สหประชาชาติ ระบุว่า เครือข่ายอาชญากรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ทรงอิทธิพล ใช้แอปพลิชันเทเลแกรมอย่างแพร่หลาย เพื่อให้สามารถดำเนินกิจกรรมผิดกฎหมายครั้งใหญ่
สำนักงานปราบปรามยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ระบุว่า เครือข่ายอาชญากรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ทรงอิทธิพล ใช้แอปพลิชันเทเลแกรมอย่างแพร่หลาย เพื่อให้สามารถดำเนินกิจกรรมผิดกฎหมายครั้งใหญ่
รายงานดังกล่าวเป็นข้อกล่าวหาล่าสุดที่จะถูกยื่นฟ้องต่อแอปฯ เทเลแกรม นับตั้งแต่ฝรั่งเศสใช้กฎหมายใหม่ที่เข้มงวด โดยกล่าวหาว่านายพาเวล ดูรอฟ ผู้ก่อตั้งเทเลแกรม อนุญาตให้มีกิจกรรมทางอาญาบนแพลตฟอร์ม
รายงานระบุว่า ข้อมูลที่ถูกแฮ็ก เช่น รายละเอียดบัตรเครดิต รหัสผ่าน และประวัติการใช้เบราว์เซอร์ ถูกซื้อขายกันอย่างเปิดเผยบนแอปฯ ซึ่งมีช่องทางที่กว้างขวางและแทบไม่มีการควบคุม นอกจากนั้น เครื่องมือที่ใช้สำหรับอาชญากรรมทางไซเบอร์ รวมถึงซอฟต์แวร์ที่เรียกว่า “ดีปเฟค” ซึ่งออกแบบมาเพื่อการฉ้อโกง และมัลแวร์ขโมยข้อมูล ก็ถูกซื้อขายกันอย่างแพร่หลายเช่นกัน ในขณะที่การแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ไม่ได้รับอนุญาตก็ให้บริการฟอกเงิน
รายงานระบุว่า มีหลักฐานชัดเจนที่บ่งชี้ว่าตลาดข้อมูลใต้ดินกำลังย้ายไปยังเทเลแกรม และผู้ขายพยายามหาทางกำหนดเป้าหมายกลุ่มอาชญากรข้ามชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กลายเป็นศูนย์กลางหลักของอุตสาหกรรมมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ที่มีเป้าหมายเป็นเหยื่อทั่วโลกด้วยแผนการฉ้อโกง ระบุว่า องค์กรอาชญากรรมเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นแก๊งชาวจีนที่ทำงานอยู่ในพื้นที่ปิดแน่นหนา ใช้คนทำงานที่ถูกล่อลวงมา มีเงินหมุนเวียนปีละ 27,400 – 36,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 915,900 ล้านบาท-1.22 ล้านล้านบาท)
ที่มา Reuters
———————————————————————————————————————————————————————————
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 8 ต.ค.67
Link : https://www.thairath.co.th/news/foreign/2818832