จากการที่ไรอัน เวสลีย์ เราธ์ ได้วางแผนลอบสังหารโดนัลด์ ทรัมป์ ขณะนี้ทางการสหรัฐฯ แถลงว่าผู้ต้องสงสัยวัย 58 ปีรายนี้เคยเขียนจดหมายสารภาพมาหลายเดือนก่อนหน้า ซึ่งเขาไม่เพียงแต่คาดการณ์ถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นเท่านั้น
ไรอัน เวสลีย์ เราธ์ ถูกสงสัยว่าวางแผนลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แผนการโจมตีของเขาเมื่อช่วงกลางเดือนกันยายนที่สนามกอล์ฟของโดนัลด์ ทรัมป์ในฟลอริดาถูกขัดขวาง เราธ์ซึ่งถูกกล่าวหาว่าพยายามใช้อาวุธปืนยิงทรัมป์นั้น ถูกตั้งข้อหาครอบครองอาวุธ
ขณะนี้ทางการสหรัฐฯ ได้เปิดเผยข้อมูลที่ค้นพบเพิ่มเติมแล้ว มีบุคคลที่ไม่เปิดเผยชื่อออกมาแสดงตัวหลังจากที่เราธ์ถูกจับกุมได้ไม่นาน บุคคลดังกล่าวอ้างว่ารู้จักและเคยได้รับกล่องจากชายวัย 58 ปี และเพิ่งเปิดกล่องใบนั้นดูหลังจากทราบข่าวที่เกิดขึ้น ภายในกล่องมีกระสุนปืน ท่อโลหะ เครื่องมือและวัสดุก่อสร้าง โทรศัพท์สี่เครื่อง และเอกสารต่าง ๆ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ได้เผยแพร่จดหมายที่บรรจุในกล่องนั้น
“โลกที่รัก นี่เป็นความพยายามลอบสังหารโดนัลด์ ทรัมป์ แต่ผมกระทำการล้มเหลว ผมพยายามอย่างเต็มที่และทุ่มเทสุดตัวเพื่อการนี้” เราธ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่สืบสวนระบุว่ามีเงินน้อย ได้เสนอเงินรางวัล 150,000 ดอลลาร์ในจดหมาย ให้กับใครก็ตามที่สามารถ “ทำงานให้สำเร็จลุล่วง”
สำนักงานอัยการสหรัฐฯ ยังกล่าวด้วยว่า มีการตรวจสอบพบสัญญาณโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องสงสัยที่หอคอยใกล้กับสนามกอล์ฟและบ้านของทรัมป์ในฟลอริดาหลายครั้งในช่วงหนึ่งเดือนก่อนเกิดเหตุพยายามลอบสังหาร อีกทั้งยังพบโทรศัพท์มือถือ 6 เครื่องในรถของเราธ์ รวมถึงลิสต์ที่เขียนด้วยลายมือระบุวันที่และสถานที่ที่ทรัมป์จะเดินทางไปในช่วงเดือนสิงหาคม กันยายน และตุลาคม
เมื่อกลางเดือนกันยายน หน่วยสืบราชการลับค้นพบผู้ต้องสงสัยติดอาวุธซึ่งอยู่ห่างจากทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันไปเพียงไม่กี่ร้อยเมตร กำลังซุ่มอยู่ในพุ่มไม้บริเวณรั้วรอบสนามกอล์ฟของทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีกำลังเล่นกอล์ฟอยู่กับเพื่อนของเขาที่นั่น
มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้เปิดฉากยิงชายคนนั้นในขณะที่เขายังไม่ได้ลั่นกระสุนปืน ผู้ต้องสงสัยซึ่งถูกระบุในภายหลังว่าคือไรอัน เวสลีย์ เราธ์ ได้หลบหนีเข้าไปในรถ และถูกจับกุมใกล้กับที่เกิดเหตุในเวลาไม่นานต่อมา
———————————————————————————————————————————————————————————
ที่มา : ไทยโพสต์ / วันที่เผยแพร่ 24 ก.ย.67
Link : https://www.thaipost.net/abroad-news/661945/