เป็นที่ทราบกันดีว่าสถานการณ์ ‘โจรล้วงกระเป๋า’ ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลกระทบอย่างยิ่งต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวในยุโรป ทำให้ที่ผ่านมามีหลายภาคส่วนพยายามทำการศึกษาปัญหาดังกล่าวเพื่อนำไปสู่การแก้ไขและป้องกันการโจรกรรมในหมู่นักท่องเที่ยว (แม้จะมีเสียงบ่นว่าตำรวจไม่เอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้สักทีก็ตาม)
ล่าสุดเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา บริษัท ‘Quotezone’ บริษัทประกันภัยสัญชาติอังกฤษก็ได้ทำการรวบรวม-วิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับอัตราการล้วงกระเป๋าในประเทศต่างๆ จนออกมาเป็น ‘European Pickpocketing Index’ หรือ ที่ระบุว่า ประเทศใดบ้าง 10 ลำดับที่มีอัตราการล้วงกระเป๋ามากที่สุดในยุโรป
แน่นอนว่าประเทศที่มาเป็นอันดับ 1 ในดัชนีนี้ก็หนีไม่พ้น ‘อิตาลี’ ประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องโจรชุกชุมตลอดกาล โดยมีอัตราล้วงกระเป๋าพุ่งไปที่ 478 ครั้งต่อนักท่องเที่ยว 1 ล้านคน เพิ่มขึ้นเป็น 3 เปอร์เซ็นต์ จากปีที่ผ่านมา และจุดที่มีการล้วงกระเป๋ามากที่สุดนั้น ก็คือบริเวณน้ำพุเทรวี (Trevi Fountain) ในกรุงโรม ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวหนาแน่นกว่า 18,000 คนต่อชั่วโมง ทำให้พื้นที่นี้มีง่ายต่อการก่อเหตุ ส่วนสถานที่มีการล้วงกระเป๋ารองลงมาในโรม ได้แก่ โคลอสเซียม และวิหารแพนธีออน ตามลำดับ และไม่เพียงแค่โรม ดัชนียังระบุว่า สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองอื่นๆ ของอิตาลียังตกเป็นเป้าของการก่อเหตุ มหาวิหารดูโอโมในมิลาน และหอศิลป์อุฟฟิซีในเมื่องฟลอเรนซ์
อันดับที่ 2 ‘ฝรั่งเศส’ สำหรับประเทศนี้แทนที่จะมีเคสล้วงกระเป๋ากระจายอยู่ทั่วประเทศแบบอิตาลี กลับมีกรณีการโจรกรรมกระจุกตัวอยู่แค่ในปารีสซึ่งเป็นเมืองหลวง โดยมีอัตราล้วงกระเป๋าที่ 251 ครั้งต่อนักท่องเที่ยว 1 ล้านคน โดยส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นบริเวณหอไอเฟล และสถานที่สำคัญรอบๆ อย่างประตูชัย มหาวิหารนอเทรอดาม และพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์
อันดับที่ 3 ‘ประเทศสเปนและเยอรมนี’ ครองตำแหน่งร่วมกัน (แต่ถ้าวัดจากอัตราที่เพิ่มขึ้นจากปี 2023 เยอรมนีจะอยู่อันดับที่ 4) โดยสเปนและเยอรมนีมีอัตราการล้วงกระเป๋าเท่ากันที่ 111 ครั้งต่อนักท่องเที่ยว 1 ล้านคน ในสเปน สถานที่ที่มีการล้วงกระเป๋ามากที่สุดก็คือถนนคนเดิน ‘ลารัมบลา’ (La Rambla) ในเมืองบาร์เซโลนา ในขณะที่ในเยอรมนีจะเป็นริเวณประตู ‘บรันเดนบวร์ก’ (Brandenburg Gate) ในกรุงเบอร์ลิน
อันดับที่ 4 ‘เนเธอร์แลนด์’ ประเทศที่ดูเหมือนจะไม่มีอันตรายอะไร แต่ภายในเมืองกลับมีอัตราโจรล้วงกระเป๋าถึง 100 ครั้งต่อนักท่องเที่ยว 1 ล้านคน ซึ่งสถานที่ที่เกิดเหตุบ่อยสุดก็คงหนีไม่พ้น ย่านโคมแดง (Red Light District) ในเมืองอัมสเตอร์ดัม เมืองหลวงของประเทศ นอกจากนี้ยังมีสถานที่อื่นๆ ที่เป็นจุดเสี่ยง อย่างพิพิธภัณฑ์แอนน์ แฟรงก์ และพิพิธภัณฑ์ไรจ์คส์มิวเซียม (Rijksmuseum) ที่เก็บรักษาภาพวาดเลอค่าหลายชิ้นไว้
และนอกจากประเทศที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว ยังมีอีกหลายประเทศที่ติดอันดับเหตุโจรกรรมในระดับเลวร้ายได้แก่ โปรตุเกส ตุรกี กรีซ โปแลนด์ ไอร์แลนด์ (ตามลำดับ)
ทั้งนี้ เกรก วิลสัน (Greg Wilson) CEO ของ Quotezone (บริษัทที่ทำการสำรวจ) กล่าวว่า การโจรกรรมด้วยวิธีการต่างๆ นั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานที่ท่องเที่ยวดังๆ ดังนั้น นักท่องเที่ยวควรระมัดระวัง ทำประกันการเดินทางก่อนเริ่มทริป และเก็บของมีค่าไว้ในที่ปลอดภัย รวมถึงศึกษากลยุทธ์ต่างๆ ของโจรล้วงกระเป๋าก่อนการเดินทางเพื่อป้องกันตนเองไว้ล่วงหน้าเสมอ
อ้างอิง: Quotezone.Pickpocketing Statistics in
Europe. https://tinyurl.com/2s3kpn7b
————————————————————————————————————————————————————————–
ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ / วันที่เผยแพร่ 11 ก.ย. 2567
Link : https://www.infoquest.co.th/2024/428702