ปัจจุบันรูปแบบการหลอกลวงของมิจฉาชีพถูกพัฒนา เปลี่ยนไปตามยุคสมัยและมีหลากหลายรูปแบบมากขึ้น แต่จะมีกลลวงที่มิจฉาชีพนิยมนำมาใช้บ่อย ๆ คือ
1. หลอกให้ซื้อสินค้าหรือบริการออนไลน์ แต่เมื่อโอนเงินไปแล้วกลับไม่ได้รับสินค้า หรือ ได้รับสินค้าไม่ตรงปกตามที่สั่ง เมื่อผู้ซื้อทวงถาม ผู้ขายก็หายเงียบ
2. หลอกโอนเงินเพื่อแลกกับการได้งาน พบมากตั้งแต่ช่วง COVID-19 ที่ผ่านมา เพราะในช่วงนั้น เป็นช่วงที่คนว่างงาน ตกงานเยอะ มิจฉาชีพจึงอาศัยช่องโหว่หลอกให้ทำงานง่าย ๆ ทางออนไลน์ รายได้ดี หลายร้อยบาทต่อวัน แต่มีเงื่อนไข คือ จะต้องเติมเงินเข้าระบบก่อน เพื่อเปิดระบบงาน และเมื่อเวลาผ่านไปก็จะไม่สามารถถอนเงินออกมาได้
3. หลอกให้กู้เงิน กรณีนี้มักมุ่งไปยังผู้มีปัญหาทางการเงิน อาจจะมาจากระบบ SMS ที่ส่งแบบหว่าน หรือ จากความตั้งใจของผู้ตกเป็นเหยื่อที่ต้องการหากู้ยืมเงินเอง รูปแบบของการหลอกคือให้ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อกดเข้าไปในลิงก์สำหรับกู้ยืมเงิน หลังจากนั้นจะมีวิธีล่อให้ผู้ที่เป็นเหยื่อโอนเงินไปก่อนเพื่อเป็นเครดิต จากนั้นเหยื่อก็จะไม่สามารถติดต่อมิจฉาชีพได้ เสียทั้งความหวัง เสียทั้งเงินที่มี
4. หลอกให้ลงทุน มิจฉาชีพมักจะหวังเงินก้อนใหญ่จากการหลอกลวงในรูปแบบนี้ โดยการหลอกให้ลงทุนจะมีทั้งลงทุนในหุ้น ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ไปจนถึงการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล รูปแบบในการหลอกลวงมีได้ตั้งแต่การสร้างความเชื่อใจผ่านคนใกล้ตัว หรือวิธีที่นิยมในตอนนี้คือการหลอกให้ติดตั้งแอปพลิเคชันเพื่อการเทรดโดยเฉพาะ
5. ข่มขู่ทางโทรศัพท์เพื่อรีดทรัพย์ ถือเป็นกรณีที่มักจะมีผู้คนถูกหลอกให้เสียทรัพย์ค่อนข้างมาก อีกทั้งยังเกิดขึ้นได้บ่อยไม่เว้นแม้แต่บุคคลที่มีชื่อเสียงก็สามารถตกเป็นเหยื่อได้
——————————————————————————————–
ที่มา : ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย / วันที่เผยแพร่ 20 ธ.ค.67
Link : https://shorturl.at/pJrmY