เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา รัฐบาลเยอรมนีให้คำมั่นสัญญาว่าจะบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการพกพามีดในที่สาธารณะ ซึ่งเข้มงวดกว่าเดิม หลังตำรวจรายงานว่า อาชญากรรมที่คนร้ายใช้มีดเป็นอาวุธเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะบริเวณใกล้กับสถานีรถไฟ แม้ตัวเลขสถิติยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ก็ตาม
นายเดิร์ก วีส รองประธานพรรคสังคมประชาธิปไตย (เอสพีดี) ซึ่งเป็นพรรคแกนนำรัฐบาล ของนายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ ผู้นำเยอรมนี กล่าวว่า หน่วยงานความมั่นคงของประเทศต้องมีอำนาจมากขึ้น ในการค้นหาตัวผู้ก่อเหตุตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ดิจิทัล และรัฐบาลจำเป็นต้องมีความคืบหน้าในการแบนอาวุธมีดด้วย
ด้านนางแนนซี เฟเซอร์ รมว.มหาดไทยของเยอรมนี เรียกร้องให้มีการแก้ไขกฎหมาย โดยอนุญาตให้ประชาชนสามารถพกมีดในที่สาธารณะ ขนาด 6 เซนติเมตรเท่านั้น จากเดิมที่ 12 เซนติเมตร ยกเว้นมีดทำครัวที่อยู่ในบรรจุภัณฑ์เดิม และห้ามไม่ให้พกพามีดพกสปริงโดยเด็ดขาด
ทั้งนี้ การประกาศของรัฐบาลเบอร์ลิน มีขึ้นหลังสถิติของตำรวจเยอรมนี บันทึกคดีการทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับมีด เพิ่มขึ้น 9.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่ตำรวจสหพันธ์เยอรมนี หรือบีพีโอแอล ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบความปลอดภัยที่สนามบินและสถานีรถไฟหลักของประเทศ รายงานว่า การก่อเหตุด้วยอาวุธมีดบริเวณพื้นที่ปฏิบัติหน้าที่ของพวกเขา ก็เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม นายเดิร์ก ไบเออร์ นักอาชญาวิทยาชาวเยอรมัน จากสถาบันการป้องกันอาชญากรรมและการกระทำผิด ในเมืองซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ กล่าวว่า เยอรมนีไม่มีข้อมูลมากนัก เกี่ยวกับอาชญากรรมด้วยอาวุธมีด อีกทั้งตำรวจยังจัดให้การโจมตีด้วยอาวุธมีด และการข่มขู่ด้วยอาวุธมีด อยู่ในหมวดหมู่เดียวกัน ส่งผลให้เกิดความคลุมเครือ และทำให้ตัวเลขหรือสถิติ ไม่น่าเชื่อถือเท่าที่ควร
แม้สื่อของเยอรมนี ให้ความสนใจกับอาชญากรรมด้วยอาวุธมีดมากขึ้น ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และพรรคทางเลือกเพื่อเยอรมนี (เอเอฟดี) ซึ่งเป็นพรรคขวาจัด กล่าวโทษ “นโยบายการอพยพ” ของรัฐบาลเบอร์ลิน แต่บรรดานักอาชญาวิทยาชี้ว่า อาชญากรรมรุนแรงไม่ได้เชื่อมโยงกับภูมิหลังของผู้อพยพเสมอไป
“เราไม่ควรพูดเรื่องที่ว่าพวกเขามาจากประเทศไหน แต่ชีวิตของพวกเขาอยู่ในสถานกาณ์แบบใดมากกว่า เช่น พวกเขาเติบโตมาในสภาพแวดล้อมแบบใด, มีเพื่อนคนไหนที่คิดว่าการพกมีดเป็นสิ่งสำคัญ, มีภูมิหลังทางการศึกษาเป็นอย่างไร ซึ่งพวกเราต้องพิจารณาสถานการณ์ทางสังคมของพวกเขา และไม่ยึดติดกับสัญชาติ” ไบเออร์ กล่าวเสริม
อนึ่ง ไบเออร์ตั้งข้อสงสัยว่า กฎหมายของรัฐบาลเบอร์ลิน จะสร้างความแตกต่างในระยะยาวหรือไม่ แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็มองว่าอย่างน้อยที่สุด กฎหมายที่เข้มงวดมากขึ้น จะช่วยลดความซับซ้อนในกฎหมายของเยอรมนีได้ เนื่องจากในปัจจุบัน รัฐแต่ละรัฐในประเทศ ต่างมีกฎระเบียบเป็นของตนเอง ว่ามีดประเภทไหนที่สามารถพกพา หรือไม่สามารถพกพาได้
“มันถือเป็นสัญญาณที่ดี แต่ถ้าคุณกำลังมองหาประโยชน์ในแง่ของการป้องกันอาชญากรรมด้วยอาวุธมีด ผมคิดว่ามันจะไม่เกิดขึ้นแต่อย่างใด เพราะผู้คนที่พกมีดอันตราย จะทำเช่นนั้นต่อไป ไม่ว่ามันจะถูกกฎหมายหรือไม่ก็ตาม” ไบเออร์ กล่าวทิ้งท้าย
บทความโดย : เลนซ์ซูม
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES
———————————————————————————————————————————————————————————
ที่มา : เดลินิวส์ออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 5 ก.ย. 67
Link : https://www.dailynews.co.th/articles/3824450/