์ร้าย”
เธอถูกกล่าวหาว่าให้การคุ้มครองธุรกิจคาสิโนออนไลน์ ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการหลอกลวงและขบวนการค้ามนุษย์ในเมืองบัมบัน ซึ่งเป็นเมืองที่เธอเคยดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรี หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในฟิลิปปินส์ รวมถึงคณะกรรมการต่อต้านการฟอกเงิน ได้ร่วมกันยื่นฟ้องนางกัว และพวกจำนวน 35 คน ต่อกระทรวงยุติธรรมเมื่อเดือนสิงหาคม ในข้อหาเกี่ยวกับการฟอกเงินหลายกระทง คณะกรรมการฯ กล่าวหาว่า เธอและพวกฟอกเงินมากกว่า 100 ล้านเปโซ (ราว 60.55 ล้านบาท) ที่ได้จากการกระทำผิดกฎหมาย นางกัวปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์กล่าวว่ากำลังประสานงานกับเจ้าหน้าที่อินโดนีเซียเพื่อส่งตัวเธอกลับฟิลิปปินส์โดยเร็วที่สุด
นางกัวอ้างว่า เธอเติบโตมาในฟาร์มของครอบครัวกับพ่อชาวจีนและแม่ชาวฟิลิปปินส์ และได้รับการศึกษาจากที่บ้าน หรือโฮมสคูล บันทึกการศึกษาที่วุฒิสมาชิกพบยังดูเหมือนจะขัดแย้งกับคำกล่าวอ้างของเธอเกี่ยวกับสถานที่ที่เธอได้รับการศึกษา จากนั้นคณะกรรมการการเลือกตั้งก็พบว่าลายนิ้วมือในบันทึกการเลือกตั้งของเธอ ตรงกับลายนิ้วมือของพลเมืองจีน วุฒิสมาชิกคนหนึ่งกล่าวหาในระหว่างการพิจารณาคดี ระบุว่าเธอชื่อ กัว หัวผิง และเป็นสายลับที่คอยให้การคุ้มครองแก๊งอาชญากร ซึ่งต่อมาทำให้พี่สาวของเธอถูกจับกุมและสอบปากคำโดยวุฒิสภาฟิลิปปินส์
การสอบสวนของวุฒิสภาเกี่ยวกับกิจกรรมต่าง ๆ ของเธอ เริ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคม หลังจากเจ้าหน้าที่บุกเข้าตรวจค้นคาสิโนในเมืองบัมบัน ในเดือนมีนาคม และสามารถเปิดโปงสิ่งที่เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายกล่าวว่าเป็นการกระทำที่ฉ้อฉล ที่ดำเนินการจากสิ่งปลูกสร้างที่สร้างบนที่ดินที่นางกัวเป็นเจ้าของบางส่วน
เจ้าหน้าที่พบคนงานประมาณ 1,000 คน รวมถึงเหยื่อการค้ามนุษย์ พร้อมด้วยวิลล่าหรู รถยนต์ระดับไฮเอนด์ และเหล้าคอนยัคราคาแพง
เจ้าหน้าที่เชื่อว่า นางกัวแอบเดินทางผ่านการตรวจคนเข้าเมืองในเดือนกรกฎาคม และขึ้นเรือหลายลำข้ามประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ เพื่อมุ่งหน้าไปยังอินโดนีเซีย โดยใช้หนังสือเดินทางฟิลิปปินส์ ซึ่งเธอถูกจับกุมเมื่อวันอังคาร
แม้ว่าธุรกิจคาสิโนออนไลน์ หรือ Philippine Offshore Gaming Operators (โปโก) ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินการในฟิลิปปินส์ ซึ่งเสนอบริการการพนันออนไลน์ให้กับตลาดนอกประเทศ จะไม่ผิดกฎหมาย แต่ก็เริ่มถูกเปิดโปงว่าเป็นการดำเนินการเพื่อปกปิดอาชญากรรมอื่นๆ โดยบริษัทต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่ให้บริการลูกค้าชาวจีนแผ่นดินใหญ่ สามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่น ภายใต้การนำของอดีตประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ซึ่งต้องการสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองที่ใกล้ชิดกับทางการจีน
แต่ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ผู้นำคนปัจจุบัน ได้เปลี่ยนทิศทางนโยบายต่างประเทศของฟิลิปปินส์ และปราบปรามอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับโปโก ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในปี 2565
ที่มา BBC
————————————————————————————————————————————————————————–
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 4 ก.ย.67
Link : https://www.thairath.co.th/news/foreign/2812446