เทียบนโยบายดับไฟใต้ 3 รัฐบาล
รัฐบาลไทยรักไทยในอดีต เมื่อ 20 ปีที่แล้ว นำโดย นายทักษิณ ชินวัตร เป็นห้วงเวลาที่ไฟใต้ปะทุรุนแรงขึ้นมา จากเหตุการณ์ปล้นปืนครั้งมโหฬาร เมื่อวันที่ 4 ม.ค.2547 ตามด้วยเหตุรุนแรงรายวันยืดเยื้อยาวนานจนถึงปัจจุบัน
รัฐบาลไทยรักไทยในอดีต เมื่อ 20 ปีที่แล้ว นำโดย นายทักษิณ ชินวัตร เป็นห้วงเวลาที่ไฟใต้ปะทุรุนแรงขึ้นมา จากเหตุการณ์ปล้นปืนครั้งมโหฬาร เมื่อวันที่ 4 ม.ค.2547 ตามด้วยเหตุรุนแรงรายวันยืดเยื้อยาวนานจนถึงปัจจุบัน
เป็นที่ทราบกันดีว่าสถานการณ์ ‘โจรล้วงกระเป๋า’ ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลกระทบอย่างยิ่งต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวในยุโรป ทำให้ที่ผ่านมามีหลายภาคส่วนพยายามทำการศึกษาปัญหาดังกล่าวเพื่อนำไปสู่การแก้ไขและป้องกันการโจรกรรมในหมู่นักท่องเที่ยว (แม้จะมีเสียงบ่นว่าตำรวจไม่เอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้สักทีก็ตาม) ล่าสุดเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา บริษัท ‘Quotezone’ บริษัทประกันภัยสัญชาติอังกฤษก็ได้ทำการรวบรวม-วิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับอัตราการล้วงกระเป๋าในประเทศต่างๆ จนออกมาเป็น ‘European Pickpocketing Index’ หรือ ที่ระบุว่า ประเทศใดบ้าง 10 ลำดับที่มีอัตราการล้วงกระเป๋ามากที่สุดในยุโรป แน่นอนว่าประเทศที่มาเป็นอันดับ 1 ในดัชนีนี้ก็หนีไม่พ้น ‘อิตาลี’ ประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องโจรชุกชุมตลอดกาล โดยมีอัตราล้วงกระเป๋าพุ่งไปที่ 478 ครั้งต่อนักท่องเที่ยว 1 ล้านคน เพิ่มขึ้นเป็น 3 เปอร์เซ็นต์ จากปีที่ผ่านมา และจุดที่มีการล้วงกระเป๋ามากที่สุดนั้น ก็คือบริเวณน้ำพุเทรวี (Trevi Fountain) ในกรุงโรม ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวหนาแน่นกว่า 18,000 คนต่อชั่วโมง ทำให้พื้นที่นี้มีง่ายต่อการก่อเหตุ ส่วนสถานที่มีการล้วงกระเป๋ารองลงมาในโรม ได้แก่ โคลอสเซียม และวิหารแพนธีออน ตามลำดับ และไม่เพียงแค่โรม ดัชนียังระบุว่า สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองอื่นๆ ของอิตาลียังตกเป็นเป้าของการก่อเหตุ มหาวิหารดูโอโมในมิลาน และหอศิลป์อุฟฟิซีในเมื่องฟลอเรนซ์…
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงเม็กซิโกซิตี ประเทศเม็กซิโก เมื่อวันที่ 11 ก.ย. ว่า แผนการปฏิรูประบบตุลาการ ซึ่งผู้สันทัดกรณีหลายคนกล่าวว่า จะทำให้เม็กซิโกเป็นประเทศเดียวในโลก ที่มีการเลือกตั้งผู้พิพากษาทุกคน จุดชนวนให้เกิดการประท้วงครั้งใหญ่, ความตึงเครียดทางการทูต และความวิตกกังวลของนักลงทุน
สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายที่อาจนำไปสู่การปิดสำนักงานเศรษฐกิจและการค้าฮ่องกง (HKETO) ในสหรัฐฯ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับรัฐบาลฮ่องกงเป็นอย่างมาก
รัฐบาลจีนแถลงวันนี้ (11 ก.ย.) ว่าจะดำเนินการตรวจสอบอีเมลที่ส่งเข้ามาแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับกิจกรรมแบ่งแยกดินแดนไต้หวัน โดยยืนยันว่า “คนดีๆ” ทั้งหลายไม่มีอะไรต้องวิตกกังวล
ผู้ประท้วงต่อต้านสงครามจุดไฟเผาถังขยะและขว้างมูลม้าใส่ตำรวจระหว่างการปะทะกันในออสเตรเลียเมื่อวันพุธ โดยเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องสงสัย 33 คน และใช้แก๊สน้ำตา, ระเบิดแสง และสเปรย์พริกไทยสลายฝูงชน
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว