
ร่างกฎหมายฉบับใหม่ของอินเดีย เกี่ยวกับการควบคุมบริการแพร่ภาพกระจายเสียง เสนอให้มีการกำกับดูแลผู้สร้างข่าวอิสระบนแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ เช่น ยูทูบ และอินสตาแกรม นับเป็นการขยายอำนาจของรัฐบาลนิวเดลี ในการควบคุมเนื้อหาสื่อดิจิทัลอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้หลายคนกังวลว่า เสรีภาพของสื่อ และเสรีภาพในการพูดทางออนไลน์ อาจถูกขัดขวาง
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวชาวอินเดียจำนวนมาก หันไปประกอบอาชีพบนสื่อสังคมออนไลน์ หลังลาออกจากสำนักข่าวหรือสื่อที่พวกเขาทำงานให้ ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้าของบริษัทไม่กี่ราย ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัฐบาลนิวเดลี ส่งผลให้พวกเขาสามารถตั้งคำถามสำคัญต่อรัฐบาล และหยิบยกประเด็นที่ไม่สามารถพูดถึงได้ก่อนหน้านี้ ท่ามกลางเสรีภาพสื่อในประเทศ ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง
กระนั้น ร่างกฎหมายกำกับดูแลบริการแพร่ภาพกระจายเสียง ฉบับปี 2567 ซึ่งครอบคลุมการออกอากาศผ่านอินเทอร์เน็ต (โอทีที) ในกลุ่มผู้ให้บริการรายอื่น ก่อให้เกิดความกังวลเป็นพิเศษ เนื่องจากคำจำกัดความของ “ผู้ประกาศข่าวดิจิทัล” (ดีเอ็นบี) ที่คลุมเครือ และ “ภาระการกำกับดูแล” ที่บังคับใช้กับพวกเขา”
อนึ่ง ร่างกฎหมายฉบับใหม่กำหนดให้ดีเอ็นบี เป็นบุคคลที่ผลิตเนื้อหา หรือเขียนเกี่ยวกับเหตุการณ์ปัจจุบัน หรือข่าวอื่น ๆ ทางออนไลน์ รวมถึงช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ ตามส่วนหนึ่งของกิจกรรมทางธุรกิจ, ทางวิชาชีพ หรือเชิงพาณิชย์อย่างเป็นระบบ ซึ่งคำจำกัดความที่กว้างเช่นนี้ อาจรวมถึงอินฟลูเอนเซอร์ด้านฟิตเนส ที่พูดถึงนโยบายด้านสุขภาพและโภชนาการของรัฐบาลด้วย
ดีเอ็นบีจะต้องแจ้งสถานะของพวกเขาให้รัฐบาลทราบ ภายในหนึ่งเดือนนับจากวันประกาศใช้กฎหมาย ตลอดจนแต่งตั้งเจ้าหน้าที่จัดการเรื่องร้องเรียนภายใน และเข้าร่วมองค์กรกำกับดูแลตนเองที่จัดตั้งขึ้นตามกฎของรัฐบาล โดยผู้ที่ฝ่าฝืนอาจได้รับคำเตือน และถูกปรับตั้งแต่ 20,000 รูปีอินเดีย (ราว 8,400 บาท) ไปจนถึง 25 ล้านรูปีอินเดีย (ราว 10.5 ล้านบาท)
ความพยายามของรัฐบาลนิวเดลี ในการยกระดับการควบคุมเนื้อหาออนไลน์ เกิดขึ้นในช่วงที่ชาวอินเดียรุ่นใหม่จำนวนมาก หันมาติดตามข่าวสารผ่านสื่อสังคมออนไลน์ แทนหนังสือพิมพ์หรือโทรทัศน์ ซึ่งนักข่าวบางคนมองว่า รัฐบาลตระหนักถึงอำนาจของอินฟลูเอนเซอร์และสื่อสังคมออนไลน์ “เป็นอย่างดี” และต้องการควบคุมอำนาจนั้น
ทั้งนี้ ร่างกฎหมายฉบับเดิมซึ่งเผยแพร่เมื่อเดือน พ.ย. ปีที่แล้ว ถูกแทนด้วยฉบับปัจจุบัน แต่การปรึกษาหารืออย่างลับ ๆ และจังหวะการเปิดเผยร่างกฎหมายฉบับแก้ไขต่อสาธารณชน ซึ่งเกิดขึ้นไม่นานหลังการเลือกตั้งทั่วไปสิ้นสุดลง ทำให้เกิดการคาดเดาว่า ร่างกฎหมายฉบับใหม่นี้ อาจเป็นความพยายามของรัฐบาลอินเดีย ที่ต้องการจำกัดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทางออนไลน์
นอกจากนี้ มีความกังวลว่า การควบคุมของรัฐบาลตามที่ระบุไว้ในร่างกฎหมาย อาจทำให้คนหนุ่มสาวชาวอินเดีย ไม่สามารถหารายได้จากการเป็นผู้สร้างคอนเทนต์ในเศรษฐกิจที่ขาดแคลนตำแหน่งงาน จนถึงขั้นอาจขัดขวางการเติบโตของธุรกิจสื่อออนไลน์ได้
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES
————————————————————————————————————————————————————————–
ที่มา : เดลินิวส์ออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 19 ส.ค.67
Link : https://www.dailynews.co.th/articles/3764395/