“เปิดภาพ” ตู้ใส่มาตรวัดน้ำ บนสะพานลาคอ ข้ามแม่น้ำสายบุรี จุดที่คนร้ายซุกระเบิดโจมตีรถบัสของ ตชด. ทำให้รถเสียหลักตกร่องกลางถนน ยอดกำลังพลบาดเจ็บพุ่งเป็น 4 นาย อาการไม่ธรรมดา ต้องนำส่งโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ ยกชุด
29 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่า กลุ่มก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พยายามหากลวิธีใหม่ๆ ในการก่อเหตุลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงอยู่ตลอดเวลา และพลิกแพลงจนฝ่ายรัฐไล่ตามไม่ทัน
เหตุระเบิดโจมตีรถบัสของกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 41 (กก.ตชด.41 จ.ชุมพร) ในพื้นที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อช่วงบ่ายของวันศุกร์ที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ทำให้เห็นถึงความพยายามของกลุ่มคนร้าย
เพราะจุดที่นำระเบิดไปวางซุกเอาไว้เพื่อดักโจมตี เป็นจุดที่น่าจะไม่มีใครคาดคิดว่าจะสามารถนำระเบิดไปวางได้ นั่นก็คือ “ตู้ใส่มาตรวัดน้ำ” ซึ่งติดตั้งอยู่ใกล้ราวกลางสะพาน และเมื่อรถเป้าหมายแล่นผ่าน ก็จุดระเบิดทำให้เกิดระเบิดขึ้น
ที่น่าตกใจก็คือ ข้อมูลจากตำรวจเชื่อว่า คนร้ายลอบซุกระเบิดตอนกลางวัน เพราะ พล.ต.ท.ปิยวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ยืนยันว่า “เป็นการวางแบบเร่งด่วน” ก่อนเกิดระเบิดไม่นาน
พล.ต.ท.ปิยวัฒน์ บอกว่า ได้สั่งการให้หน่วยกำลังในพื้นที่ เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นละแวกที่เกิดเหตุ ในรัศมี 500 เมตร รวมถึงพื้นที่เป้าหมายอื่นๆ อย่างเร่งด่วน เนื่องจากเชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนในพื้นที่เกิดเหตุที่เฝ้าสังเกตหากลวิธีก่อเหตุในครั้งนี้ รวมทั้งเลี่ยงความสนใจ แอบนำระเบิดไปซุกไว้ได้ ทั้งยังรู้เส้นทางหลบหนีเป็นอย่างดี
เบื้องต้นเชื่อว่าคนร้ายน่าจะนำระเบิดมาซุกไว้ก่อนเกิดเหตุไม่นานนัก คาดว่าเป็นตอนกลางวัน จึงสั่งการให้ชุดสืบสวนในพื้นที่ติดตามหาข่าว รวมไปถึงตรวจสอบภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด หรือซีซีทีวี ตามไหล่ทาง เพื่อหาเบาะแสคนร้ายให้ได้มากที่สุด
โดยปกติคนร้ายจะใช้วิธีวางระเบิดไว้ข้างทาง กรณีเป็นการลอบโจมตีแบบเร่งด่วน โดยมีเป้าหมายเป็นยานพาหนะที่สัญจรอยู่บนถนน โดยอาจซุกถังขยะริมทาง หรือวางหลบหลังเสาไฟฟ้าริมถนน แต่หากเป็นการวางระเบิดแบบวางแผนล่วงหน้า จะมีการขุดหลุมฝังระเบิด หรือนำไปวางในท่อลอดใต้ถนน ซึ่งต้องขุดหลุมลงไปเหมือนกัน ถือว่าต้องมีการวางแผนและต้องใช้เวลาในการตระเตรียมพื้นที่สำหรับการวางระเบิดมากพอสมควร
ระยะหลังๆ เมื่อโดนโจมตีในรูปแบบเดิมๆ ซ้ำๆ หลายครั้ง ทำให้เจ้าหน้าที่ก็เริ่มจับทางได้บ้าง มีความระมัดระวัง และป้องกันจุดเสี่ยงต่างๆ มีการส่งกำลังออกลาดตระเวนตามริมถนน และตรวจหาหลุมตามจุดที่มีลักษณะ Killing Zone หรือพื้นที่ที่เหมาะกับการโจมตี เช่น เป็นทางโค้ง มีหญ้ารกทึบริมทาง ซึ่งคนร้ายมักจะขุดไว้เพื่อรอนำระเบิดไปวาง และที่ผ่านมาก็ตรวจพบ สามารถกลบหลุม หรือสกัดการลอบโจมตีได้หลายครั้ง
และการใช้มุกใหม่ก็ประสบความสำเร็จ เจ้าหน้าที่สกัดการระเบิดไม่ได้ และระเบิดยังก่อความเสียหายไม่น้อย ทั้งกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บถึง 4 นาย ต้องช่วยชีวิตกันอย่างทุลักทุเล ทั้งยังทำให้รถบัสของ ตชด.เสียหลักตกถนน ตัวถังเป็นรูพรุน และได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุ
พันเอก เอกวริทธิ์ ชอบชูผล โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ให้ข้อมูลว่า ตชด.ที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี ซึ่งอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ เมื่อปฐมพยาบาลเบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว ได้เคลื่อนย้ายไปยังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ทั้งหน่วยเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด หรืออีโอดี พร้อมชุดพิสูจน์หลักฐาน ได้เข้าตรวจที่เกิดเหตุอย่างละเอียดเพื่อรวบรวมหลักฐานและวัตถุพยานต่างๆ นำไปเป็นเบาะแสในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว
บึ้มบัส ตชด. วางแผนล็อกเป้า หวังดับ จนท.ยกคัน
วิธีการของคนร้ายคือ นำระเบิดแสวงเครื่องไปใส่ไว้ในตู้ใส่มาตรวัดน้ำ ที่อยู่บริเวณติดกับราวสะพานลาคอ ซึ่งเป็นสะพานข้ามแม่น้ำสายบุรี บนเส้นทางของถนนหลวงสาย 42 ฝั่งนราธิวาส-ปัตตานี ในการดักโจมตีรถบัสของเจ้าหน้าที่ ตชด.
ข้อสังเกตถึงเหตุการณ์ลอบวางระเบิดของคนร้ายในครั้งนี้หลายประเด็น
1. การวางระเบิดจุดที่เป็นสะพานในอดีต คนร้ายจะซุกซ่อนระเบิดไว้บริเวณคอสะพานเป็นส่วนใหญ่ แต่ปัจจุบันเจ้าหน้าที่เริ่มจับทางได้ และตรวจพบระเบิดในลักษณะนี้ ก่อนที่จะเกิดเหตุ ทำให้ทำการไม่สำเร็จ
ส่งผลให้กลุ่มคนร้ายพยายามปรับเปลี่ยนจุดซุกซ่อนระเบิดในจุดที่เป็นสะพาน เพื่อหลบให้พ้นสายตาจากตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนเส้นทาง ไม่ให้พบเจอระเบิด จึงเป็นที่มาของการเลือกซุกระเบิดในตู้มาตรวัดน้ำ
2. จากการเลือกจุดซุกระเบิดของคนร้าย คือ ใส่ในตู้มาตรวัดน้ำ ซึ่งติดตั้งอยู่กับราวสะพานด้านใน บริเวณกลางสะพานค่อนไปทางขาขึ้นสะพานเล็กน้อย พบว่า หากเกิดระเบิดขึ้นในขณะที่รถวิ่งผ่าน แรงอัดและสะเก็ดระเบิดจะพุ่งไปถูกบริเวณด้านฝั่งพลขับรถ ทำให้โอกาสเกิดความสูญเสียมีมากกว่าการวางระเบิดริมถนน
กรณีการวางระเบิดรถบัสของเจ้าหน้าที่ ตชด.ที่เกิดขึ้น จากสภาพร่องรอยความเสียหายจากแรงระเบิดที่ตัวรถ พบว่าส่วนที่ถูกสะเก็ดระเบิดมากที่สุด คือ บริเวณโซนพลขับ ซึ่งหากหลังเกิดระเบิดแล้ว พลขับไม่สามารถควบคุมรถบัสให้ผ่านพ้นสะพานไปได้ จนทำให้รถเกิดชนราวสะพานและตกลงไปในแม่น้ำสายบุรี อาจจะทำให้เกิดการสูญเสียขนาดใหญ่ได้ เพราะจุดที่เกิดระเบิดยังอยู่กลางสะพาน
3. การวางระเบิดที่เกิดขึ้น น่าเชื่อได้ว่าไม่ใช่การจุดระเบิดด้วยตั้งเวลา แต่เป็นการกดสั่งจุดระเบิดของคนร้าย เพราะมีความแม่นยำมาก แม้รถจะวิ่งด้วยความเร็วก็ตาม เพราะบนสะพาน ช่วงเสาราวสะพานหรือ ตัวตู้มาตรวัดน้ำที่คนร้ายซุกซ่อนระเบิดเอง ก็เป็นจุดสำคัญที่ใช้ในการกะระยะเพื่อกดระเบิดได้แม่นยำขึ้น
จากเดิมการกดสั่งระเบิดที่ซุกไว้ริมถนน ถ้าไม่ซุกไว้ที่โคนเสาไฟฟ้า ก็จะซุกไว้ที่หลักกิโลริมถนน หรือโคนต้นไม้ริมถนน เพราะสามารถใช้เป็นจุดคำนวณกะระยะในการจุดระเบิดได้ ส่วนในจุดที่ไม่มีต้นไม้ หรือเสาไฟฟ้า ในอดีตเจ้าหน้าที่ก็เคยพบ “การปักกิ่งไม้” เพื่อทำเป็นจุดคำนวณกะระยะแทน
4. รถบัสของ ตชด. เป็นเป้าหมายที่กลุ่มคนร้ายเลือกมาแล้ว จากที่เป็นยานพาหนะขนาดใหญ่ บรรทุกผู้โดยสารที่เป็นเจ้าหน้าที่จำนวนมาก ถือเป็นเป้าขนาดใหญ่ที่โอกาสจะสร้างความสูญเสียจากการระเบิดได้มากกว่ายานพาหนะของเจ้าหน้าที่ชนิดอื่น
ที่สำคัญในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รถบัสของ ตชด. ไม่ได้มีคันเดียว แต่มีมากกว่า 1 คันที่เคลื่อนตามกันมาเป็นขบวน จึงง่ายแก่การเลือกก่อเหตุ
5. แน่นอนว่า การเลือกเป้าหมายในการก่อเหตุระเบิดเป็นรถบัสของ ตชด. ต้องมีการเตรียมการและวางแผนมาเป็นอย่างดี เป็นไปได้ที่กลุ่มคนร้ายต้องรู้การเคลื่อนไหวของรถบัสว่าจะมาถึงจุดเกิดเหตุเมื่อใด จึงเป็นไปได้ว่า ต้องมีสมาชิกของกลุ่มคนร้ายที่ทำหน้าดูต้นทาง คอยเฝ้าแจ้งความเคลื่อนไหวของรถบัสเมื่อใกล้จะถึงจุดวางระเบิด เพื่อให้คนร้ายที่ทำหน้าที่กดสั่งระเบิด ทราบล่วงหน้า และคำนวณการจุดระเบิดจากเครื่องหมายที่กะระยะเอาไว้
เนื่องจากระยะทางก่อนถึงตัวสะพานลาคอประมาณ 700 เมตร เป็นย่านชุมชนแยกมะนังดาลำ ผู้ที่ทำหน้าที่เฝ้าดูต้นทาง ก็ปะปนอยู่ในหมู่ชาวบ้านได้โดยไม่มีความน่าสงสัย ซึ่งทำให้ได้ผลมากกว่าการวางระเบิดในพื้นที่ป่าห่างไกลชุมชน
หรืออาจเป็นได้ว่า กลุ่มคนร้ายมีการเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของรถบัส ตชด.มาตั้งแต่เริ่มออกจากต้นทางก็เป็นได้
ทั้งหมดนี้เป็นข้อสังเกตที่น่าจะบอกได้ว่า การวางระเบิดครั้งนี้ ไม่ใช่แค่การวางระเบิดเหมือนทุกๆ ครั้งของกลุ่มผู้ก่อเหตุ แต่เป็นการลอบวางระเบิดที่มีการเตรียมการมาอย่างดี และมุ่งหวังให้เกิดความสูญเสียของเจ้าหน้าที่มากที่สุด
แต่ถือว่าโชคดีที่พลขับรถบัส แม้จะบาดเจ็บสาหัส แต่ก็ยังแข็งใจ กัดฟัน จนสามารถควบคุมรถพ้นออกมาจากการตกจากสะพาน ไม่เป็นไปตามที่กลุ่มผู้ก่อเหตุมุ่งหวังได้สำเร็จ
———————————————————————————————————————————————————————————
ที่มา : nationtv / วันที่เผยแพร่ 29 ก.ย.67
Link : https://www.nationtv.tv/news/crime/378949236