สมาคมความปลอดภัยทางไซเบอร์ของจีน (CSAC) เรียกร้องให้มีการตรวจสอบความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ Intel ที่จำหน่ายในประเทศจีน โดยอ้างว่าผู้ผลิตชิปของสหรัฐฯ รายนี้ “สร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่อง” ต่อความมั่นคงและผลประโยชน์ของชาติ
CSAC ถึงแม้จะเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมมากกว่าจะเป็นหน่วยงานของรัฐ แต่ก็มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัฐบาลจีน ข้อกล่าวหาต่อ Intel ที่เผยแพร่ในโพสต์บนบัญชี WeChat อย่างเป็นทางการ อาจก่อให้เกิดการตรวจสอบความปลอดภัยจากหน่วยงานกำกับดูแลไซเบอร์สเปซที่มีอำนาจของจีน คือ Cyberspace Administration of China (CAC)
ทั้ง Intel และ CAC ไม่ได้ตอบสนองต่อคำร้องขอความคิดเห็นในทันที แต่ล่าสุดหุ้นของบริษัท (INTC) ลดลง 2.7% ในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดของสหรัฐฯ ท่ามกลางการเทขายหุ้นเทคโนโลยี หลังจาก ASML ผู้ผลิตอุปกรณ์ชิป รายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวัง
“ขอแนะนำให้เริ่มต้นการตรวจสอบความปลอดภัยทางเครือข่ายสำหรับผลิตภัณฑ์ Intel ที่จำหน่ายในประเทศจีน เพื่อปกป้องความมั่นคงของชาติจีน และสิทธิและผลประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของผู้บริโภคชาวจีน” CSAC กล่าว
เมื่อปีที่แล้ว CAC ได้สั่งห้ามผู้ประกอบการโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในประเทศ ซื้อผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดย Micron Technology Inc ผู้ผลิตชิปหน่วยความจำของสหรัฐฯ หลังจากพิจารณาแล้วว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทไม่ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยทางเครือข่าย การตรวจสอบความปลอดภัยที่คล้ายกันในผลิตภัณฑ์ของ Intel อาจส่งผลเสียต่อรายได้ของบริษัท ซึ่งมากกว่าหนึ่งในสี่มาจากประเทศจีนเมื่อปีที่แล้ว
ข้อกล่าวหาดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่จีนกำลังเผชิญกับความพยายามของสหรัฐฯ ในการจำกัดการเข้าถึงอุปกรณ์และส่วนประกอบสำคัญในการผลิตชิป ซึ่งวอชิงตันระบุว่าเป็นความพยายามที่จะหยุดยั้งการพัฒนาทางทหารของจีน
CSAC กล่าวหาว่าชิปของ Intel รวมถึงโปรเซสเซอร์ Xeon ที่ใช้สำหรับงานปัญญาประดิษฐ์ มีช่องโหว่หลายจุด โดยสรุปว่า Intel “มีข้อบกพร่องที่สำคัญในด้านคุณภาพของผลิตภัณฑ์ การจัดการความปลอดภัย ซึ่งบ่งชี้ว่าเป็นทัศนคติที่ขาดความรับผิดชอบอย่างยิ่งต่อลูกค้า” และยังระบุด้วยว่าระบบปฏิบัติการที่ฝังอยู่ในโปรเซสเซอร์ Intel ทั้งหมด มีช่องโหว่ต่อ Backdoor ที่สร้างขึ้นโดย National Security Agency (NSA) ของสหรัฐฯ
“สิ่งนี้ก่อให้เกิดภัยคุกคามด้านความปลอดภัยอย่างมากต่อโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลที่สำคัญของประเทศต่างๆ ทั่วโลกรวมถึงจีน การใช้ผลิตภัณฑ์ Intel ก่อให้เกิดความเสี่ยงร้ายแรงต่อความมั่นคงของชาติ” CSAC กล่าว
การสั่งห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ของ Intel แม้จะเป็นการชั่วคราว อาจทำให้การจัดหาชิป AI ในตลาดจีนตึงตัวขึ้น ซึ่งพยายามหาทางเลือกอื่นแทนผลิตภัณฑ์ล้ำสมัยจาก NVIDIA ซึ่งครองตลาดทั่วโลก แต่ปัจจุบันถูกห้ามส่งออกไปยังประเทศจีน
ก่อนหน้านี้ Intel ได้รับคำสั่งซื้อโปรเซสเซอร์ Xeon จากหน่วยงานที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลจีนหลายแห่งในปีนี้ เพื่อใช้ในงาน AI แต่ในปัจจุบันกำลังถูกตรวจสอบอย่างเร่งด่วนและสั่งห้ามใช้ชิปของ Intel ในจีนชั่วคราว
การสั่งห้ามใช้ชิป Intel ในจีนครั้งนี้ ยิ่งตอกย้ำสถานการณ์ตึงเครียดในตลาดชิป AI ที่กำลังร้อนระอุอยู่แล้ว โดยมีปัจจัยสำคัญไม่ว่าจะเป็น สงครามการค้าและเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐฯ และจีน, การพัฒนา AI กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วทั่วโลก ความต้องการชิป AI จึงเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก ซึ่งสถานการณ์ของอุตสาหกรรมชิปเซมิคอนดักเตอร์ในปัจจุบันกำลังแข่งขันกันอย่างรุนแรง
ฝั่งของยักษ์ใหญ่ NVIDIA (NVDA) แม้จะเป็นผู้นำตลาดชิป AI แต่ได้รับผลกระทบจากการห้ามส่งออกไปจีน ทำให้ต้องปรับกลยุทธ์ เช่น การพัฒนาชิปเวอร์ชันลดประสิทธิภาพเพื่อขายในจีน ราคาหุ้น NVIDIA มีความผันผวนสูง ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงความสำเร็จในการพัฒนาชิปใหม่ ๆ
AMD เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นสำคัญในตลาดชิป AI แม้จะไม่ได้รับผลกระทบจากการห้ามส่งออกเท่า NVIDIA แต่ก็ยังมีความเสี่ยงจากความตึงเครียดทางการค้า ราคาหุ้น AMD มีแนวโน้มเติบโต แต่ยังต้องจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
TSMC และ Samsung ซึ่งถือเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของโลก ได้รับอานิสงส์จากความต้องการชิปที่เพิ่มขึ้น แต่ก็มีความเสี่ยงจากการเมืองระหว่างประเทศ และการแข่งขันที่รุนแรง ราคาหุ้นของทั้งสองบริษัทมีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว
สถานการณ์การสั่งห้ามใช้ชิป Intel ในจีน สะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนของตลาดชิป AI ที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ ทั้งด้านเทคโนโลยี การเมือง และเศรษฐกิจ นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และกระจายความเสี่ยงในการลงทุน
———————————————————————————————————————————————————————————
ที่มา : Spring News / วันที่เผยแพร่ 17 ต.ค.67
Link : https://www.springnews.co.th/digital-tech/technology/853468